ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามแม่ค้าอัญมณี เผย เพชรนาคา คล้าย พลอยใต้น้ำ
เป็นอัญมณีสังเคราะห์ ส่วนของแท้เป็นพลอยใต้น้ำจากฝั่งลาว มีขายมานานแล้ว
จากกระแสฮือฮาคลิปวิดีโอของสาวรายหนึ่งที่แกะกลีบดอกบัวแล้วเจอเพชรนาคา ธาตุกายสิทธิ์ อยู่ในดอกบัวนั้น ซึ่ง รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเฉลยว่า แค่รอตอนเช้าให้ดอกบัวบานแล้วก็ใส่ของลงไป พอตกเย็นดอกบัวหุบค่อยแกะกลีบดอกบัวเอามาหลอกคนก็เท่านั้นเอง [อ่านข่าว : ตาสว่าง อ.เจษฎา เฉลยคลิปสาวแกะดอกบัวเจอเพชรนาคา ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง... คลิก]
เกี่ยวกับเรื่องนี้วันที่
13 ธันวาคม 2560 ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี
ได้ลงพื้นที่ไปยังวัดป่าอุดมปู่นาคาย่านาคี จ.ชัยภูมิ
แต่ไม่พบหลวงปู่ชัยวิทย์ เนื่องจากติดกิจนิมนต์ จึงได้พูดคุยกับ
พระปัญญาจันทโร พระลูกวัด ซึ่งได้นำเพชรนาคามาให้ดู พบว่ามีหลายหลากสี
เกิดจากการปลุกเสกของหลวงปู่ชัยวิทย์ ที่ปลุกเสกไว้ในดอกบัว
และมีผู้ศรัทธาเข้ามาบูชากราบไหว้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังประชาชนที่เดินทางมาชมเพชรนาคารายหนึ่ง
ทราบว่า หลังจากมีข่าวก็อยากเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
จึงเดินทางมาแม้จะยังไม่ได้กราบและนำดอกบัวมาให้ปลุกเสกเหมือนคนอื่น ๆ
แต่การเดินทางมาในวันนี้ก็รู้สึกว่าหลวงปู่ชัยวิทย์ น่าเลื่อมใสศรัทธามาก
ต่อมาผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปตลาดท่าพระจันทร์ เพื่อสอบถามถึงเพชรนาคา โดยสอบถามไปที่ร้านของ คุณนิตยา สร้อยสนร์ ก็มีการนำเพชรพญานาคามาจำหน่ายเช่นกัน แต่มีราคาที่ไม่แพง เริ่มต้น 40 บาท ไปจนถึง 300 บาท ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและรูปทรง
คุณนิตยา เผยว่า อัญมณีชนิดนี้ ทางร้านของตนเรียกว่า พลอยมณีใต้น้ำ และจะบอกลูกค้าไปตรง ๆ ว่าเป็นพลอยสังเคราะห์ เมื่อนำไฟมาเผาจะไม่ไหม้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ของแท้ที่มาจากพญานาค เพราะของจริงคงมีไม่เยอะแบบนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อก็เพื่อนำไปเสริมดวง บ้างก็ซื้อทีละเยอะ ๆ เพื่อนำไปแก้บน นอกจากนี้พลอยแต่ละสีก็มีความหมายแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนต้องการนำไปทำอะไร
ขณะที่อีกร้านหนึ่ง เจ้าของคือ คุณประภา ตันเจริญ ที่มีการจำหน่ายมณีใต้น้ำมานานนับ 20 ปี ก็ระบุคล้ายกันว่า ไม่ทราบว่าของที่นำมาขายจะใช่ของจริงจากพญานาคหรือไม่ แต่พลอยที่นำมาขายเป็นพลอยธรรมชาติใต้น้ำจริง ๆ ที่มาจากฝั่งลาว ส่วนการตีราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อส่วนมากไม่ใช่คนไทย แต่จะเป็นคนจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน
ภาพและข้อมูลจาก
จากกระแสฮือฮาคลิปวิดีโอของสาวรายหนึ่งที่แกะกลีบดอกบัวแล้วเจอเพชรนาคา ธาตุกายสิทธิ์ อยู่ในดอกบัวนั้น ซึ่ง รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเฉลยว่า แค่รอตอนเช้าให้ดอกบัวบานแล้วก็ใส่ของลงไป พอตกเย็นดอกบัวหุบค่อยแกะกลีบดอกบัวเอามาหลอกคนก็เท่านั้นเอง [อ่านข่าว : ตาสว่าง อ.เจษฎา เฉลยคลิปสาวแกะดอกบัวเจอเพชรนาคา ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง... คลิก]
ต่อมาผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปตลาดท่าพระจันทร์ เพื่อสอบถามถึงเพชรนาคา โดยสอบถามไปที่ร้านของ คุณนิตยา สร้อยสนร์ ก็มีการนำเพชรพญานาคามาจำหน่ายเช่นกัน แต่มีราคาที่ไม่แพง เริ่มต้น 40 บาท ไปจนถึง 300 บาท ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและรูปทรง
คุณนิตยา เผยว่า อัญมณีชนิดนี้ ทางร้านของตนเรียกว่า พลอยมณีใต้น้ำ และจะบอกลูกค้าไปตรง ๆ ว่าเป็นพลอยสังเคราะห์ เมื่อนำไฟมาเผาจะไม่ไหม้ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ของแท้ที่มาจากพญานาค เพราะของจริงคงมีไม่เยอะแบบนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อก็เพื่อนำไปเสริมดวง บ้างก็ซื้อทีละเยอะ ๆ เพื่อนำไปแก้บน นอกจากนี้พลอยแต่ละสีก็มีความหมายแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนต้องการนำไปทำอะไร
ขณะที่อีกร้านหนึ่ง เจ้าของคือ คุณประภา ตันเจริญ ที่มีการจำหน่ายมณีใต้น้ำมานานนับ 20 ปี ก็ระบุคล้ายกันว่า ไม่ทราบว่าของที่นำมาขายจะใช่ของจริงจากพญานาคหรือไม่ แต่พลอยที่นำมาขายเป็นพลอยธรรมชาติใต้น้ำจริง ๆ ที่มาจากฝั่งลาว ส่วนการตีราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อส่วนมากไม่ใช่คนไทย แต่จะเป็นคนจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน
ขณะที่ลูกค้าที่นิยมซื้อพลอยไปเสริมดวง
ระบุว่า ที่ผ่านมาเคยดูคลิปที่มีร่างทรงคายเพชรพญานาคออกมา
แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ค่อยน่าเชื่อถือ และน่าจะเป็นสิ่งที่ทำขึ้นมามากกว่า