ต้องรอด! ย้อนรอยปาฏิหาริย์กู้ภัย 33 คนงานเหมืองชิลี ติดอยู่ใต้ดิน 69 วัน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “33” ฉายทั่วโลกในปี 2015(ชมตัวอย่างภาพยนตร์)
ในขณะที่ตอนในปฎิบัติการภารกิจกู้ภัยนักฟุตบอลเยาวชน และโค้ชรวม 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงรายจะเข้าวันที่ 5 แล้ว แต่ทุกหน่วยงานก็ยังคงระดมกำลังอย่างสุดความสามารถในการให้ความช่วยเหลือ
ซึ่งในการปฎิบัติการกู้ภัยครั้งนี้ทางโพสต์ทูเดย์ออนไลน์จะพาไปย้อนชมสุดยอดภารกิจกู้ภัยที่เคยสร้างความระทึกไปทั้งโลก สำหรับเหตุการณ์คนงานเหมือนในประเทศชิลีจำนวน 33 ชีวิต ติดอยู่ลึกลงลงไปในใต้ดินราว 700 เมตร และต้องใช้เวลาในการกู้ภัยนานถึง 69 วัน
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม ถึง13 ตุลาคม 2010 ที่เหมืองในโกเปียโป ประเทศชิลี (2010 copiapó mining accident) โดยเหตุเกิดจากโครงสร้างของเหมืองที่ไม่มั่นคงและเกิดพังถล่มลงมาจนเป็นเหตุให้คนงานเหมืองทั้ง 33 คน ติดอยู่ใต้ดิน โดยมีการพบสัญญาณชีพว่าคนงานเหมืองทั้งหมดยังคงรอคอยความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นวันที่ 22 สิงหาคม ราว 17 วันหลังจากเกิดเหตุเหมืองถล่ม เจ้าหน้าที่เหมืองได้รับแจ้งว่ามีคนงานทำงานในเหมืองราว 130 คน เจ้าหน้าที่ซึ่งได้ระดมกำลังเข้าช่วงเหลือได้พบสัญญาณชีพว่า
ผ่านทางกระดาษข้อความเขียนว่า มีคนงานเหมืองจำนวน 33 คนยังติดอยู่ใต้ดินและยังสบายดี โดยพวกเขาหลบอยู่ในโถงนิรภัย รวมทั้งยังมีอาหารและน้ำพอประทังชีวิตได้ระยะหนึ่ง
วันที่ 3 กันยายน เกือบ 1 เดือนหลังจากเหตุถล่ม นั้นปฏิบัติการกู้ภัยได้เริ่มต้นอย่างจริงจัง โดยมีการใช้เครื่องเจาะเป็นรูลงไปด้านล่าง แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคเมื่อเครื่องเจาะผ่านชั้นหินที่แข็งมาก
จนต้องมีการนำหัวเจาะจากต่างประเทศเข้ามาช่วยงาน จึงนำเนินการเจาะรู้ต่อไป แต่การเจาะก็ต้องเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากมีหินขนาดใหญ่เท่ากับตึก 10 ชั้นขวางทางขุดเจาะอยู่ ซึ่งหากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทั้ง 33 ชีวิตที่ติดอยู่ข้างใต้
จนกระทั้งวันที่ 27 สิงหาคม ก็สามารถขุดเจาะไปยังส่วนที่ทั้ง 33 ชีวิตติดอยู่ และมีการส่งภาพวิดิโอแรกกลับมายังบนพื้นดิน และฝากไปยังครอบครัวของพวกเขา รวมถึงยังสามารถส่งความช่วยเหลือด้านอาหารและน้ำ รวมถึงสิ่งของต่างๆผ่านช่องขนาดเล็กที่เจาะลงไปถึงจุดทื่คนงานติดอยู่
