เปิดภาพสถานการณ์ จาก ‘ทีมดำน้ำอังกฤษลุยดำ 2 ชม.’ ช่วย 13 ชีวิต ในถ้ำหลวงอย่างไม่ย่อท้อ
จากกรณีปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิต เด็กๆ และโค้ช ที่ติดที่ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่คนไทยทั่วประเทศเอาใจช่วย ให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วง ล่าสุด วันที่ 28 มิ.ย.
เฟซบุ๊กเพจ Rungrot Kongpiban ได้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 15.50 น. ทีมนักประดาน้ำชาวอังกฤษ ได้ดำน้ำค้นหาผู้สูญหายในถ้ำหลวงกว่า 2 ชั่วโมง และได้กลับขึ้นมาแล้ว และยังไม่พบผู้สูญหาย ทั้งนี้ ทีมนักประดาน้ำจากประเทศอังกฤษได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้าถ้ำหลวงตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.)
ทีมทหารสหรัฐและนักดำน้ำอังกฤษร่วมช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงเชียงรายเป็นวันที่ 5 หลังจากฝนตกหนักตลอดทั้งคืนเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา นางสาวจิลเลียน บอนนาร์โดซ์ โฆษกสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยเผยว่ากองกำลังทหารสหรัฐภาคพื้นเอเซียแปซิฟิค (USPACOM) เดินทางมาถึงถ้ำหลวง จังหวัดเชียงรายเมืื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อปฏิบัติการช่วยชีวิตนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช รวม 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายใน
“เจ้าหน้าที่ทั้งหมดผ่านการอบรมกระบวนการ เทคนิค และยุทธวิธีในการช่วยเหลือบุคคล ขณะนี้กำลังประเมินร่วมกับทางการไทยหาวิธีการช่วยเหลือที่เป็นไปได้ และสนับสนุนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่กำลังดำเนินอยู่” ด้านผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำชาวอังกฤษ 3 คนเดินทางมาถึงพื้นที่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เข้าไปในถ้ำด้วยอุปกรณ์ครบมือและกลับอกมาใน 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ตั้งแต่กลางดึก ฝนตกหนักที่ถ้ำหลวง มีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญอังกฤษและเจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังพักการทำงานไว้ก่อน เพราะระดับน้ำในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากสุดในรอบ 4 วัน จนถึงโถง 2 อีก 800 เมตรจะมาถึงปากถ้ำ รอประเมินสถานการณ์และทำงานต่อเนื่อง รอฟังการแถลงที่ชัดเจนจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
ส่วนแนวทางการขุดเจาะถ้ำ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยว่า จะเพิ่มช่องทางที่จะหาทางเข้าจากด้านบนถ้ำให้ได้ โดยเจาะผนังเพื่อสำรวจช่องทาง โดยทำคู่กันไปกับทางอื่นๆ ยังชื่อว่าจะต้องสำเร็จ ต้องพาเด็กๆ ออกมาให้ได้ และต้องทันเวลา เราทำงานกันเต็มที่ คาดว่าเด็กๆอาจอยู่บนเนินโถงพัทยาบีช ซึ่งเป็นที่ที่น้ำไม่ท่วม
ไม่ไกลจากทาง 3 แยก และยังพอมีแสงสว่างจากไฟที่ติดตัวไป เพราะเด็กๆคงไม่เปิดไฟฉายพร้อมกันทุกคน โดยจะใช้เครื่องมือและผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาวางแผนดำเนินการเจาะผนังถ้ำ นอกจากนี้ยังมีการสำรวจปล่องเหนือถ้ำที่พบล่าสุด 3 ปล่อง โดยได้แท่งไฟเรืองแสงและโรยตัวลงไป แต่ยังเจอหินทับซ้อนอยู่
ส่วนปล่องที่ 4 ที่ชาวบ้านในพื้นที่แจ้งมานั้น ยังหาไม่พบ เพราะความสลับซับซ้อนของถ้ำ แม้จะเจอปล่องแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะไปโผล่ในจุดใดของถ้ำ อย่างไรก็ตามได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมจากจิสด้า เพื่อสำรวจหาทางเข้าถ้ำต่อไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายสุวิทย์ โควสุวรรณ ผอ.ส่วนวิจัยรอยเลื่อนมีพลัง สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.)
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือ 13 ชิวิต ว่า ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณีได้ติดตามและรวบรวมข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยในเรื่องของการเจาะผนังถ้ำที่คาดว่าอยู่ใกล้จุดพัทยาบีชนั้น ทางกองอำนวยการช่วยเหลือในพื้นที่ได้แจ้งว่าเริ่มดำเนินการแล้ว นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า โดยนำโดรนขึ้นบินสำรวจว่าจะเริ่มตรงไหนอย่างไร
และคาดว่าจะสามารถดำเนินการเจาะได้ในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งจุดที่จะดำเนินการนั้น เป็นบริเวณ 3 โพรงใหม่ใกล้ดอยผาหมี โดยในเรื่องของการเจาะผนังถ้ำที่คาดว่าอยู่ใกล้จุดพัทยาบีชนั้น ทางกองอำนวยการช่วยเหลือในพื้นที่ได้แจ้งว่าเริ่มดำเนินการแล้ว นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า โดยนำโดรนขึ้นบินสำรวจว่าจะเริ่มตรงไหนอย่างไร และคาดว่าจะสามารถดำเนินการเจาะได้ในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งจุดที่จะดำเนินการนั้น เป็นบริเวณ 3 โพรงใหม่ใกล้ดอยผาหมี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สำรวจพบเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าถ้ำหลวงอาจมีแนวเชื่อมต่อทะลุไปถึงเขตแดนประเทศเมียนมาหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ถ้ำหลวงมีเส้นทางเป็นแนวเหนือใต้ ดังนั้น จึงไม่น่าจะเข้าไปในเขตเมียนมาแน่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่นำขับรถเจาะขนาดใหญ่มาถึงถ้ำหลวงแล้ว เพื่อมาเตรียมเจาะถ้ำช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ต้องวางแผนเพื่อเตรียมเจาะในจุดแรกบริเวณจุดโถงพัทยาบีชก่อน ซึ่งคาดเป็นจุดที่ทั้ง 13 ชีวิตอยู่บริเวณนั้น
ชมคลิป