เจ้านายใจป้ำ มอบรถใหม่ให้ “ลูกจ้าง” หลังเดินเท้าทั้งคืน 32 กิโลเมตร เพื่อมาทำงานวันแรกให้ทัน

เจ้านายใจป้ำ มอบรถให้ “ลูกจ้าง” เดินเท้าทั้งคืน 32 กิโลเมตร เพื่อมาทำงานวันแรกให้ทัน (ชมคลิปท้ายข่าว)


สุดยอดเจ้านายในสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจมอบรถยนต์คันใหม่ให้กับพนักงานของตัวเอง ที่ต้องเดินเท้าทั้งคืน ระยะทางกว่า 32 กิโลเมตรเพื่อจะไปทำงานวันแรกให้ทัน  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พนักงานผู้โชคดีคนนี้ มีชื่อว่า วอลเตอร์ คาร์ พนักงานบริษัทขนย้ายแห่งหนึ่ง ในสหรัฐฯ ทันทีที่ทราบว่าเจ้านายจะมอบรถยนต์คันใหม่ให้ เจ้าตัวถึงกับไม่เชื่อหูตัวเอง รายงานข่าวระบุว่า รถของเขาเกิดมาเสียในวันที่ต้องเริ่มงานวันแรก
เจ้าตัวจึงตัดสินใจเดินเท้า โดยออกจากบ้านตั้งแต่เที่ยงคืน รวมระยะทางกว่า 32 กิโลเมตร ผ่านหลายเขตของรัฐแอละแบมา ซึ่งระหว่างทาง มีตำรวจพบเห็นจึงเข้าไปซักถาม เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดก็รู้สึกประทับใจ จึงพาไปเลี้ยงข้าวเช้า และพาไปส่งที่บ้านของลูกค้า ทันทีที่ลูกค้าทราบเรื่อง ก็ได้โพสต์ความประทับใจลงไปในเฟซบุ๊ก โดยบอกว่า เด็กหนุ่มคนนี้มาถึงบ้านของพวกเราก่อนเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

และยืนยันที่จะเริ่มงานทันที โดยไม่พักก่อน ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมเป็นจำนวนมาก  ขณะที่เรื่องถึงหู ลุค มาร์ติน ซีอีโอของบริษัทขนย้าย เขาจึงตัดสินใจขับรถจากรัฐเทนเนสซี มาพบพนักงานใหม่คนนี้ ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกัน มาร์ตินก็ยื่นกุญแจรถ “ฟอร์ด เอสเคป” รุ่นปี 2014 ให้นายคาร์ทันที ทำเอาเจ้าตัวตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก  นอกจาก รางวัลจากเจ้านายแล้ว ในโลกออนไลน์ก็มีการเปิดระดมทุนเพื่อซ่อมรถให้นายคาร์ด้วย โดยรวบรวมเงินได้มากถึงเกือบ 2 แสน 5 หมื่นบาท
สำหรับการทำงานแต่ละบริษัท สวัสดิการพนักงานที่ควรมี และตัวพนักงานก็ควรรู้ สวัสดิการพนักงาน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าคือแรงผลักดันที่กระตุ้นพนักงานที่เป็นตัวการให้บริษัทดำเนินธุรกิจบรรลุตามเป้าหมายประสบความสำเร็จ พนักงานถือได้ว่าเป็นเบื้องหลังที่ลุยทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ธุรกิจทุกประเภทเติบโต แต่หากจะได้มาด้วยความสำเร็จบริษัทก็ต้องให้ผลตอบแทนพนักงานที่นอกเหนือจากค่าจ้างที่ปัจจุบันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญและทุกบริษัทจำเป็นต้องมีโดยสวัสดิการที่สำคัญๆที่ควรจะมีเอาไว้ในบริษัท ดังนี้

