Home »
Uncategories »
ดอกแค แก้ไตรกลีเซอไรด์สูง ไขมันพอกตับก็ไม่แพ้ ดื่มแก้โรคเกาต์ อาการปวดตามข้อ
ดอกแค แก้ไตรกลีเซอไรด์สูง ไขมันพอกตับก็ไม่แพ้ ดื่มแก้โรคเกาต์ อาการปวดตามข้อ
สมุนไพรแค มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า แคขาว แคแดง
แคดอกขาว ดอกแคแดง แคดอกแดง (กรุงเทพ-เชียงใหม่), แค แคบ้าน ต้นแค
แคบ้านดอกแดง ดอกแคบ้าน (ภาคกลาง), แคแกง เป็นต้น
ดอกแคอาหารเป็นยาโดยแท้
ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอกแค และฝักอ่อน นิยมลวกน้ำร้อนใช้กินร่วมกับน้ำพริกกะปิหรือน้ำพริกปลาร้า
ดอกอ่อนนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น แกงส้มดอกแค แกงจืดดอกแค
ดอกแคผัดหมูหรือกุ้ง และดอกแคชุบแป้งทอดกินกับน้ำพริก ทั้งนี้มักจะเอา
เกสรตัวผู้ออกจากดอกแคก่อนใช้ประกอบอาหารเพื่อลดความขมนะครับ
หมอแผนโบราณ จะต้มใบแคสด ดื่มแก้โรคเกาต์ ปวดตามข้อ ใบอ่อนของแคมีสารบีตา-แคโรทีนสูงมาก บำรุงสายตา ป้องกันโรคต้อ
การวิจัยของประเทศอินเดียพบว่า สารสกัดเอทานอลของใบแคมีฤทธิ์ป้องกันการถูกทำลายของตับจากสารเคมี สารกันเสีย อาหารแปรรูป สุรา ได้ดี
ใครที่มีภาวะตับอักเสบ ไขมันพอกตับ มีอาการปวดเสียดชายโครงด้านขวา
ท้องอืดประจำ อาหารไม่ย่อย มีลมในกระเพาะ ลำไส้มาก
ลองทานอาหารจากดอกแคบ่อยๆครับ
แต่ถ้าจะทานเป็นยาไม่ต้องเด็ดเกสรตัวผู้ออกนะครับ เพราะยาดีอยู่ที่นี่
ส่วนใครมีภาวะไขมันพอกตับ ไตรกลีเซอไรด์สูง
หมอแนะนำให้ทานยาประสะเจตและตรีผลามหาพิกัดครับ ทานติดต่อกัน 3
เดือนแล้วตรวจเลือดดูนะครับ
สรรพคุณของแค
ยอดแค อุดมไปด้วยวิตามินซึ่งมีส่วนช่วยต่อต้านและยับยั้งมะเร็ง
เพราะมีสารที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการก่อกลายพันธุ์
สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี (ดอก, ยอดอ่อน)
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันและรักษาอาการหวัด (ดอก)
ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แก้ร้อนใน กระหายน้ำ (ใบสด, ดอกโตเต็มที่)
ช่วยคุมธาตุในร่างกาย (เปลือกต้น)
ช่วยในเรื่องความจำ ป้องกันการเกิดเนื้องอก บรรเทาอาการไข้ ปวด
โลหิตจาง ด้วยการใช้ฝักแคสด 20 กรัม นำมาเคี่ยวกับน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 30
นาที กรองเอาฝักออก นำมาดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ในช่วงเช้า เย็น
และก่อนนอน (ในประเทศอินเดีย) (ฝัก)
ช่วยบำรุงและรักษาสายตา เนื่องจากมีเบตาแคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ (ดอก, ยอดแค)
ช่วยแก้โรคตาบอดตอนกลางคืน ด้วยการใช้ใบสด 20 กรัม เทน้ำเดือด 1 ลิตร
ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วกรองเอาใบแคออก นำมาดื่มแก้อาการ (ในประเทศอินเดีย)
(ใบ)
ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟัน เนื่องจากอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส (ดอก, ยอดแค)
ดอกแคมีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ ลดอาการไข้ ถอนพิษไข้ในร่างกาย
ช่วยแก้ไข้หัวลมหรือไข้เปลี่ยนอากาศ เปลี่ยนฤดู
ด้วยการใช้ดอกหรือใบนำมาต้มกับน้ำรับประทาน
หรือจะใช้ดอกที่โตเต็มที่นำมาล้างน้ำ แล้วต้มกับหมูทำหมูบะช่อ 1 ชาม