วันที่ 5 กันยายน ปฏิบัติการขุดเจาะช่วยเหลือได้เริ่มต้นขึ้น เครื่องขุดเจาะขนาดใหญ่ Schramm T130XD เริ่มทำงาน โดยต้องขุดเจาะตามแบบแผนต้องเจาะลึกลงตามระดับชั้นดิน
โดยต้องใช้เวลาในการวางแผนอย่างรอบคอบโดยแบ่งเป็นการเจาะแบบแผน A แผน B และ แผน C โดยการเจาะจะเป็นการเจาะให้มีขนาดใหญ่พอที่จะพาคนงานทั้ง 33 คนออกมาได้
วันที่ 24 กันยายน ถึงขณะนี้นับเป็นเวลากว่า 50 วันแล้วที่คนงานเหมืองติดอยู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นระยะเวลานานที่สุดในประวัติศาสตร์ การขุดเจาะยังคงดำเนินต่อไป
จนกระทั้งวันที่ 11 ตุลาคม แคปซูลที่มีชื่อว่า”ฟีนิกซ์” มีลักษณะเป็นกระสวยขนาดมีเซนผ่าศูนย์กลาง 54 เซนติเมตร ซึ่งทางรัฐบาลชีลีได้ขอความช่วยเหลือไปทางองค์การนาซาของสหรัฐในการดัดแปลงกระสวยดังกล่าวรวมกับกองทัพของชิลี เพื่อใช้สำหรับภารกิจกู้ภัยนี้โดยเฉพาะ
วันที่ 12 ตุลาคม คนงานเหมืองคนแรกทยอยนำขึ้นสู่พื้นดินครั้งละ 1 คน ตลอดทั้งคืน โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 22 ชั่วโมง 50 นาที จนกระทั้งเวลา 21:56 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 13 ตุลาคม คนงานเหมืองทั้ง 33 คน ก็สามารถช่วยขึ้นมาบนพื้นดินได้สำเร็จ
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นปฎิบัติการช่วยเหลือครั้งปาฏิหาริย์ทั้งคนงานทุกคนปลอดภัย และภายหลังมีการถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ใช้ชื่อว่า “The 33” ด้วย
13 ตุลาคม : วันที่หลายคนเฝ้ารอก็มาถึง ภายหลังการทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เริ่มดำเนินการช่วยเหลือคนงานเหมือง 33 คน ในช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามเวลาประเทศไทย จนสามารถช่วยชีวิตคนงานคนแรกไว้ได้ ในเวลา 24:10 น. ตามเวลาท้องถิ่น คือ นายฟลอเรนซิโอ อวาลอส คุณพ่อลูกสอง วัย 31 ปี โดยมีประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา ผู้นำชิลี เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีด้วยตนเอง พร้อมด้วยการโห่ร้องด้วยความยินดีของคนทั้งโลก
9 ตุลาคม : การส่งท่อกู้ภัย ซึ่งมีความยาว 624 เมตร ลงไปใต้ดินเสร็จสิ้นลง ซึ่ง นายโกลบอร์น กล่าวว่า ปฏิบัติการช่วยชีวิตคนงานเหมืองทั้ง 33 คน จะเริ่มขึ้นในวันพุธที่ 13 ต.ค.
