วันที่ 29 กรกฎาคม 2560 นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ว่า เป็นผลมาจากพายุเชินกา ประกอบกับมีร่องฝนจากความกดอากาศ ทำให้ฝนตกแช่และมีปริมาณมาก โดย จ.สกลนคร ฝนตก 2 วัน จนมีปริมาณน้ำฝนที่วัดได้สูงถึง 310 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ร่องฝนยังอยู่ระหว่าง จ.นครพนม กับ ประเทศลาว ทั้งนี้ได้สั่งให้ชลประทานทุกพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนจุได้ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีปริมาณน้ำที่ไหลออกจากเขื่อนค่อนข้างมาก และกัดเซาะสันเขื่อนเสียหายเยอะพอสมควรถึง 1.3 พันเมตร จากเดิม 40 เมตร ทั้งนี้ได้สั่งการภายใน 1-2 วัน จะปิดน้ำไม่ให้ไหลออก และซ่อมแซมให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงภายใน 1 สัปดาห์ โดยปริมาณน้ำส่วนหนึ่งที่ไหลอกจากเขื่อน ทิศทางไหลไปด้านท้ายเขื่อนลงลำน้ำอูน ไปลุ่มน้ำสงคราม ลงแม่โขง ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ขณะที่อีกส่วนลงหนองหาร ออกลำน้ำก่ำ ออกแม่น้ำโขง ที่ อ.พระธาตุพนม ส่วนเขื่อนและอ่างอื่น ๆ มีความมั่นคง แข็งแรง น้ำเต็มแต่ไม่ล้นสันเขื่อน ขอให้ประชาชนไม่ต้องตกใจ เพราะอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ยังช่วยป้องกันไว้ได้
นอกจากนี้ อธิบดีกรมชลประทาน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วม ที่ อ.เมือง จ.สุโขทัย เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมไม่ได้ล้นกำแพง แต่เกิดน้ำท่วมจากน้ำทะลุรอยรั่วของกำแพงกั้นน้ำเข้าไป ตอนนี้คุมสถานการณ์ได้แล้ว ส่วนน้ำหลากที่ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี กำลังเข้าระบายน้ำลงแม่น้ำป่าสัก มาไว้ในเขื่อนป่าสักฯ