“ขายกาแฟ vs ขายน้ำมัน” ปตท.ได้กำไรจากไหนมากกว่ากัน

เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเข้าปั๊ม ปตท. แวะเติมน้ำมันหรือจะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลรถจะติดเยอะมากเนื่องจากคนเข้าปั๊มเต็มไปหมด แต่เคยคิดกันบ้างไหมว่า การที่คนเยอะขนาดนั้น ปตท. ต้องมีรายได้จากการขายน้ำมันเยอะแน่ๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย สิ่งที่ทำให้ ปตท.ได้กำไรนั่นคือการขายกาแฟต่างหาก ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาชมรายละเอียดเพิ่มเติมกันเลยค่ะ

จากที่กล่าวไปแล้วในบทความก่อน ถึงข้อมูลของบริษัทในเครือของ ปตท. จะทราบว่าปตท.นั้นไม่ใช่บริษัทที่ขายแต่น้ำมันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

รายได้นั้นยังรวมไปถึงธุรกิจขายกาแฟอย่าง “คาเฟ่อเมซอน” ที่ปตท.เองก็เป็นเจ้าของอยู่ด้วย ซึ่งพักหลังๆ มานี้กาแฟจากคาเฟ่อเมซอนก็ขายดิบขายดี จนมีรายได้แซงแบรนด์กาแฟชื่อดังอย่าง สตาร์บักส์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทีนี้ เรามาลองเทียบกันดูดีกว่าว่า ยอดขายของคาเฟ่อเมซอนจะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับยอดขายของ “น้ำมัน” ของบริษัทปตท.

จากข้อมูลของเว็บไซต์ ลงทุนแมน ระบุเอาไว้ว่า
ในปี 2559 คาเฟ่อเมซอนนั้นทำยอดขายได้มากถึง 140 ล้านแก้ว

มีรายได้เป็นมูลค่า 8,000 ล้านบาท

คิดเป็นกำไรแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

หากนำมาเทียบกับข้อมูลจากเว็บไซต์ ลงทุนศาสตร์ พบว่า
ยอดขายน้ำมันแบบปลีกของ บริษัท PTTOR และบริษัทย่อยอื่นๆ ที่อยู่ในเครือ ปตท. ในปี 2559 มีรายได้สูงถึง 51,503 ล้านบาท

แต่ส่วนที่เป็นกำไรมีเพียง 821 ล้านบาทเท่านั้น

นั่นหมายความว่าหากมองในเรื่องของยอดกำไรในปี 2559 แล้วจะพบว่า คาเฟ่อเมซอนนั้นทำได้ดีกว่าการขายปลีกน้ำมันเสียอีก แบบนี้ถ้าจะแบนน้ำมัน สู้ไปแบนไม่กินกาแฟจากอเมซอนยังทำให้ ปตท. เสียหายเยอะกว่าซะอีกนะเนี่ย