แล้วรับประทานวันละ 1 มื้อ ติดต่อกัน 3-7 วัน อาการก็จะดีขึ้น (ดอก)
น้ำคั้นจากรากใช้ผสมกับน้ำผึ้ง ใช้ดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ในช่วงเช้า
กลางวัน และก่อนนอน ใช้เป็นยาขับเสมหะ ลดอาการไอ แก้ร้อนใน แก้ไข้ลมหัวได้
(ราก)
ช่วยบรรเทาอาการของโรคลมบ้าหมู ด้วยการใช้ใบสด 20 กรัม เทน้ำเดือด 1
ลิตร ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วกรองเอาใบแคออก นำมาดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
ในช่วงเช้า เย็น และก่อนนอน (ในประเทศอินเดีย) (ใบ)
ช่วยแก้อาการปวดและหนักศีรษะ ด้วยการใช้น้ำคั้นที่ได้จากดอกและใบแคนำมาสูดเข้าจมูกเพื่อช่วยบรรเทาอาการ (ดอก, ใบ)
ยอดอ่อนใช้รับประทานแก้อาการปวดศีรษะข้างเดียว (ยอดอ่อน)
ช่วยรักษาหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ ด้วยการใช้ดอกแคสด 20 กรัม
นำมาเคี่ยวกับน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 15 นาที กรองเอาแต่ดอกออก
แล้วนำมาดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ในช่วงเช้า เย็น และช่วงก่อนนอน
(ในประเทศอินเดีย) (ดอก)
ช่วยแก้อาการปวดฟัน รำมะนาด ด้วยการใช้เปลือกแคนำมาต้มผสมเกลือให้เค็มจัดแล้วนำมาอม (เปลือกแค)
ช่วยรักษาปากเป็นแผล แก้อาการร้อนในจนปากลิ้นเปื่อย
ด้วยการใช้เปลือกแคชั้นในสุดที่มีสีน้ำตาลอ่อน ๆ นำมาเคี้ยว 3-5
นาทีแล้วคายทิ้ง ทำวันละ 2 ครั้ง ไม่เกิน 3 วันก็จะหายจากอาการ (เปลือกแค)
ชาวอินเดียใช้น้ำที่คั้นจากดอกหรือใบ นำมาสูดเข้าจมูกรักษาโรคริดสีดวงในจมูก ทำให้มีน้ำมูกออกมา (ดอก, ใบ)
เปลือกของต้นแคน้ำมาคั้นเป็นน้ำรับประทานช่วยแก้อาการท้องร่วง
แก้ท้องเดิน แก้โรคบิดมีตัว แก้มูกเลือดได้
หรือจะนำมาใช้ต้มหรือฝนรับประทานแก้อาการได้ หรือจะใช้เปลือกต้นปิ้งไฟ 1
ส่วน นำมาต้มกับน้ำหรือน้ำปูนใส 10 ส่วน แล้วนำมารับประทานครั้งละ 1-2
ช้อนแกงก็ได้เช่นกัน (เปลือกต้น)
ช่วยแก้ตานขโมย ด้วยการใช้แคทั้งห้าส่วนอย่างละ 1 กำมือ
แล้วใส่น้ำพอท่วมยา หลังจากนั้นต้มให้เดือดประมาณ 5-10 นาที
แล้วนำมากินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง ประมาณ 15 วัน (ทั้งห้าส่วน)
ช่วยทำให้เจริญอาหาร เนื่องจากรสขมของดอกแคช่วยกวาดล้างเมือกในช่องปาก
ทำให้ลิ้นเสียความรู้สึก แต่ทำให้อยากอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น
(ดอก)
สรรพคุณดอกแค ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก (ดอก, ใบ)
ใบแค ใช้รับประทานช่วยทำให้ระบาย หรือจะใช้ฝักแคสด 20 กรัม
นำมาเคี่ยวกับน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 30 นาที กรองเอาฝักออก นำมาดื่มก่อนอาหาร 1
ชั่วโมง ในช่วงเช้า เย็น และก่อนนอน (ใบ, ฝัก)
ช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ใบสด 20 กรัม เทน้ำเดือด 1 ลิตร ทิ้งไว้ 15
นาที แล้วกรองเอาใบแคออก นำมาดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ในช่วงเช้า เย็น
และก่อนนอน (ในประเทศอินเดีย) (ใบ)
ช่วยบำรุงและรักษาตับ ด้วยการใช้ดอกแคสด 20 กรัม นำมาเคี่ยวกับน้ำ 1
ลิตรประมาณ 15 นาที กรองเอาแต่ดอกออก แล้วนำมาดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
