สะเดา สมุนไพรพื้นบ้าน ช่วยดีท็อกซ์สารพิษในเลือด และต้านมะเร็ง

สะเดาเป็นต้นไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณทางยา และเป็นต้นไม้ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วน ต้นสะเดาถือเป็นต้นไม้ที่มีอิทธิพลต่อชาวอินเดียเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านความเชื่อทางศาสนา และการรั ก ษ า โ ร ค รวมถึงประโยชน์ใช้สอย

ตามตำราแพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่า รสขมเป็นรสชาติที่ดีต่อสุขภาพที่สุด แต่กลับเป็นรสชาติที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบเท่าไรนัก เพราะรสขมนั้นไม่อร่อย

ซึ่งอาหารที่มีรสขมที่หากินง่ายในบ้านเรา นอกจากมะระ และบอระเพ็ดแล้ว ก็ยังมีผักสมุนไพรพื้นบ้านอีกหนึ่งชนิด นั่นคือ สะเดา

1. ดีท็อกซ์สาsพิษในเลืoด

ดื่มน้ำต้ม หรือชาชงใบสะเดาช่วยให้เลือดสะอาด ล้างพิษในกระแสเลือด ส่งเสริมการทำงานของตับ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยรักษาระดับของน้ำตาลในเลือด ส่งเสริมการไหลเวียนเลือด และสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร

2. รักษาโsคทางผิวหนัง

สารออกฤทธิ์ในใบสะเดา มีสรรพคุณ ต้านเชื้อโsคร้ายต่างๆ และต้านการอักเสบ โดยเฉพาะ Gedunin และ nimbidol ที่มีในใบสะเดา

พบว่ามีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ ต้านเชื้อราสูง ช่วยทำลายเชื้อราที่เป็นสาเหตุเชื้อราที่เท้า เชื้อราที่เกิดขึ้นที่เล็บมือ หรือเล็บเท้า กลาก-เกลื้อน หิด เริม แผลจากโsคสะเก็ดเงิน(เชื้อแบคทีเรีย) ได้เป็นอย่างดี

3. รักษาไข้มาเลเรีย

สารเคมีกลุ่มลิโมนอยด์ (Limonoids) ได้แก่ สารเกดูนิ และ นิมโบลิดี ในใบและเมล็ดสะเดา สามารถยับยั้งเชื้อฟัลซิปารัม (P.Falciparum) ซึ่งเป็นเชื้อไข้มาลาเรียดื้อยาชนิดหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ­­­ และสารนี้มีความเป็นพิษต่ำ

4. ช่วยย่อยอาหาร

ใบสะเดา สามารถนำมาทำเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้ เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำดี ที่จะมีผลให้กระเพาะย่อยอาหารได้ดีขึ้น อีกทั้งน้ำดีที่ถูกกระตุ้นสร้างออกมานั้น จะช่วยย่อยอาหารประเภท­­­ไขมันได้ดีขึ้นด้วย

5. บำรุงสุขภาพช่องปาก

สะเดาเป็นพืชที่มีสรรพคุณบำรุงเหงือกและฟัน จึงนิยมนำมาสกัดเป็นส่วนผสมในยาสีฟันทั่วไป จึงช่วยรักษาโsครำมะนาด โsคเลือดออกตามไรฟัน โsคเหงือก ลดอาการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ช่องปากสุขภาพดี

6. ลดความเสี่ยงпารเกิดเนื้องอпและมะเร็ง

มีผลวิจัยบางชิ้นเผยว่า สารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) และสารลิโมนอยด์ (Limonoids) ที่พบในเปลือก ใบ และผลสะเดา มีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอก และมะเร็ง โดยไม่ก่อผลข้างเคียงใด ๆ

7. รักษารังแค

รวมถึงอาการคันหนังศีรษะ โดยใช้น้ำต้มใบสะเดาล้างหลังสระผมแล้ว จะช่วยรั ก ษ า รังแค กำจัดแบคทีเรียบนหนังศีรษะ แก้อาการคัน หนังศีรษะแห้งเป็นขุยได้

8. ป้องกันโsคเบาหวาน

สะเดามีคุณสมบัติยับยั้งการผลิตอินซูลินได้กว่าร้อยละ 50 ป้องกัน โ ร ค เบาหวาน และยังช่วยปรับสมดุลความอยากอาหารได้อีกด้วย

9. ละลายเสมหะ แก้ไข้

แก้อาการเสมหะติดคอ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ช่วยลดอาการไข้ได้

10. ช่วยเจริญอาหาร

รสขมๆ ของสะเดาช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี และช่วยให้ขับน้ำดีตกลงสู่ลำไส้มากขึ้น ทำให้ร่างกายเกิดความอยากอาหาร ทั้งยังช่วยย่อยอาหาร จึงทำให้ลำไส้ไม่ต้องทำงานหนัก อุจจาระละเอียดขับถ่ายคล่อง และช่วยให้นอนหลับสบาย

11. ต้านมาเร็ง

ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย สะเดามีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ที่จะช่วยฟื้นฟู และชะลอความเสื่อมต่างๆ ของเซลล์จากการถูกทำร้ายของสารอนุมูลอิสระ ที่อาจพัฒนากลายเป็นเซลล์มะเร็ง

12. ป้องกันโsคหัวใจ

ผลสะเดานำมาต้มน้ำ ดื่ม (ค่อยๆ จิบ) อย่างน้อยวันละครั้ง มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติขึ้น ปรับสมดุลจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ หัวใจจึงแข็งแรงขึ้น ป้องกันโsคหัวใจ

13. ลดการอักเสบของเเผล

ใบสะเดามีฤทธิ์เย็น ช่วยถอนพิษจากแมลงกัดต่อย ด้วยคุณสมบัติต้านเลือดแข็งตัว ต่อต้านการอักเสบ จึงช่วยลดการติดเชื้อในบาดแผล อย่างเช่น เเผลอักเสบ เเผลพุพอง เเผลสด หรือแผลเปื่อย

ข้อควรsะวัง

– ห้ามใช้น้ำมันสะเดาในเด็กแรกเกิด เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้

– ไม่ควรใช้ในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร และผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง เนื่องจากจะทำให้ไม่มีน้ำนม

– คนเป็นโsคความดันโลหิตต่ำควรละเว้น เพราะสะเดามีคุณสมบัติลดน้ำตาลในเลือด อาจยิ่งทำให้เลือดไหลเวียนน้อยลง เป็นลม หมดสติ หรือวูบได้ง่าย

– สะเดามีรสขม จึงเป็นยาเย็น จึงไม่เหมาะกับคนธาตุเย็น เพราะจะยิ่งทำให้ท้องอืด เกิดลมในกระเพาะ

– คนเป็นโsคไตไม่ควรทานสะเดา เพราะสะเดาเป็นอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง

– คนที่เป็นโsคกระเพาะและโsคกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงหรือทานแต่น้อย เพราะรสขมเป็นรสที่ช่วยกระตุ้นสร้างน้ำย่อยให้ออกมาขึ้น