จุดเปลี่ยนชีวิตของคนใช้หม้ายสาวลูกติด เมื่อเจ้านายเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว

จุดเปลี่ยนชีวิตของคนใช้หม้ายสาวลูกติด เมื่อเจ้านายเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว

บางครั้ง ชี วิ ต มันก็มีอะไรแปรผันจะขึ้นจะลงก็แล้วแต่ชะตา ก ร ร ม ของแต่ละคนด้วย เรื่องราวที่นำมาแชร์นี้เป็นของสาวแม่หม้ายลูกติดที่มีหน้าตาสวย น่ารัก ที่เธอเป็นสาวใช้ในบ้านหลังหนึ่ง และแล้ว ชี วิ ต ของเธอก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อเจ้านายเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว มาติดตามเรื่องราวของเธอได้เลย

สาวคนนี้เธอมีลูกติดอยู่ อายุ 3 ขวบ ส่วนตัวเธอเป็นสาวแม่หม้ายที่หน้าตาดี หุ่นค่อนข้างอวบ ผิวขาว เธอทำงานเป็นสาวใช้ในบ้านหลัง 1 และแล้วในยามดึกของวันหนึ่งเธอจะกลับไปดูแลลูกตัวเอง แม่เจ้านายทราบเรื่องความลำบากของเธอจึงอนุญาตให้พามาอยู่ที่นี่ด้วย และให้ลูกของเธออยู่ฟรี กินฟรี ได้เลยแต่เธอเกรงใจเจ้านายเลยปฏิเสธไป แต่นายจ้างก็ไม่ขัดข้องอะไร

สายตาของเจ้านายนั้นทำให้เธอคิดหวาดกลัวสักนิด และเธอเองก็กลัวว่า ช่องว่างระหว่างความรวยกับความจน อาจจะส่งผลกระทบอะไรต่อลูกชายก็ได้ บ้านเจ้านายใหญ่มากขนาดห้องน้ำที่เล็กสุดในบ้านยังใหญ่กว่าห้องที่เธออยู่

ในวันหนึ่งเจ้านายที่เธอทำงานอยู่นั้นต้องการจะจัดงานเลี้ยง แต่ว่าคนช่วยงานไม่พอ เจ้านายจึงเรียกให้เธอเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัว 2 ต่อ 2 และขอให้เธอนั้นช่วยทำ OT ทำงานเพิ่ม และเธอก็รับปากแม้จะห่วงลูกชาย เจ้านายเลยให้ลูกชายมาที่บ้าน เมื่อเธอพาลูกมาถึงแล้วแขกในงานก็ค่อยๆ ทยอยมาเรื่อยๆ เธอให้ลูกไปอยู่ในห้องน้ำหลังบ้านและเอาไส้กรอกกับขนมปังใส่จานให้ลูกชายได้ทาน

ลูกชายของเธอตื่นตา ตื่นใจกับความสวยงาม หรูหราใหญ่โตของห้องน้ำ ซึ่งเขาบอกกับลูกว่า พามางานนี้ด้วยเราเป็นยังเล็กและห้ามนั่งโต๊ะร่วมกับผู้ใหญ่ เจ้านายของแม่ได้เตรียมห้องไว้ให้ลูกแล้ว หนุ่มน้อยวางจานลงบนชักโครกและนั่งบนพื้นหินอ่อนทานอาหารและร้องเพลงไปอย่างมีความสุข

ในงานเลี้ยงนั้นเมื่อเจ้านายมองไม่เห็นลูกชายของเขา จึงได้ถามว่า เขาอยู่ไหน ซึ่งเธอก็ตอบว่า ลูกไปวิ่งเล่นที่สนามใหญ่ แต่ว่าเจ้านายไม่เชื่อเลยออกตามหาว่า หนุ่มน้อยอยู่ไหน ก็มาเจออยู่ในห้องน้ำเขาถึงถามหนุ่มน้อยคนนั้นว่า  “ทำไมถึงมานั่งกินในห้องนี้ รู้หรือเปล่าว่าห้องนี้คือห้องอะไร” หนุ่มน้อยก็ตอบอย่างไร้เดียงสาว่า  “แม่บอกว่าห้องนี้คือห้องที่เจ้านายเตรียมไว้ให้พิเศษ  ไส้กรอกนี้อร่อยมากเลยครับ ผมไม่เคยกินเลย แล้วคุณคือใคร” เขารู้สึกสงสารหนุ่มน้อยจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แต่ก็ยังฝืนยื้มให้

และตอนนั้นเขาก็หวนนึกถึงตนเองที่เข้ามาอยู่กับพ่อ แม่ ในเมืองหลวงใหม่ ฐานะยากจนมาก แล้วเขาก็กลับเข้าไปในงานเลี้ยง แล้วก็บอกกับแขกทุกคนในงานว่า “ในวันนี้ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ร่วมโต๊ะกับพวกท่านได้อีก เพราะต้องร่วมโต๊ะกับแขก VIP ผมหวังว่าทุกท่านจะสนุกในงานเลี้ยงนี้” จากนั้นเขาก็ตักอาหารใส่จานแล้วเดินไปนั่งทานกับหนุ่มน้อยบนพื้นห้องน้ำและคุยกัน

“อาหารอร่อยแบบนี้กับห้องหรูหราขนาดนี้ ถ้าเธอกินคนเดียวคงน่าเสียดายแย่ ถ้าอย่างนั้นฉันขออนุญาตินั่งกินด้วยคนนะ”  ทั้งสองกินไป คุยกันไปร้องเพลงไป คุยกันถึงเรื่องที่ทำให้ยิ้มและหัวเราะได้และเขาก็บอกกับหนุ่มน้อยว่า “แม่ของเธอเป็นคนขยันและเก่งมากนะ ต้องภูมิใจในตัวแม่ของเธอที่ทำเพื่อเธอด้วย”

เมื่อแขกเริ่มสังเกตว่า เจ้าภาพหายไปไหนไม่กลับมาสักทีเลยเดินตามหาและพอมาพบว่า เขามานั่งทานอาหารกับหนุ่มน้อยลำพังในห้องน้ำ พวกเขาประทับใจมากแขกหลายท่านจึงตักอาหารใส่จาน และนำเครื่องดื่มมานั่งร่วมวงในห้องน้ำด้วย ห้องน้ำกว้างๆ นั้นดูแคบลงทันที เป็นห้องที่ร้องเล่นกันอย่างสนุกสนานจนทำให้หนุ่มน้อยเชื่อว่า แม่ของเขาเป็นคนที่น่านับถือว่า และเขาโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกแม่

หลายปีผ่านมาหนุ่มชายคนนั้นเติบโตขึ้นอย่างน่าภาคภูมิ กลายเป็นเจ้าของกิจการขนาดใหญ่มีบ้านหลังโต ห้องน้ำหลายห้อง และเขาก็บริจาคเงินโดยไม่ออกนามให้แก่คนจน โดยที่เขาให้เหตุผลว่า “เมื่อหลายปีก่อนเคยมีเศรษฐีท่านหนึ่งที่มอบความจริงใจและเกียรตืให้กับหนุ่มน้อย 3 ขวบอย่างเขาเอาไว้แต่ว่าเขายังเล็กอยู่ แต่เขาก็จำวันนั้นได้ดี” เรื่องราวนี้ทำให้หลายคนนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตได้อย่างดี การให้เกียรติเป็นเรื่องสำคัญ การตอบแทนบุญคุณ และการทำความดี มีเมตตานั้นเป็นสิ่งที่ดี

เขียน / เรียบเรียงโดย : Naykhaotom