“หุงข้าว” เป็นอะไรที่ฟังดูง่าย
แต่จริงๆแล้วถ้าทำไม่ดีอาจจะหุงออกมาแฉะหรือแข็งเกินไปก็ได้ วันนี้นายข้าวต้มจะมาแชร์ทริคง่ายๆ
เพียงแค่ใส่ “สิ่งนี้” ลงไป ก่อนปิดฝาหม้อหุงข้าว
จะทำให้หุงข้าวออกมาแล้วนิ่มสวยน่ากิน อร่อยขึ้น 100 เท่า มาดูกันเลย..
1. อย่าซาวข้าวหลายๆ น้ำ
หลายๆคนชอบซาวข้าวครั้งละ 4-5 น้ำ แถมออกแรงขัดถูด้วย ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการสูญเสียคุณค่าทางอาหารเป็นอย่างมาก การซาวข้าวไม่จำเป็นต้องทำหลายครั้ง เพียงแค่ 1-2 ครั้งเป็นการล้างฝุ่น และใช้มือซาวเบาๆก็เพียงพอแล้ว ถ้าเป็นข้าวที่สะอาดมาอยู่แล้วไม่ต้องซาวเลยก็ได้
2. ใส่ใจกับปริมาณน้ำ
หลายๆคนเวลาหุงข้าวไม่ใส่ใจว่าใส่น้ำไปเท่าไหร่ ทำให้หุงออกมาบางทีก็แข็งบางทีก็แฉะจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ปริมาตรน้ำที่เหมาะสมสำคัญมาก เวลาหุงข้าว สัดส่วนของข้าวต่อน้ำ คือ 1:1.2-1.4 โดยให้น้ำสูงจากข้าวมาประมาณ 2-4 ซม. ถ้ามีการผสมข้าวอย่างอื่นนอกจากข้าวขาวก็ต้องใส่น้ำให้มากยิ่งขึ้น
3. หุงเสร็จแล้วอย่ากินทันที
ในสถานการณ์ปกติ เมื่อหม้อหุงข้าวเปลี่ยนระบบ ก็แปลว่าข้าวสุกแล้ว แต่ถ้าเปิดหม้อทันที จะเห็นว่าข้าวยังแฉะๆ แถมข้างล่างก็ยังเละๆ ติดหม้อ
วิธีที่ถูกต้อง คือ หลังจากเปลี่ยนระบบแล้ว อย่าเพิ่งเอาปลั๊กออกทันที ให้อุณหภูมิความร้อนระอุอยู่ในหม้อสัก 5 นาที แล้วค่อยเอาปลั๊กออกจากนั้นก็รออีก 5 นาที เท่านี้ข้าวของคุณก็จะสุกพอดี แถมยังไม่ติดหม้อด้วย
2. ใส่น้ำแข็งแล้ว สังเกตให้ระดับน้ำพอดี
3. หลังจากวางทิ้งไว้แบบนั้น 15 นาทีค่อยหุงตามปกติ
เพียงแค่ทำแบบนี้ ข้าวที่หุงออกมาก็จะเป็นเงางาม
2. เมื่อข้าวโดนแช่ในความเย็น กรดอะมิโนจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความอร่อยเพิ่มขึ้น
3. ปฏิกิริยาข้างต้นจะหยุดลงหากอุณหภูมิสูงกว่า 80 องศาเซลเซียส การใส่น้ำแข็งจะเป็นการยืดเวลาการทำปฏิกิริยาของมัน
วิธีง่ายๆ แบบนี้ก็เอาไปลองซะหน่อยแล้ว!