ในช่วงเช้า เย็น และก่อนนอน (ในประเทศอินเดีย) (ดอก, ใบ)
ช่วยแก้อาการอักเสบ ด้วยการใช้รากสด 20 กรัม นำมาเคี่ยวในน้ำ 1
ลิตรประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วกรองเอารากออก ใช้ดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
ในช่วงเช้า เย็น และก่อนนอน (ในประเทศอินเดีย) (ราก)
ช่วยบรรเทาอาการของโรคเกาต์ ด้วยการใช้ใบสด 20 กรัม เทน้ำเดือด 1 ลิตร
ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วกรองเอาใบแคออก นำมาดื่มก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
ในช่วงเช้า เย็น และก่อนนอน (ในประเทศอินเดีย) (ใบ)
เปลือกต้นนำมาใช้ภายนอก สามารถใช้ทำเป็นยาล้างแผล ชะล้างบาดแผลได้
ด้วยการใช้เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำเดือด 15 นาที ใส่เกลือเล็กน้อย
แล้วนำมาใช้ล้างแผลวันละ 3 ครั้ง (เปลือกต้น)
ช่วยรักษาแผลมีหนอง ด้วยการใช้เปลือกต้นแคแก่ ๆ
นำมาตากแห้งแล้วฝนกับน้ำสะอาดหรือน้ำปูนใส ใช้ทาแผลเช้าเย็น
(ก่อนทาควรใช้น้ำต้มจากเปลือกแคล้างแผลก่อน) จะช่วยทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
(เปลือกต้น)
ใบสดนำมาตำละเอียดใช้พอกแก้อาการฟกช้ำได้ (ใบ)
ในอินเดียมีการใช้ใบอ่อนเป็นอาหารเสริมบีตา-แคโรทีนอยด์ในผู้ที่ขาดแคโรทีนอยด์
พบว่าหลังจากได้รับอาหารเสริมใบอ่อนแค (Agathi)
จะมีปริมาณแคโรทีนในซีรั่มเพิ่มขึ้นในวันที่ 7
ในหนูทดลองที่รับยาและสารสกัดจากใบแคจะมีปริมาณของระดับคอเลสเตอรอล
ไตรกลีเซอไรด์ ฟอสโฟไลพิด
และกรดไจมันอิสระต่ำกว่าหนูทดลองในกลุ่มที่ได้รับยาเพียงอย่างเดียว (ใบ)
สารสกัดจากใบแค
ช่วยทำให้ปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือดของหนูทดลองกลับสู่สภาวะปกติ
ผลงานวิจัยนี้จึงเป็นข้อสนับสนุนข้อมูลแพทย์ทางเลือกที่มีการใช้ใบแคเพื่อบำรุงตับและแก้ความผิดปกติของตับได้เป็นอย่างดี
(ใบ)
สารสกัดจากเอทานอลของใบแคมีฤทธิ์ช่วยป้องกันตับถูกทำลายในหนูทดลองที่ได้รับยาเกินขนาด (ใบ)
ช่วยแก้อาการหัวใจสั่น (ใบ),
เปลือกในของต้นใช้อมแก้ลิ้นเป็นเม็ดคันหรือแสบ (เปลือกใน)
(ข้อมูลนี้ยังขาดแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ** ที่มาจาก :
www.numthang.org)
ดอกช่วยชะลอความแก่ชรา แก้อาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
ป้องกันโรคเบาหวาน ทำให้ร่างกายไม่อ่อนแอหรือเหนื่อยง่าย ป้องกันผมร่วง
บำรุงผิวพรรณ ป้องกันผิวแห้งแตกหรือริ้วรอย ลดปัญหาเล็บมือ
เล็บเท้าเปราะแตกง่าย ลดอาการซึมเศร้า อาการหงุดหงิด นอนไม่หลับ
รักษาผิวหนังเป็นผื่น บรรเทาอาการของสิวอักเสบ
(ข้อมูลนี้ยังขาดแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ** ที่มาจาก :
www.yesspathailand.com)
ข้อมูลสุขภาพจาก : คลินิกสมุนไพรหมอศุภการแพทย์แผนไทย
แหล่งอ้างอิง :
เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,
หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ
ฝ่ายปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (นพพล
เกตุประสาท), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.),
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ (เธียพัฒน์ ศรชัย), เว็บไซต์มูลนิธิหมอชาวบ้าน