Home »
Uncategories »
รู้แล้วถึงกับอึ้ง!! เพียงแค่ใส่ “น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ” ในน้ำแช่เท้า แทบไม่เชื่อสายตา สิ่งที่เกิดขึ้น จะทำให้คุณตะลึง !!
รู้แล้วถึงกับอึ้ง!! เพียงแค่ใส่ “น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ” ในน้ำแช่เท้า แทบไม่เชื่อสายตา สิ่งที่เกิดขึ้น จะทำให้คุณตะลึง !!
นอกจากน้ำส้มสายชูจะเป็นเครื่องปรุงรสชนิดหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารจีนแล้ว มันยังมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพ
เท้าของเราสามารถเกิดโรคได้ไม่น้อย
แต่น้ำส้มสายชูสามารถทะลุผ่านผิวหนังเข้าไป
ทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น อวัยวะต่างๆทำงานดีขึ้น
ป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ
ประโยชน์ของการแช่เท้าในน้ำส้มสายชูมีดังนี้
1. ช่วยให้หลับสบาย
แช่เท้าในน้ำส้มสายชูทุกวันวันละครึ่งชั่วโมง ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด
ปรับความสมดุลของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
ถ้าทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ
สามารถช่วยปรับปรุงให้การนอนของคุณมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหานอนไม่หลับ
ฝันเยอะ ตื่นเช้า และอื่นๆ
2. ขจัดความเมื่อยล้า
การแช่เท้าในน้ำส้มสายชูช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนโลหิต
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับออกซิเจนของฮีโมโกลบิน
ทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นหลังร่างกายขาดออกซิเจนเนื่องมาจากความเมื่อยล้า
ทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานดีขึ้น
ร่างกายปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์
ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ฟื้นฟูร่างกาย
3. กำจัดของเสียในร่างกาย
เท้าเป็นบริเวณที่ส่งผลต่อร่างกายแทบทุกส่วน
การที่น้ำส้มสายชูสามารถทะลุผิวหนังเข้าไปได้
สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนโลหิต
กระตุ้นการทำงานของอวัยวะ กำจัดของเสียในร่างกาย
และป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ
4. ทำให้ผิวชุ่มชื้น
ในฤดูหนาวหลายๆคนจะเจอปัญหาผิวบริเวณเท้าแห้ง
แช่เท้าในน้ำส้มสายชูติดต่อกัน 1 สัปดาห์
ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผิวหนังบริเวณเท้าอ่อนนุ่ม
แม้แต่ร่างกายส่วนอื่นๆและใบหน้าก็จะอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น มีออร่าเช่นเดียวกัน
5. ป้องกันและรักษาเชื้อราในเล็บ
ใช้น้ำส้มสายชู 9% หรือ 10% แช่เท้า 30 นาทีทุกวัน
หลังแช่เท้าปล่อยให้แห้งเอง ขณะแช่ใช้ภาชนะที่ทำจากแก้วจะดีที่สุด
เพราะทนต่อการกัดกร่อนได้ดี
6. ป้องกันโรคเหน็บชา
ใช้น้ำส้มสายชู 9% แช่เท้า เพิ่มปริมาณน้ำส้มสายชูใหม่ตามที่ลดลงไป
ทำซ้ำๆไปโดยเปลี่ยนน้ำส้มสายชูใหม่ทุก 7-10 วัน ทำติดต่อกันเป็นเวลา 2
เดือน
การใช้น้ำส้มสายชูแช่เท้าเป็นประจำ
ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากการสวมใส่รองเท้าส้นสูง
ยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกายด้วย
แหล่งที่มา : liekr