1. อย่าซาวข้าวหลายๆ น้ำ
หลายๆคนชอบซาวข้าวครั้งละ 4-5 น้ำ แถมออกแรงขัดถูด้วย ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการสูญเสียคุณค่าทางอาหารเป็นอย่างมาก การซาวข้าวไม่จำเป็นต้องทำหลายครั้ง เพียงแค่ 1-2 ครั้งเป็นการล้างฝุ่น และใช้มือซาวเบาๆก็เพียงพอแล้ว ถ้าเป็นข้าวที่สะอาดมาอยู่แล้วไม่ต้องซาวเลยก็ได้
2. ใส่ใจกับปริมาณน้ำ
หลายๆคนเวลาหุงข้าวไม่ใส่ใจว่าใส่น้ำไปเท่าไหร่ ทำให้หุงออกมาบางทีก็แข็งบางทีก็แฉะจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ปริมาตรน้ำที่เหมาะสมสำคัญมาก เวลาหุงข้าว สัดส่วนของข้าวต่อน้ำ คือ 1:1.2-1.4 โดยให้น้ำสูงจากข้าวมาประมาณ 2-4 ซม. ถ้ามีการผสมข้าวอย่างอื่นนอกจากข้าวขาวก็ต้องใส่น้ำให้มากยิ่งขึ้น
3. หุงเสร็จแล้วอย่ากินทันที
ในสถานการณ์ปกติ เมื่อหม้อหุงข้าวเปลี่ยนระบบ ก็แปลว่าข้าวสุกแล้ว แต่ถ้าเปิดหม้อทันที จะเห็นว่าข้าวยังแฉะๆ แถมข้างล่างก็ยังเละๆ ติดหม้อ
วิธีที่ถูกต้อง คือ หลังจากเปลี่ยนระบบแล้ว อย่าเพิ่งเอาปลั๊กออกทันที ให้อุณหภูมิความร้อนระอุอยู่ในหม้อสัก 5 นาที แล้วค่อยเอาปลั๊กออกจากนั้นก็รออีก 5 นาที เท่านี้ข้าวของคุณก็จะสุกพอดี แถมยังไม่ติดหม้อด้วย
ทริคที่จะทำให้ข้าวหุงสุกใหม่อร่อยยิ่งขึ้น
ก่อนปิดหม้อหุงข้าว หยดน้ำมันพืช (น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันถั่วเหลืองก็ได้) น้ำส้มสายชูลงไปสักเล็กน้อย น้ำมันจะช่วยทำให้ข้าวที่หุงสุกเป็นเงางาม แยกเป็นเม็ดๆ ส่วนน้ำส้มสายชูไม่เพียงปกป้องวิตามิน ยังทำให้ข้าวที่สุกหอมนุ่มน่ากิน
ยังมีอีกสิ่งหนึ่งถ้าใส่ลงไป ข้าวเก่าจะอร่อยมากยิ่งขึ้น!
ข้าวเก่ามักจะไม่ค่อยหอม แถมค่อนข้างแข็ง
แต่เพียงแค่ใส่สิ่งนี้ลงไป ข้าวเก่าก็จะหอมอร่อยได้
สิ่งนั้นก็คือ “น้ำแข็ง”
วิธีก็คือ..
1. ก่อนหุงใส่น้ำแข็งลงไปในหม้อ 2-3 ก้อน2. ใส่น้ำแข็งแล้ว สังเกตให้ระดับน้ำพอดี
3. หลังจากวางทิ้งไว้แบบนั้น 15 นาทีค่อยหุงตามปกติ
เพียงแค่ทำแบบนี้ ข้าวที่หุงออกมาก็จะเป็นเงางาม
ทำไมใส่น้ำแข็งแล้วทำให้ข้าวที่หุงออกมาอร่อยขึ้น?
1. หลังใส่น้ำแข็งลงไป ความชื่นจะค่อยๆแทรกเข้าไปในแกนข้าว ทำให้ข้าวรสชาติอร่อย!2. เมื่อข้าวโดนแช่ในความเย็น กรดอะมิโนจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความอร่อยเพิ่มขึ้น
3. ปฏิกิริยาข้างต้นจะหยุดลงหากอุณหภูมิสูงกว่า 80 องศาเซลเซียส การใส่น้ำแข็งจะเป็นการยืดเวลาการทำปฏิกิริยาของมัน
วิธีง่ายๆ แบบนี้ก็เอาไปลองซะหน่อยแล้ว!