1. เครื่องแบบพนักงาน , ชุดยูนิฟอร์ม เรื่องสวัสดิการเครื่องแบบพนักงาน ส่วนใหญ่เราทำงานกัน 6 วัน จันทร์ – เสาร์ ส่วนใหญ่บริษัทก็จะจัดให้คนละ 3 – 5 ชุด(แล้วแต่บริษัท) ให้กับพนักงานหลังจากผ่านทดลองงาน บางบริษัทก็ไม่มีข้อกำหนดเรื่องเครื่องแบบ แต่ขอให้แต่งกายสุภาพเหมาะสมกับสถานที่ บางบริษัทอาจมีการสั่งตัดเป็นพิเศษ แต่เกิดมีปัญหาหากพนักงงานลาออก จึงทำให้บริษัทอาจมีการเก็บค่าชุดยูนิฟอร์ม แต่ก็ไม่ค่อยคุ้มเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้โดยไม่จำเป็น ส่วนใหญ่มักเป็นบริษัทขนาดใหญ่ หรือโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีพนักงานจำนวนมากๆ จะมีการกำหนดให้ใส่เครื่องแบบหรือชุดยูนิฟอร์ม เพื่อความเป็นระเบียบในการทำงาน และสามารถแยกฝ่ายและหน้าที่ความรับผิดชอบได้ และชุดเครื่องแบบบางชนิดจำเป็นต้องใส่เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยและสารเคมี อาจเป็นชุดเฉพาะงาน เช่นชุดป้องกันร่างกาย ชุดเซฟตี้ อุปกรณ์เซฟตี้ เป็นต้น
2. รถรับส่งพนักงาน เป้าหมายของทางบริษัท หรือโรงงานต่างๆที่มีนโยบายจัดรถรับส่งพนักงานเพื่อเป็นสวัสดิการเสริมจัดรถให้พนักงานสามารถเดินทางมาทำงานได้ทันเวลา และมีความปลอดภัย สะดวกมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการเดิทางของพนักงงาน โดยมีการกำหนดเส้นทางรถวิ่งรับ – ส่ง รับส่งพนักงงานตามจุดต่างๆที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ถ้าพนักงงานมาถึงจุดนัดพบไม่ทันก็ถือว่าตกรถเที่ยวนั้น ซึ่งพนักงงานต้องเดินทางมาทำงานเอง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงเช้าและเย็น หากบริษัทหรือโรงงานที่มีกะกลางคืนก็อาจมีเสริมการเดินรถสำหรับช่วงเลิกงานของคนเข้ากะให้ เป็นต้น

3. ค่าล่วงเวลา และ เงินโบนัส ค่าล่วงเวลา เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน ถ้า ทำงานเกินเวลาทำงานปกติของวันทำงาน นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลา ไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวน ชั่วโมงที่ทำหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อหน่วย ในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างตามผลงาน

4. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นลักษณะของสวัสดิการที่นายจ้างมีให้กับลูกจ้างเพื่อเป็นหลักประกันทางการเงินให้แก่ลูกจ้างที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชนหรือรัฐ วิสาหกิจต่างๆ โดยอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐผ่านกฎหมายที่เรียกว่า “พระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ “ เป็นกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างหรือพนักงงานร่วมกันจัดขึ้น โดยเงินของกองทุนมาจากเงินที่ลูกจ้างหรือพนักงานจ่ายส่วนหนึ่งเรียกว่า “เงินสะสม “และนายจ้างจ่ายเงินเข้าสมทบอีกส่วนหนึ่งเรียกว่า “เงินสมทบ “นั่นคือ ลูกจ้างออมเงินเท่าไร นายจ้างช่วยลูกจ้างออมด้วยในจำนวนเท่ากันหรือมากกว่าที่ลูกจ้างจ่ายเสมอ

5. เงินฉุกเฉินสำหรับพนักงาน เงินฉุกเฉิน บางบริษัทอาจจะเรียกว่า เงินกู้สำหรับพนักงงาน บริษัทจะทำสวัสดิการเงินกู้ให้กับพนักงานทุกคน เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนหากพนักงานของท่านมีความจำเป็นต้องใช้เงินขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็สามารถเข้ามาขอกู้กับทางบริษัทได้โดยตรง เป็นการสวัสดิการช่วยเหลือพนักงานอีกทางหนึ่ง ก็ดีกว่าพนักงงานออกไปกู้นอกระบบ และมีปัญหา จนส่งผลให้พนักงงานเกิดคิดทุจริตบริษัท ขโมยหรือฉ่อโกงบริษัทได้

6. เงินช่วยเหลือพนักงานในโอกาสต่างๆ บางบริษัทอาจมีการสำรองเงินส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือพนักงงาน หรือแสดงความยินดี งานแต่ง งานบวช และเสียใจโอกาสต่างๆ เงินช่วยเหลือทุนการศึกษาบุตร เงินช่วยเหลือเมื่อพนักงงานเกิดอุบัติเหตุ ลาคลอด เป็นต้น

