Home »
Uncategories »
สอนทำง่าย วิธีปลูกผักบุ้งในโอ่ง ให้ยอดสวย เก็บขายได้ทั้งปี
สอนทำง่าย วิธีปลูกผักบุ้งในโอ่ง ให้ยอดสวย เก็บขายได้ทั้งปี
สอนทำง่าย วิธีปลูกผักบุ้งในโอ่ง ให้ยอดสวย เก็บขายได้ทั้งปี
ปลูกผักบุ้งในโอ่ง จริงๆแล้วเราต้องขอบอกก่อนเลยนะว่า
นี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายคนให้ความสนใจการเป็นจำนวนมาก
โดยมีผู้หวังดีคนหนึ่งได้ออกมาเผยเรื่องราวของวิธีการปลูกผักบุ้งในโอ่ง
บอกเลยว่าเป็นวิธีที่ไม่ธรรมดา เป็นวิธีที่ไม่เคยเห็นเคยพบมาก่อน
ผักบุ้งนั้นเป็นผักท้องถิ่นของบ้านเราที่นิยมรับประทานกันเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากปลูกผักบุ้งมาก นำมาทำอาหารก็อร่อยด้วย
ตั้งแต่ร้านข้างทางจนถึงภัตตาคารใหญ่ๆ
ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีผักบุ้งเป็นส่วนประกอบของอาหาร
มีทั้งผักบุ้งมีโภชนาการสูงและมีประโยชน์มาก
ดังนั้นแล้วผักบุ้งสามารถทำรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปดูวิธีการปลูกผักบุ้งในโอ่งกัน
ผักบุ้งที่คนในบ้านเรานิยมนำมาประกอบอาหารมักจะมี 3
สายพันธุ์ดังต่อไปนี้ก็คือ ผักบุ้งไท ผักบุ้งจี น และผักบุ้งนา
โดยผักบุ้งบ้านเรามักจะปลูกในน้ำเพราะเจริญเติบโตได้ดีกว่ามันบก
ข้อดีของการปลูกผักบุ้งในโอ่ง
1 เพราะว่าเนื่องจากผักบุ้งเป็นผักที่ต้องการปริมาณแสงไม่มาก
วิธีการปลูกผักบุ้งในโอ่ง ดัดแปลงมาจากการปลูกผักบุ้งในนาที่มีน้ำท่วมสูง
แต่ผักบุ้งก็ไม่เสีย และสามารถพุ่งยอดขึ้นสู่เหนือน้ำได้
2 ได้ลำต้นที่เป็นส่วนของยอดสูงและมีความอวบอิ่ม แต่ใบน้อยและเล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรับประทานยอดผักบุ้งมากกว่ารับประทานใบ
3 วิธีจะคล้ายๆกับการปลูกหน่อไม้ฝรั่งสีขาว
การปลูกผักบุ้งในโอ่งดีอย่างไร สิ่งนั้นก็คือผักบุ้งเป็นผักไม้เลื้อยล้มลุก
มีอายุการเก็บเกี่ยวนาน
4 ผักบุ้งมีการแตกยอดอยู่เรื่อยๆ ตราบใดที่ลำต้นยังคงอยู่และได้รับสารอาหารเพียงพอ ก็ยังสามารถเจริญเติบโตและแตกยอดใหม่ได้แน่นอน
วัสดุอุปกรณ์สำหรับการปลูกผักบุ้งในโอ่งก็มีดังต่อไปนี้
– โอ่ง ไม่จำกัดขนาด ไม่ต้องเจาะก้นโอ่ง
– ตะกร้า ไว้สำหรับทำแปลงปลูก ให้เล็กกว่าก้นโอ่งเล็กน้อย หรือไม่มีก็ได้
– ดินปลูก ใช้ดินปลูกผักทั่วไป หรือดินผสมปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์แล้ว
– กระสอบเก่า กระดาน หรือตาข่ายเก่า ไว้สำหรับคลุมปากโอ่ง
เริ่มต้นจากการปลูกผักบุ้งในโอ่งกันก่อนเลย
โดยให้เรานำดินที่เราผสมเอาไว้แล้วใส่ในตะกร้าที่เราเตรียมเอาไว้
หรือนำดินที่ผสมเอาไว้แล้วใส่ลงในก้นโอ่งได้เลย
ให้ความสูงก้นโอ่งอยู่ประมาณ 4-5 นิ้วกำลังดี
เนื่องจากในระยะต่อไปเราจำเป็นจะต้องรดน้ำ
และเราไม่ได้เจาะรูที่ก้นโอ่งเพื่อระบายน้ำออก จะทำให้มีน้ำขังในก้นโอ่ง
ดังนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องใช้ระดับดินที่สูงกว่าเล็กน้อยเพื่อป้องกันให้ดินกับน้ำผสมกันจนต้นผักบุ้งล้ม
ตะกร้าจะสามารถช่วยให้ผักบุ้งยืนต้นได้
ในกรณีที่ภายในโอ่งมีน้ำมากเกินไป
เมื่อเรานำดินลงเรียบร้อยจนได้ระดับดีแล้ว ก็ทำการหย่อนเมล็ดผักบุ้งลงไป
คนส่วนใหญ่มักจะใช้ผักบุ้งแก้ว เพราะว่าเนื่องจากโตเร็ว ต้นสวย
และเป็นที่นิยมของตลาด
จำนวนเมล็ดที่ใช้ตามปริมาณที่ต้องการแต่ไม่ควรที่จะแน่นมากจนเกินไป
เมื่อเราทำการหยอดเมล็ดแล้วให้ทำการรดน้ำให้ดินชุ่มแต่ไม่ต้องเเฉะมาก
ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นรอจนกว่าผักบุ้งจะพุ่งยอดอ่อนขึ้นมา
แล้วก็เริ่มใช้กระสอบเก่าหรือว่าตาข่ายปิดบังแสงก็ได้
แต่จะต้องให้อากาศเข้าได้นะ ทิ้งระยะเวลาจนยอดผักบุ้งสูงถึงเกือบปากโอ่ง
จึงสามารถตัดยอดอ่อนไปรับประทานได้ ในกรณีที่ไม่มีเมล็ด
ผักบุ้งแก้วสามารถนำกิ่งไม้ปักชำได้เลย
การปักชำผักบุ้งแก้ว
จำเป็นต้องรดน้ำให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่บ่อยครั้ง
และน้ำจะต้องท่วมดินปลูกเล็กน้อย แล้วก็เริ่มการปักชำได้เลย
จำนวนตามความต้องการแต่ไม่ควรที่จะหนาแน่นมากเกินไป
เพราะอาจจะทำให้รากเสียได้
และเมื่อเสร็จแล้วให้เราใช้ตาข่ายทำการปิดปากโอ่ง
รอจนกว่าผักบุ้งจะแตกยอดใหม่ แล้วก็นำผักบุ้งไปรับประทานตามปกติได้เลย
ดังนั้นแล้วเมื่อผักบุ้งของเราอยู่ในโอ่ง และมีความต้องการแสงแดด
จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างลำต้นให้สูงพ้นโอ่งเพื่อต้องการให้แสงมาสังเคราะห์อาหารอยู่ตลอดเวลา
การตัดลำต้นผักบุ้งให้ต่ำจนติดโคน
เป็นวิธีที่ทำให้ผักบุ้งสามารถแตกยอดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
เพาะผักบุ้งจะพยายามหาแสงแดด และเติบโตได้ดี
วิธีการนี้ยังทำให้ลำต้นได้ยอดที่ยาว ไม่แข็งและไม่เหนียว
ไม่เหมือนกับการปลูกที่แปลงผักบุ้งทั่วไปโดยการสังเคราะห์แสงเพียงอย่างเดียว
นี่ก็คือข้อดีของการปลูกผักบุ้งในโอ่งที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี
ตราบใดที่ยังมีสารอาหารในโอ่งเพียงพอก็สามารถแตกยอดออกมาใหม่ได้เสมอ
วิธีการทำสูตรน้ำเพื่อหมัก บำรุงดินปลูกผักบุ้ง
1 น้ำเปล่า
2 ผักบุ้ง 2 กิโลกรัม
3 หยวกกล้วยอ่อนจำนวน 3 กิโลกรัม
4 กากน้ำตาลจำนวน 2 กิโลกรัม
วิธีทำน้ำบำรุงดินปลูกผักบุ้ง
ให้เรานำน้ำสะอาด ผักบุ้ง กากน้ำตาล หยวกกล้วย
นำมาหมักรวมกันทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน 10 วัน ก่อนที่เราจะนำไปใช้
เมื่อครบกำหนดแล้วเราจะใช้น้ำที่เราหมัก 3 ช้อนแกง ผสมกับน้ำสะอาดจำนวน 20
ลิตร แล้วก็เอาไปฉีดพ่นทางใบ การใส่น้ำที่เราหมักลงไปในแปลงนั้น
จะช่วยในเรื่องของการสร้างสารอาหารให้กับน้ำ และไม่ทำให้น้ำเสียอีกด้วย
เขียน / เรียบเรียงใหม่โดย : Postsod