คดีพลิก ! เมียปล่อยโฮ ถูกผัวมะเร็งอ้างหอบเงินหนี 10 ล้าน ลั่นออกปากซื้อบ้านรถให้เอง

สาวร่ำไห้ ปมถูกแฟนหนุ่มป่วยมะเร็ง ฟ้องศาลปมหิ้วเงินบริจาค 10 ล้านหนี พ่อฝ่ายหญิงแจง ถอนมาใช้จ่ายค่ารักษา ส่วน บ้าน-รถ ลูกเขยออกปากให้ซื้อเอง
          จากกรณีที่ นายเดชฤทธิ์ คำมุงคุณ หรือ น้องมอส หนุ่มชาว จ.นครพนม ซึ่งป่วยมะเร็งในโพรงจมูก ที่ปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างลำบาก ออกมาเปิดเผยว่า ตนถูก น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม หรือ น้องป๊อบปี้ อายุ 21 ปี อดีตภรรยา ยักยอกเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคให้เป็นค่ารักษาพยาบาลเกือบ 10 ล้านบาท หนีไป โดยได้มีการฟ้องร้องฝ่ายหญิงฐานความผิดที่นำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้น (อ่านข่าว : หนุ่มป่วยมะเร็งช้ำ โดนเมียหักหลัง ถอนเงินที่ได้รับบริจาคเกือบ 10 ล้าน หนีไปเสวยสุข)

โกงเงินบริจาคหนุ่มป่วยมะเร็ง

          ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 13 ธันวาคม 2560 ทีมข่าวช่องอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านโสกแมว ริมถนนเปรมประชาสายดอนสวรรค์-ดงหลวง พบกับนายประดิษฐ์ สุวรรณพรม อายุ 39 ปี และ นางทองม้วน สุวรรณพรมอายุ 38 ปี พ่อและแม่ของน้องป๊อบปี้ พร้อมพูดคุยกับน้องป๊อปปี้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเธอมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

          นาย ประดิษฐ์ เล่าว่า ลูกสาวอยู่กินกับน้องมอสเป็นเวลา 5 ปี ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงินค่าสินสอดทองหมั้นใด ๆ โดยฝ่ายชายอาศัยอยู่บ้านตนตลอด เมื่อป่วยมีแต่พ่อตาแม่ยายที่พาไปหาหมอ พ่อแม่แท้ ๆ ไม่เคยมาเหลียวแล กระทั่งเป็นข่าวโด่งดังถึงเข้าแสดงตัว ส่วนเงินที่ได้รับบริจาคก็ถอนออกมาใช้จ่ายเฉพาะเรื่องเจ็บป่วยของลูกเขย ส่วนที่บอกว่าไปซื้อรถกระบะและสร้างบ้านนั้น น้องมอสเป็นคนบอกให้ซื้อและให้สร้าง ถึงตอนนี้ทางครอบครัวตนก็ยังไม่ทราบว่าบัญชีของลูกสาวถูกอายัด โดยทางครอบครัวก็พร้อมจะยืนยันความบริสุทธิ์ที่ศาลจังหวัดนครพนม ในวันที่ 22 มกราคม 2561


โกงเงินบริจาคหนุ่มป่วยมะเร็ง

          ด้าน น้องป๊อปปี้ พัชรีพร สุวรรณพรม อดีตภรรยาน้องมอส ระบุว่า หากให้กลับไปอยู่ด้วยกันอีกคงต้องขอคิดดูก่อน พร้อมกับก้มหน้าร้องไห้ และบอกว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้ที่เคยยื่นมือเข้ามาช่วยระดมทุนบริจาค ยังไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเธอก็ได้รับปากจะโทรแจ้งคุณบิณฑ์ให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น

          ขณะที่ นางเมย์ลิษา คำมุงคุณ อายุ 41 ปี น้าสาวของน้องมอส บอกว่า ขณะเกิดเรื่องมีคนเข้ามาขอไกล่เกลี่ยเงินที่เหลือในบัญชีปัจจุบัน 5,700,000 บาท โดยทางครอบครัวของน้องป๊อบปี้ขอแบ่งเงิน 1 ใน 3 ไป ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสมเพราะที่ผ่านมาน้องป๊อปปี้ก็ใช้เงินไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท น่าจะเพียงพอแล้ว และเงินในส่วนนี้ก็ขอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสมของผู้ที่จะมีอำนาจใช้เงินจะดีกว่า
ภาพและข้อมูลจาก