7. ค่าอุปกรณ์และเบิกค่าใช้จ่ายอื่นๆ บริษัทจะต้องมีเงินสำรองในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน เพราะการทำงานต่างๆต้องมีอุปกรณ์สำหรับการทำงาน เช่นกระดาษ เครื่องเขียนต่างๆ เครื่องใช้สำนักงานพวกพนักงานด้านเอกสารจะรู้ดี ส่วนนี้จะต้องมีการเบิกค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อเครื่องใช้ต่างๆ บางบริษัทอาจมีการติดต่อตัวแทนจำหน่ายแบบโดยตรง เพื่อสะดวกและลดการทุจริตหากพนักงงานลงรายการเกินจริง นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง บางทีต้องติดต่อลูกค้านอกสถานที่ ไปดูงานข้างนอก ค่าใช้จ่ายในการเดินทางบริษัทก็จะซับพอตตรงนี้ให้ด้วยเช่นกัน

8. สวัสดิการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงาน และการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ร่วมถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างกันในบริษัท การทำงานเป็นทีมที่มีผลให้การประสานงานเป็นไปอย่างราบรื่น และยังเป็นการเปิดโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทัศนคติ และประสบการณ์ในการบริหารงานของแต่ละฝ่าย และให้ข้อเสนอแนะปัญหา อุปสรรค ตลอดจนแนวทางแก้ไขในการบริหารงานร่วมกันอีกด้วย บางบริษัทอาจมีการจัดไปอบรมนอกสถานที่เพื่อเป็นการพักผ่อนให้แก่พนักงงานไปในตัวด้วย

9. สวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปี บริษัทฯ จะจัดให้มีสวัสดิการตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน การตรวจสุขภาพพนักงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งซึ่งพนักงานทุกคนมีหน้าที่เข้ารับการตรวจตามโปรแกรมที่บริษัทกำหนดไว้ การตรวจสุขภาพประจำปี ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดชัดเจนว่า จะต้องตรวจอะไรบ้าง บางทีการตรวจสุภาพเพื่อได้ทราบถึงสุขภาพของพนักงงานในบริษัทว่ายังคงมีศักยภาพในการทำอยู่หรือไม่ เพราะบางงานต้องใช้ความละเอียด ความปลอดภัยค่อนข้างสูง อย่างพวกธุรกิจอาหาร ก็อาจมีการตรวจสุขภาพพนักงงานมีโรคติดต่อหรือไม่ บางคนอาจมีอาการแอบแฝง อาจเกิดผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และผลต่อธุรกิจได้

10. สวัสดิการด้านประกัน สวัสดิการด้านประกัน ก็มีทั้ง การประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม ,ประกันภัยสุขภาพกลุ่ม,การประกันภัยเดินทางแบบกลุ่ม,ประกันชีวิต,ประกันสังคม หากเป็นประกันภัยกลุ่มสวัสดิการพนักงานก็จะให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก ทุกสถานที่ ทั้งในเวลาทำงานและนอกเวลาทำงาน ข้อตกลงหรือนโยบายเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทจะมีสวัสดิการด้านนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ทุกบริษัทมักจะใช้เป็นสวัสดิการประกันสังคม ที่พนักงงานต้องโดนหักทุกเดือน บริษัทจะหักเงิน 5% ของเงินเดือนของคุณ

11. วันหยุดพักผ่อนประจำปี พนักงานบริษัทต่างๆซึ่งทำงานติดต่อกันมาครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า ปีละ 6 วัน และยังได้ค่าจ้างแม้จะหยุดพักผ่อนประจำปี และบริษัทกับพนักงงานสามารถตกลงกันในเรื่องของการสะสมและเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปีไปรวมหยุดในปีอื่นก็ได้ ก็แล้วแต่ข้อตกลงของแต่ละบริษัท

จากที่กล่าวมาข้างต้นนี่เป็นสวัสดิการหลักๆของส่วนงานด้านสวัสดิการแก่พนักงาน แต่ละสวัสดิการก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทแต่ละที่ด้วยเช่นกัน บางบริษัทหากเป็นธุรกิจขนาดเล็กๆ สวัสดิการด้านรถรับส่งพนักงงานอาจจะไม่มี แต่ถึงอย่างไรก็ตามสวัสดิการเหล่านี้ถือเป็นแรงจูงใจ และผลักดันให้พนักงานทุกคนมีกำลังใจในการทำงานและสู้งานรวมถึงสร้างความเป็นปึกแผ่นความสามัคคีและรักในองค์กรหรือบริษัทของตนเอง สำหรับคนที่กำลังหางาน และจะสมัครเข้ามาเป็นพนักงานในบริษัทใดก็ตาม แน่นอนว่าสวัสดิการคือ 1 ใน 5 สิ่งแรกที่ให้คนสมัครงานให้ความสำคัญ การที่บริษัทของผู้ประกอบการมีสวัสดิการที่น่าสนใจ ก็เป็นแรงจูงใจให้ผู้สมัครงานกับบริษัทคุณมากขึ้นแน่นอน