8 ตุลาคม : นายโกลบอร์น เชื่อมั่นว่า ท่อ T-130 หรือที่เรียกว่า Plan B จะถูกส่งลงไปใต้ดินจนถึงตำแหน่งที่อยู่ของคนงานเหมืองในวันดังกล่าว และคาดว่าการอพยพคนงานจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ถัดไป
5 ตุลาคม : คนงานเหมืองทั้ง 33 คน ติดอยู่ใต้เหมืองครบ 2 เดือน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เหมืองถล่ม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม
1 ตุลาคม : นายโกลบอร์น กล่าวว่า เดือนตุลาคม จะเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานเหมือง 33 คน
21 กันยายน : นายโกลบอร์น กล่าวว่า การช่วยเหลือคนงานเหมืองทั้ง 33 คน อาจจะไม่แล้วเสร็จก่อนที่จะถึงเดือนพฤศจิกายน
8 กันยายน : คนงานเหมือง ที่ติดอยู่ใต้ดินทั้ง 33 คน ไม่ลืมที่จะเฉลิมฉลอง 200 ปี แห่งการเป็นเอกราชของชิลี แม้พวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย โดยวิดีโอได้แพร่ภาพจากใต้ดิน ว่าคนงานเหมืองพร้อมใจกันร้องเพลงชาติ และเต้นรำกันอย่างรื่นเริง
7 กันยายน : ชาวชิลี เฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งอิสระภาพจากการปกครองของสเปน พร้อมฉลองความสำเร็จของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ที่สามารถใช้เครื่องมือขุดเจาะลงไปใต้พื้นดิน จนถึงตำแหน่งที่อยู่ของคนงานเหมืองทั้ง 33 คน
5 กันยายน : เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและคณะแพทย์ ระบุว่า คนงานเหมือง 33 คน ยังสามารถเอาตัวรอดในเหมืองได้ และสภาพร่างกายและจิตใจของคนงานอยู่ในสภาพที่ดี
24 สิงหาคม : ประธานาธิบดีปิเนรา กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า คนงานเหมือง ทั้ง 33 คน จะได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้ก่อนสิ้นปีนี้
23 สิงหาคม : เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เริ่มส่งสารอาหารจำพวกกลูโคส และน้ำ ลงไปให้คนงานเหมือง 33 คน
22 สิงหาคม : ชาวชิลี ตื่นเต้นดีใจอย่างสุดซึ้ง หลังทางการสามารถแพร่ภาพคนงานเหมือง 33 คน ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก หลังจากคนงานที่ติดอยู่ใต้เหมือง มาแล้ว 17 วัน
12 สิงหาคม : ประธานาธิบดีปิเนรา กล่าวว่า เขายังคงมีความหวังว่า คนงานเหมืองทั้งหมดจะได้รับความช่วยเหลือ แม้โอกาสรอดจะมีอยู่เพียงน้อยนิด
10 สิงหาคม: ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา แห่งชิลี กล่าวว่า รัฐบาลชิลี ได้ติดต่อคณะผู้เชี่ยวชาญจากเปรู สหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย เพื่อความช่วยเหลือระหว่างประเทศ ในการปฏิบัตการกู้ชีวิตคนงานเหมือง ทั้ง 33 คน
8 สิงหาคม : เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เริ่มขุดเจาะปล่องหลุม ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 12 เซนติเมตร ลงไปยังเหมืองดังกล่าว เพื่อค้นหาตำแหน่งของคนงานเหมืองทั้งหมด
6 สิงหาคม : นายลอว์เรนซ์ โกลบอร์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่ รีบบินกลับมายังประเทสชิลี พร้อมนำทีมปฏิบัติการกู้ภัยด้วยตนเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของชิลี เปิดเผย ถึงความเป็นไปได้ที่คนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินจะสามารถหาแหล่งที่พักพิง ซึ่งมีอ็อกซิเจน น้ำ และ อาหาร เพื่อประทังชีวิต
5 สิงหาคม : เกิดอุบัติเหตุเหมืองแร่ทองแดงและทองคำ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลทรายในชิลีถล่ม ส่งผลให้คนงานเหมืองทั้งหมด 33 ชีวิต ติดอยู่ใต้เหมือง ที่มีความลึกเกือบ 700 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย พยายามใช้อุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่ เพื่อติดต่อกับคนงานเหมืองเหล่านี้
ทั้งนี้ ภารกิจช่วยคนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินที่ชิลี มีเจ้าหน้าที่เทคนิคคนไทยไปช่วยด้วย 2 คน คือ นายวชิรพงศ์ นาคสารีย์ อายุ 30 ปี และนายสมพงษ์ พงกันยา อายุ 32 ปี
โดยเหตุที่ 2 คนไทยได้ไปปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เนื่องจากว่า ทางการชิลีขอให้บริษัทเม็ตตาโลจิก อินสเป็คชั่น เซอวิสเซส จำกัด ส่งช่างเทคนิคพร้อมอุปกรณ์จากบริษัทในเครือไปยังชิลี
สำหรับเหตุผลที่ 2 คนงานดังกล่าวได้คัดเลือก เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ขยัน สู้งาน และมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน