Home »
Uncategories »
มีข่าวดีมาบอก 4 เคล็ดลับ กินสับปะรดให้แสบลิ้นน้อยที่สุด
มีข่าวดีมาบอก 4 เคล็ดลับ กินสับปะรดให้แสบลิ้นน้อยที่สุด
มาจ้าวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาฝากกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกินสับปะรดยังไงให้ส่งผลต่อลิ้นน้อยที่สุด
ซึ่งปกติแล้วทุกคนคงจะทราบกันดีใช่มั้ยคะว่าเวลาที่เรากินสับปะรดเนี่ย
เวลากินอะไรตามหลังเข้าไปรสชาติมันจะเฝื่อนๆใช่มั้ย
แบบขนาดกินน้ำยังไม่อร่อยเลย
วันนี้เรามีวิธีการกินสับปะรดยังไงให้กระทบลิ้นน้อยที่สุด ซึ่งก็มีทั้งหมด 4
ข้อด้วยกัน เอาเป็นว่าไม่ขอพูดมากละกันนะคะ มันเจ็บคอ
ลองไปดูวิธีการกินกันเลยค่ะ
1. แช่เย็น ถ้าลองสังเกตดีๆ จะพบว่าสับปะรดจากตู้เย็น
กับสับปะรดที่ไม่มีความเย็น จะทำให้ลิ้นแสบแตกต่างกันมาก
เนื่องจากเอนไซม์โบรมีเลนจะทำงานได้ดีในอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส
และจะทำงานน้อยลงในอุณหภูมิต่ำ
การทานสับปะรดแช่เย็นจึงเป็นการลดความแสบลิ้นลงได้ แถมยังชื่นใจอีกด้วย
2. น้ำเกลือ จากงานวิจัยของนักวิจัยไทยในปี 2011
พบว่ากรดและเอนไซม์ในสับปะรดจะมีการทำงานที่อ่อนประสิทธิภาพลงเมื่อเจอเกลือ
เพราะน้ำเกลือทำให้กรดลดลง โดยเฉลี่ยความเป็นกรดของสับปะรดจะอยู่ที่ pH
3.5 – 4 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้สูงจนอันตรายต่อลิ้นของเรา
แต่เมื่อมันรวมกับเอนไซม์โบรมีเลนก็เลยทำให้รู้สึกแสบ
การแช่น้ำเกลือเพื่อลดกรดไม่ให้แสบเยอะก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี
แถมความเค็มจากเกลือยังจะช่วยขับให้ความหวานเด่นชัดมากยิ่งขึ้นด้วยนะ
3. ผ่านความร้อน
ถึงแม้ว่าเอนไซม์โบรมีเลนจะไม่ชอบอุณหภูมิต่ำ แต่ถ้าสูงมากจนเกิน 80
องศาเซลเซียส มันก็ทนไม่ได้เหมือนกัน
และจะสูญเสียความสามารถในการย่อยโปรตีนไปเลย
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะทานพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนได้ยาวๆ
โดยไม่รู้สึกแสบลิ้นอะไรเลยยังไงล่ะ
4. ตัดแกน หลายคนชอบทานแกนสับปะรด เพราะมันกรุบกรอบ
เคี้ยวมันเคี้ยวเพลิน แคลอรีก็ต่ำ
แต่รู้มั้ยว่าเอนไซม์โบรมีเลนที่ย่อยเนื้อเยื่อลิ้นของเรามันมีมากที่บริเวณแกนสับปะรดนี่ล่ะ
ตัดแกนทิ้งไป ทานแค่ช่วงเนื้อก็พอ