Home »
Uncategories »
ตู้เย็นเก่ากินไฟเยอะ แก้ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องซื้อตู้เย็นใหม่เลย
ตู้เย็นเก่ากินไฟเยอะ แก้ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องซื้อตู้เย็นใหม่เลย
ตู้เย็นเก่ากินไฟเยอะ แก้ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องซื้อตู้เย็นใหม่เลย
ตู้เย็นเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยในแต่ละบ้าน
แต่เคยสังเกตได้ว่าพอเราใช้ตู้เย็นไปนานๆ ก็เสียบปลั๊กตลอดเวลาเหมือนปกติ
เปิดใช้งานก็ปกติแต่ทำไมค่าไฟแพงขึ้นกว่าเดิม
อะไรทำให้ตู้เย็นกินไฟขนาดนั้น
เพราะอย่าลืมว่ามันเป็นสิ่งของมีวันที่จะเสื่อมสภาพได้เหมือนกันนะ
โดยเฉพาะการรั่วซึมของตู้เย็นนั้นตัวกินไฟเลยทีเดียวแล้วมันรั่วได้อย่างไร
พอเป็นแบบนั้นแล้วจะแก้อย่างไร มาติดตามกันเลย
ตรวจสอบอย่างไรว่าตู้เย็นยังคงสภาพดีหรือไม่
หรือมีอะไรจะต้องซ่อม
เปลี่ยนบ้างโดยที่ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อตู้เย็นใหม่เลย
ซึ่งวิธีการตรวจมีดังนี้
1. เอากระดาษ A4 มาช่วยทดสอบได้ โดยการเปิดตู้เย็นแล้วเอากระดาษเสียบเข้าไปครึ่งเดียว แล้วก็ปิดตู้เย็นดู
2. จากนั้นลองดึงกระดาษออกมา
ถ้ายังขอบประตูตู้เย็นยังสภาพดีก็จะดึงออกมายากมาก
เพราะมันจะติดแน่นทีเดียว แต่ถ้าหากดึงออกมาได้แบบง่ายๆ
เลยก็แปลว่ายางขอบเสื่อมสภาพแล้วควรจะต้องเปลี่ยนนะ
3. อีกวิธีตรวจสอบตู้เย็นคือ ให้ตั้งขาตู้เย็นด้านหน้าสูงกว่าด้านหลัง
4. ตู้เย็นจะเงยหน้าขึ้นแล้วประตูตู้เย็นจะปิดลงตามแรงดูดของโลกปกติ และจะแน่นมาก
5. ซื้อตู้เย็นมาใหม่ก็ลองตั้งตู้เย็นแบบนี้ก็ได้จะช่วยลดการรั่วซึมของตู้เย็นลงไปได้เยอะเลย
6. ยังไม่หมดเท่านั้น ขอบยางตู้เย็นมันถอดได้
ก็เอาออกมาแช่น้ำร้อนไว้เพื่อให้ยางขยายตัว
ค่อยเอากลับเข้าไปติดใหม่จะช่วยลดการรั่วได้เหมือนกัน
ลองตรวจตู้เย็นบ้านของคุณดูเลยว่าตอนนี้สภาพเป็นอย่างไรบ้าง
เพราะถ้าปล่อยเอาไว้มันจะกินไฟมาก เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
อะไรที่มันแก้ไขได้ก็ควรจะต้องแก้ไขให้เรียบร้อย
ไฟฟ้าเป็นพลังงานมันหมดได้เหมือนกันนะ
หากเราไม่ช่วยกันประหยัดในอนาคตมันอาจจะมีปัญหาได้
และคุณยังจะต้องเสียค่าไฟแพงขึ้นอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ เชิดศักดิ์ มะลิทอง