คนทำงานราชการ
แม้จะได้เงินเดือนเริ่มต้นไม่สูง แต่ความมั่นคงมีมากกว่าการทำงานรูปแบบอื่นๆความมั่นคงมีมาก…อยู่ๆจะมาไล่ออกกันนี่เป็นเคสที่เกิดยากมาก
เงินเดือนขึ้นไปเรื่อย ตามอายุราชการ ถึงกับมีคำกล่าวว่า “ชั่วไม่มี ดีไม่ปรากฏ” ก็ยังไปได้เรื่อยๆ
ยิ่งไม่กี่ปีมานี้ ฐานเงินเดือนราชการปรับขึ้นมาแล้ว สตาร์ทไม่ได้แพ้เอกชนมากอย่างในอดีต นโยบายรัฐในช่วงหลายปีมานี้ก็มักจะดูแลเรื่องอายุราชการ (เพื่อคำนวณบำนาญ) และปรับ benefit ในสายราชการ
อ่านเจอหลายข่าว คนแห่กันมาสมัครสอบเข้ารับราชการกันเยอะจริงๆครับ เช่น ข่าวสมัครสอบครูผู้ช่วย … รับ 2,500 คน สมัครสอบหลายหมื่นคน
คนทำงานรัฐวิสาหกิจ
เงินเดือนสตาร์ทสูงกว่าราชการสมัยก่อนเชื่อว่าเงินเดือนน้อยกว่าเอกชน …สมัยนี้ผมว่าไม่แน่
หลังจากทำงานไประยะนึง เงินเดือนรสก. แทบไม่ต่างจากเอกชนมากนัก ยิ่งถ้าอยู่ รสก.ชั้นดีเยี่ยมอย่าง AOT นี่โบนัสแทบจะดาวน์รถได้
หรือแม้แต่ที่อื่น(ไม่ขอเอ่ยนาม) ต่อให้บริหารงานขาดทุน แต่ก็ยังมีโบนัส มีขึ้นเงินเดือน ทุกปี … อเมซิ่งจริงๆ
นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจแทบทุกแห่ง มีสหภาพแรงงานครับ การลดสวัสดิการ เลย์ออฟ หรือทำอะไรที่ฮาร์ดคอร์กับพนง.นั้นไม่ง่าย
และถ้าจะมีโครงการจากด้วยใจ เกษียณก่อนกำหนด … แพคเกจนี่ พี่จัดเต็มจนคนแย่งกันเอา
ความมั่นคงแม้จะไม่สุดๆ แต่ก็นับว่าดีกว่าเอกชนอย่างเทียบไมติด
คนทำงานเอกชน
ยิ่งเงินเดือนสูง ยิ่งกดดันคุณ Deliver ไม่ได้ …จะโดนโยกย้าย โดนแป้กไปห้อยไว้โตงเตง
หรือถ้าประเภทชั่วไม่มีดีไม่ปรากฏ ก็เตรียมหนาว… เคยเป็น Management Track อยู่ดีๆ อาจจะมีฝรั่ง มีสิงคโปร์ มีแขก ย้ายมา มีสิทธิไม่เหลือลูกน้องแม้แต่คนเดียว
ครั้นพอจะย้ายไปสาย Expert บางทีก็แก่เกิน จะไปยืนซด Slide Deck กับเด็กรุ่นใหม่ ที่ภาษาอังกฤษเป็นไฟ พร้อม Presentation Skill แบบจัดเต็ม บางทีคนอายุสามสิบปลายๆ สี่สิบต้นๆก็ไม่ไหวแล้ว
เอกชน… เปลี่ยนนโยบายเร็วมาก ยุบแผนกง่ายมาก ย้ายตำแหน่งง่ายมาก และ ไล่ออกกันง่ายมาก
ยิ่งอายุมาก ยิ่งเสี่ยง
บางที่ ให้ขั้นต่ำครับ ทำงานมากี่ปี ทุ่มเทมาแค่ไหน… คุณก็ได้แค่ 10 เดือน อยากได้มากกว่านี้ ให้ไปฟ้องร้องเอา
ลองเดินไปดูอาคารสนง.ใจกลางกรุงเทพฯทั้งหลาย ที่เป็นที่ตั้งของออฟฟิศเอกชน ไม่ว่าจะบริษัทในประเทศหรือต่างประเทศ …
ลองนับดูครับ ว่าเจอคนอายุเกิน 50 ซักกี่คน ???
ดังนั้นเงินเดือนที่สูงกว่า จึงต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ความเครียด ความไม่แน่นอน และ ความเตรียมพร้อมด้านวางแผนการเงิน อย่างพร้อมพรักเช่นกัน
…
มนุษย์เงินเดือนเอกชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง มากๆๆๆๆ ต้องออม ต้องลงทุน
มันคือวาระแห่งชีวิต เพราะ ท่านไม่มีบำนาญอย่างราชการ และไม่มีสหภาพแรงงานไว้ช่วยการันตีการจ้างจนอายุ 60 แบบ รัฐวิสาหกิจ
ไม่ว่าท่านจะเคยเสียภาษีมาตลอด ให้ประเทศชาติมามากมายเท่าไร …. หลังตกงานหรือเกษียณก็ต้องดิ้นรนต่อไปเอง
…
ดังนั้น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุน LTF RMF พอร์ทหุ้นลงทุนระยะยาว และประกันชีวิต
จึงเป็นสินทรัพย์จำเป็น ที่ต้องสะสมไปตลอดชีวิตการทำงาน
การออมและลงทุนวันนี้อาจจะเหนื่อย รู้สึกเป็นภาระ
แต่วันหน้า เงินลงทุนสะสมทวีคูณเหล่านี้ จะกลับมาดูแลทดแทนคุณเราอย่างซื่อสัตย์
ประดุจลูกกตัญญูคนหนึ่ง
…
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบทความดีๆ และแนวคิดในการใช่ชีวิตดีๆแบบนี้ สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ นิ้วโป้ง Fundamental VI และเพื่อไม่ให้พลาดทุกสาระสำคัญคุณผู้อ่านสามารถ กดติดตาม และถูกใจ ไว้ได้เลยนะครับผม ของเขาดีจริงๆขอบอกกกก!!!“เรื่องนี้สำคัญมากจริงๆครับผม”
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก
- นิ้วโป้ง Fundamental VI