มนุษย์เงินเดือนต้องรู้! สิทธิ “การลา” ประจำปีตามกฎหมาย

ชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายนั้นคงทำงานอยู่กับบริษัทในสถานที่ทำงานต่างๆ และนี่ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนจะต้องรู้เกี่ยวกับสิทธิในการใช้วันหยุด การลาประจำปีตามกฎหมาย ซึ่งอ้างอิงตามกฎระเบียบที่กรมแรงงานและสวัสดิการนั้นได้กำหนดขึ้น เพราะบางบริษัทนั้นอาจจะไม่ได้แจ้งให้เรานั้นได้รับทราบอย่างแน่ชัดและเป็นทางการ และถ้าหากเราได้มองข้ามในสิ่งสิ่งนี้ไป บางทีเรานั้นก็อาจจะเสียสิทธิของเราไปได้ค่ะ วันนี้เราจึงมีข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับการลาต่างๆ ที่ทุกบริษัทนั้นควรจะต้องเป็น เรามาดูกันเลยค่ะว่าคุณนั้นได้รับสิทธินี้อยู่หรือไม่ หรือใครถูกเอาเปรียบอยู่

การลากิจ การลากิจนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของที่ทำงานของแต่ละคนนั้น ว่าบริษัทนั้นๆ ได้กำหนดให้คุณนั้นสามารถลากิจได้เป็นจำนวนกี่วัน และหากเกินจำนวนวันที่นายจ้างกำหนดจะมีการหักค่าแรง อันนี้ก็เป็นไปตามกฎระเบียบของแต่ละบริษัท

• การลาป่วย การลาป่วยตามกฎหมายแรงงานได้กำหนดไว้ให้สามารถลาป่วยได้ และถ้าหากมีการลาป่วยเกิน 3 วัน ก็อาจจะให้ลูกจ้างนั้นได้แสดงใบรับรองแพทย์ และถ้าหากไม่มี ลูกจ้างเองนั้นก็ต้องชี้แจงให้ทราบถึงสาเหตุที่ไม่สามารถมาทำงานได้ และยังสามารถได้รับค่าจ้างในวันที่ลาป่วยไม่เกิน 30 วันต่อปี และการลาคลอดบุตรนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นวันลาป่วย

• การลาคลอด การลาคลอดนั้นในกฎหมายนั้นได้กำหนดไว้ให้ลูกจ้างหญิงที่มีครรภ์สามารถลาคลอดได้ในเวลา 90 วัน โดยนับรวมกับวันหยุด และก็จะได้รับค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตรนั้นไม่เกิน 45 วัน

• การลารับราชการทหาร ในการลาแบบนี้กฎหมายก็ได้กำหนดให้ลูกจ้างนั้นสามารถที่จะลาเพื่อรับราชการทหารหรือเรียกพลหรือลาเพื่อทดสอบความพร้อมด้านกฎหมายและสามารถรับค่าจ้างได้ไม่เกิน 60 วันต่อปี

• การลาเพื่อฝึกอบรม ลูกจ้างนั้นมีสิทธิ์ที่จะพัฒนาหรืออบรมความรู้ความสามารถเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อการแรงงานและสวัสดิการของสังคมโดยเพิ่มทักษะ ที่ทางราชการนั้นได้จัดอนุญาตให้จัดขึ้น การลาชนิดนี้ลูกจ้างจะต้องแจ้งเหตุในการลาให้ชัดเจน และก็ต้องแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องถ้าหากมี

• การลาเพื่อทำหมัน ลูกจ้างนั้นสามารถมีสิทธิลาได้ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนดและออกใบรับรองให้ซึ่งก็จะได้รับค่าจ้างในวันลาทำหมันตามจริง

และนี่ก็เป็นสิ่งที่นายจ้างและลูกจ้างนั้นควรจะรู้ไว้ เพื่อที่จะได้เป็นไปตามกฏหมายกำหนดและลูกจ้างนั้นก็ไม่โดนเอาเปรียบและจะได้รู้ถึงข้อกฎหมายอีกด้วย นายจ้างก็ควรที่จะรู้และไม่ควรเอาเปรียบลูกจ้าง และลูกจ้างนั้นก็ควรที่จะได้รับเงินตามปกติ ตามที่กฎหมายนั้นได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน