Home »
Uncategories »
เตรียมพร้อมกันยัง 1 ม.ค. 63 เริ่มเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างแบบใหม่
เตรียมพร้อมกันยัง 1 ม.ค. 63 เริ่มเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างแบบใหม่
เตรียมพร้อมกันยัง 1 ม.ค. 63 เริ่มเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างแบบใหม่
สำหรับคนที่ถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างควรจะต้องคอยติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดเลย
เพราะในปีหน้า 1 ม.ค. 63 นี้ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท
ยของเราจะมีการเก็บภาษีและสิ่งปลูกสร้างแบบใหม่
โดยแทนกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และ ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.
2508 ที่ใช้กันมานานกว่า 80 ปี แล้วนะ
เพื่อเป็นการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ที่มีการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น และช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย
ซึ่งเป็นข่าวที่หลายคนต่างหันมาให้ความสนใจกันเยอะมาก
และเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะต้องเรียนรู้กฎหมายนี้เอาไว้
แต่ว่าก ฎ ห ม า ย
ฉบับนี้นั้นยังใหม่และต้องทำความเข้าใจให้ละเอียด ๆ
เพราะว่าค่อนข้างซับซ้อนมากทีเดียวในเรื่องของการคิดคำนวณภาษี
รายละเอียดปลีกย่อยเยอะมา ๆ
ฉะนั้นทุกคนจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องศึกษากฎหมายในข้อนี้
สำหรับกฎหมายนี้เรียกสั้น ๆ ว่า “ภาษีที่ดินใหม่”
ซึ่งจะถูกนำมาใช้แทนพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2476 และ พ ร ะ
ร า ช บั ญ ญั ติ ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 เอาภาษาง่าย ๆ ก็คือ ก ฎ ห ม
า ยว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน และก ฎ ห มา ย ว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่
ซึ่งแบบเดิมนั้นค่อนข้างจะมีปัญหาในการเก็บภาษีโรงเรือน ที่ดิน และ
ภาษีบำรุงท้องที่ และ ข้อจำกัดเกี่ยวกับฐานภาษี อัตราภาษี
การลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ไม่สอดคล้องไปกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเก็บรายได้ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาท้องถิ่น รั ฐ
เลยจำเป็นต้องจัดสรรงบเพื่ออุดหนุนเพิ่มเติมเป็นเวลานาน
จุดหมายของกฎหมายภาษีใหม่ฉบับนี้ก็เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ลดการถือครองที่ดินเพื่อเก็งกำไรในตลอดอสังหาริมทรัพย์ และ
เป็นการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น
เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดเก็บภาษีโดยมีรัฐบาลเป็นผู้ดูแล
หากเก็บได้จริงจะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่มนำไปพัฒนาท้องถิ่นเพิ่มขึ้นคาดว่าไม่น้อยกว่า
4 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
ด้วยกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้ทำให้ผู้ถือครองหลายคนเริ่มตื่นตัวและเตรียมความพร้อมกันแล้ว
และจะต้องมีการคำนวณภาษีใหม่อีกด้วย
ขั้นตอนการคิดคำนวณค่อนข้างซับซ้อนกว่าแบบเดิม
จึงจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีความรู้
ความเชี่ยวชาญเรื่องให้ความรู้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ชาวบ้าน
เกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่
สำหรับกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้ มีการแบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ ดังนี้
1 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ประกอบเกษตรกรรม
2 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัย
3 ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากข้อ 1., 2.
4 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามความแก่สภาพ
อย่างไรก็ตามเพื่อบรรเทาภาระภาษีให้กับประชาชน จึงมีการกำหนดบทเฉพาะกาลการจัดเก็บภาษีช่วง 2 ปีแรก ดังนี้
1 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรม
หากมูลค่าฐานภาษีไม่เกิน 75 ล้านบาท เก็บภาษี 0.01 เปอร์เซ็นต์, เกิน
75-100 ล้านบาท จัดเก็บ 0.03 เปอร์เซ็นต์, เกิน 100-500 ล้านบาท เก็บ 0.05
เปอร์เซ็นต์, เกิน 500-1,000 ล้านบาท เก็บ 0.07 เปอร์เซ็นต์ และเกิน 1,000
ล้านบาท เก็บ 0.1 เปอร์เซ็นต์
2
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของบุคคลธรรมดาให้เป็นที่อยู่อาศัยมีชื่อในทะเบียนบ้าน
ไม่เกิน 25 ล้านบาท จัดเก็บ 0.03 เปอร์เซ็นต์ หากเกิน 25-50 ล้านบาท เก็บ
0.05 เปอร์เซ็นต์ และหากเกิน 50 ล้าน บาทขึ้นไป เก็บ 0.1 เปอร์เซ็นต์
3
สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่อในทะเบียนบ้าน
ที่มีมูลค่า ไม่เกิน 40 ล้านบาท ภาษี 0.02 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกิน 40-65
ล้านบาท เก็บ 0.03 เปอร์เซ็นต์ หรือเกิน 65-90 ล้านบาท เก็บ 0.05
เปอร์เซ็นต์ และเกิน 90 ล้านบาทขึ้นไป เก็บ 0.1 เปอร์เซ็นต์
4 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย
กรณีอื่นนอกจากอยู่อาศัยตามข้อ 2. และ 3. ที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท
เก็บ 0.02 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกิน 50-75 ล้านบาท เก็บ 0.03 เปอร์เซ็นต์
หรือเกิน 75-100 ล้านบาท เก็บ 0.05 เปอร์เซ็นต์ และเกิน 100 ล้านบาท
จัดเก็บ 0.1 เปอร์เซ็นต์
5
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากเกษตรกรรมและอยู่อาศัย
ไม่เกิน 50 ล้านบาท เก็บ 0.03 เปอร์เซ็นต์, เกิน 50-200 ล้านบาท เก็บ 0.4
เปอร์เซ็นต์, เกิน 200-1,000 ล้านบาท เก็บ 0.5 เปอร์เซ็นต์, เกิน
1,000-5,000 ล้านบาท เก็บ 0.6 เปอร์เซ็นต์ หรือ เกิน 5,000 บาทขึ้นไป เก็บ
0.7 เปอร์เซ็นต์
6 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่า
หรือไม่ได้ทำประโยชน์ควรแก่สภาพ เก็บภาษี 0.3-3 เปอร์เซ็นต์ ของราคาประเมิน
และเพิ่มขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ ทุก 3 ปี ต่อเนื่อง ไม่เกิน 27 ปี
หรือจนกว่าจะมีการใช้ประโยชน์จากที่ดิน
และจากข้อมูลของกรมพัฒนาที่ดินพบว่ามีที่ดินทิ้งไว้ไม่ได้ทำประโยชน์ทั่วประเทศ
8.31 ล้านไร่ จากที่ดินทั้งประเทศประมาณ 300 ล้านไร่
และเพื่อบรรเทาภาระภาษี 3 ปีแรก
ให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีสำหรับเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบุคคลธรรมดาและใช้ประโยชน์เพื่อเกษตรกรรม
นอกจากนี้กรณีต้องเสียภาษีสูงกว่าภาษีโรงเรือน หรือภาษีบำรุงท้องที่
ให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีในจำนวนที่เพิ่มขึ้นในปีที่หนึ่ง 25 เปอร์เซ็นต์
ของจำนวนภาษีที่เหลือ ปีที่สอง 50 เปอร์เซ็นต์ และปีที่สาม 75 เปอร์เซ็นต์
ของจำนวนภาษีที่เพิ่มขึ้น
สำหรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้
ในหลายองค์กรในภาคท้องถิ่นจะยังขาดความพร้อม
แต่เชื่อว่าระยะเวลาจะทำให้ทุกฝ่ายพร้อมและมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง
โดยนอกจาก อปท.แล้ว อบต.ในแต่ละพื้นที่ยังมีรายได้เพิ่มในการพัฒนาท้องถิ่น
ชุมชนของตนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามกฎหมายฉบับนี้ควรจะต้องทำความเข้าใจและมีความรู้ทุกคน
โดยเฉพาะผู้ที่จะต้องเสียภาษาโดยตรง
เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญที่จะปล่อยไม่ได้เลย
สำหรับท่านใดที่ถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ
จะใช้การคำนวณภาษีแบบเดิมไม่ได้แล้วนะ ควรจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ
อย่าลืมติดตามข่าวสารและศึกษาข้อกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้ให้เข้าใจถ่องแท้ที่สุด
เพื่อจะได้เสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีปัญหาใด ๆ ตามมาในภายหลัง
ขอขอบคุณ khaosanok