Home »
Uncategories »
8 เทคนิคการขับรถ ขึ้นเขา ลงเขา ให้ปลอดภัย
8 เทคนิคการขับรถ ขึ้นเขา ลงเขา ให้ปลอดภัย
เราทุกคนต่างก็ต้องการเวลาพักผ่อนกันทั้งนั้น นั้นก็แปลว่า การที่เราจะออกไปพัผ่อนเราก็ต้องนำรถของเราออกไปซะส่วนใหญ่
และสถานที่พักผ่อนส่วนใหญ่ก็ ไม่พ้น บ ร ร ย า ก า ศบนเขา ซึ่งการจะเดินทางไปนั้นต้องขับรถขึ้นเขา ลงเขา
แต่ การจะเดินทางไปนั้น ไม่เหมือนขับในทางเรียบในเมืองปกติ เราจึงต้องเรียนรู้หลักการขับรถ
ขึ้นเขา ลงเขา ให้ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
1 ลงเขาอย่าใส่เกียร์ว่าง
บางคนต่างก็คิดว่า เวลาขับรถลงเขาให้ใส่เกียร์ว่าง ( เกียร์ N ) แล้วปล่อยไหล
เพื่อประหยัดน้ำมันซึ่งมักจะเป็นการขับรถที่ผิดหลักของการขับรถที่ปลอดภัย
เพราะ เวลาใส่เกียร์ว่างแล้วปล่อยไหล ล้อจะเป็นอิสระจากเครื่องยนต์ทำให้เราเ สี ย การควบคุมรถ
ได้ง่าย หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น เบรค แ ต ก จะยิ่งทำให้เราควบคุมรถไม่อยู่ ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง
2 ลงเขาให้ใช้เกียร์ต่ำ
และสำหรับการขับรถลงเขานั้น ก็สมควรที่จะใช้เกียร์ต่ำไว้ เพื่อให้แรงฉุ ดเครื่องยนต์ และ เกียร์ช่วยประคอง
ให้รถวิ่งช้าลง การใช้เกียร์ต่ำวิ่งลงทางชันนั้น ทำให้เครื่องยนต์มีแรงฉุ ดมากเคลื่อนที่ได้ไม่เร็ว
เข้าโค้งได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น และ เป็นการลดภาระการทำงานของเบรก ไม่ต้องแตะเบรกบ่อย
ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเจอปัญหาเบรค แ ต ก หรือ หากเกิดมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ เราก็สาม า ร ถประคอง
รถหลบเข้าข้างทางได้ จึงทำให้ปลอดภัยมากขึ้น
3 ขาขึ้นควรใช้เกียร์ต่ำ
ทางขึ้นเขาจะมีความชันมาก รถจึงต้องใช้แรงมากกว่าการขับรถบนถนนปกติทั่วไป และเกียร์ที่สาม า ร ถ
ใช้ในการขับรถขึ้นทางชันได้ ก็มีเพียงแค่เกียร์ 1 และ 2 เท่านั้น เพราะมีแรงมากกว่าเกียร์อื่น และหากรู้สึก
ว่ารถเริ่มไม่มีแรง ก็ให้ลดเกียร์ต่ำลงมาอีก เช่น ขับมาเกียร์ 2 แล้วรถเริ่มอืดๆ ให้ลดเกียร์มาเป็นเกียร์ 1 แทน
จะทำให้รถมีแรงมากขึ้น ส่วนรถเกียร์ออโต้ ให้เปลี่ยนเกียร์จากตำแหน่ง D ไปตำแหน่ง L
4 ระวังทางโค้ง
ปกติแล้วทางขึ้นเขาจะตัดถนนเป็นทางโค้งคดเคี้ยวไปมา ยิ่งภูเขาสูงมากเท่าไหร่ ถนนก็ยิ่งคดเคี้ยว
เพราะทางโค้งใช้สำหรับลดความลาดชันของพื้นที่ให้รถสาม า ร ถขับขึ้นไปได้ ทางโค้งบนเขานั้น
มักจะมีต้นไม้บังถนนอีกฝั่ง เวลาเข้าโค้งจึงควรขับชิดซ้ายเอาไว้ เผื่อมีรถอีกฝั่งแซงมา
ในทางโค้งจะได้หลบหลีกได้ทัน
5 เคารพเส้นจราจร ห้ามแซง คือ ห้ามแซง
เนื่องจากถนนบนเขานั้นมีความแคบและคดเคี้ยวมาก ทำให้ไม่สาม า ร ถ มองเห็นรถอีกฝั่งได้ชัดเจน
เพราะถูกทางโค้งหรือต้นไม้บดบัง จึงไม่ควรขับแซงในเขตห้ามแซง หรือไม่ควรขับแซงในที่ที่
ไม่สาม า ร ถ มองเห็นรถอีกฝั่งได้ เนื่องจากอุบัติเหตุบนเขาส่วนใหญ่ก็มาจากการแซงทางโค้ง
หรือแซงโดยที่มองรถอีกฝั่งไม่เห็น
6 คำนวณระยะเบรกในทางลง
สำหรับทางลงเขาจะมีความชันมาก รถจะต้องการระยะเบรกเพิ่มขึ้นย า ว กว่าปกติ เนื่องจากความลาดชัน
ของพื้นที่และน้ำหนักของตัวรถจะมีผลให้รถเบรกได้ช้าลง ดังนั้น เวลาคุณเบรกขณะอยู่บนทางลงเขา
ควรคำนวณระยะเบรกให้เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อให้สาม า ร ถเบรกได้อย่างเหมาะสม และ ไม่ไหลไปชนรถคันข้างหน้า
7 เร่งเครื่องอย่างสม่ำเสมอ
การเร่งเครื่องขึ้นเขาเราต้องเร่งเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งกำลังให้รถมีกำลังขึ้นเขาอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งในทางชัน ย า ว ๆ ควรเร่งต่อเนื่องกันไป เพราะหากเร่งๆ หยุดๆ จะทำให้รถหมดแรงส่ง และ ไหลลงมาได้
8 แตะเบรกเป็นระยะ
ในทางลงเขาที่ชันมาก แรงฉุ ดจากเครื่องยนต์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องแตะเบรกช่วยด้วย
เพื่อชะลอความเร็วของรถ แต่อย่าแตะเบรกแช่ย า ว เพราะจะทำให้เบรกไหม้ และ เบรกไม่อยู่ ทางที่ดี
ควรแตะเบรกในจังหวะจำเป็นเท่านั้น และควรตรวจสอบเบรกรถยนต์ก่อนออกเดินทาง ให้อยู่
ในสภาพที่ปลอดภัยและพร้อมใช้งาน
ขอบคุณแหล่งที่มา bitcoretech