เกิดมาพึ่งเคยเจอ “ช้างตัวเดียว” ที่ถูกสั่ง ประหาร

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคนวันนี้ก็มาพบกับผมอีกเช่นเคย วันนี้แอดมินอัพยิ้มได้เจอกับเหตุการณ์หนึ่ง และเป็นเหตุการณ์เดียวที่ทำให้คนจดจำมากที่สุด ก็เลยเอามาฝากเพื่อนๆ เพราะช้างตัวนี้ ถูกเรียกว่าช้างเลว และมีชื่อว่า แมร์รี่ แบบนี้ก็มีด้วยหรอครับ ตั้งแต่เกิดมา ซาลาเปาแห่งอัพยิ้มก็พึ่งจะได้ยินนี่แหละ ว่ามีสัตว์ที่ต้องโทษ ประหารชีวิตด้วย ไม่อยากจะเชื่อ เคยได้ยินแต่คนที่ต้องโทษประหาร แต่ก็อย่างว่านะครับ มันนานมาแล้ว วันนี้แอดมินอัพยิ้ม ก็เลยอยากนำเอาเรื่องราวแปลกๆแบบนี้มาฝากเพื่อนๆกันครับ ไปชมกันเลยดีกว่าครับว่าจะเป็นแบบไหน
แต่หากย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1916 เจ้าช้างที่เป็นดาวเด่นของคณะละครสัตว์สปาร์คตัวนี้ ได้ก่อเหตุสะเทือนขวัญด้วยการฆ่านายวอลเทอร์ เอลดริดจ์ พนักงานฝึกหัดที่เพิ่งมาทำงานในคณะละครสัตว์ได้ไม่กี่วัน เพราะเขาพยายามห้ามไม่ให้มันเดินไปเก็บแตงโมที่หล่นอยู่ข้างถนน จึงทำให้ถูกเจ้า แมร์รี่ ฟาดด้วยงวงและขยี้จนสภาพศพของเขาเละเทะ ท่ามกลางสายตาผู้คนจำนวนมาก

สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนจำนวนมากจนมีการเรียกร้องจากชาวบ้านและพนักงานของคณะละครสัตว์ให้กำจัดมันทิ้ง เพราะตอนนี้มันกลายเป็นสัตว์อันตรายที่ไม่อาจจะนำออกมาโชว์หรือทำงานด้วยกัน อย่างไว้ใจได้แล้วเป็นดาราดังของคณะละครสัตว์ แต่เพื่อความปลอดภัยและสร้างความสบายใจให้กับผู้ชม เจ้าของคณะละครสัตว์ในตอนนั้นจึงตัดสินใจประหารมันด้วยการยิงเป้า

แต่ด้วยอานุภาพของปืนในยุคนั้น จึงทำได้เพียงสร้างความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยให้กับ แมร์รี่ เท่านั้น

และทุกคนก็หวังว่าแผลจากกระสุนปืนนี้จะทำให้มันกลายเป็นช้างที่ใจเย็นขึ้นได้…แต่เปล่าเลยหลายวันต่อมาละครสัตว์ได้เริ่มเปิดกลายแสดงอีกครั้ง และ แมร์รี่ ได้มีโอกาสกลับมาร่วมแสดงด้วย

แต่ทันทีที่มันก้าวเข้ามาในเวที มันได้ตรงเข้าเล่นงานผู้จัดการคณะละครสัตว์ แต่โชคดีที่คราวนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่นั่นก็เพียงพอจะยืนยันได้ว่า แมร์รี่ นั้นเป็นอันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้อยู่กับมนุษย์จริงๆ

คณะละครสัตว์จึงเปลี่ยนวิธีใหม่ โดยการหันมาใช้วิธีแขวนคอด้วยรถเครนแทน และในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ.1916

คณะละครสัตว์ได้ให้มันแสดงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพามันไปอยู่ใต้รถเครนที่สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 100 ตัน ท่ามกลางประจักษ์พยานจำนวนมากที่มาชมการประหารช้างตัวนี้ และนี่คือภาพสุดท้ายที่พวกเขาได้เห็น

เป็นไงล่ะครับเชื่อหรือยังว่าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นจริงๆ แต่ทุกวันนี้ คงทำไม่ได้แล้วครับแต่ก็ไม่แน่ ประเทศอื่นๆก็คงยังมีกันอยู่ ก็ได้ แต่ยังไงก็ตามแทบไม่รู้จักมาก่อนเลยว่ามีแบบนี้เกิดขึ้น ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ติดตามรับชม ไว้พบกันใหม่ในครั้งต่อไปสวัสดีครับ