อุทาหรณ์..คนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เลือกซื้อโครงการบ้าน ต้องดูให้ดี!

สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้าน หรือกำลังอยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะบ้านที่เป็นโครงการ วันนี้เรามีเรื่องราวที่เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะซื้อบ้านโครงการ โดยเรื่องนี้ได้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ้ค เจาะเลนส์ข่าว โดยระบุว่า..

อุทาหรณ์ เลือกซื้อโครงการบ้านดูให้ดี

มีผู้เสียหาย จำนวนทั้งหมด 21 หลัง จากกรณี โครงการบ้านจัดสรรย่านหนองแขม-กระทุ่มแบน ได้โฆษณาว่าซื้อบ้านพร้อมของแถมฟรี และทางโครงการมีการจัดโปรโมชั่นฟรีของแถมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดเงิดสด แอร์ ผ้าม่าน และอื่นอีกมากมายๆ

แต่ในการจัดโปรโมชั่นฟรีของแถมนั้น ลูกค้าที่มาซื้อบ้านจะได้รับของแถมที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ละหลังตามช่วงเวลาที่จัดโปรโมชั่น เมื่อผู้ซื้อบ้านตกลงจองบ้านพร้อมของแถมฟรีหลายรายการ พนักงานจึงให้ทำเรื่องเพื่อดำเนินการยื่นขอสินเชื่อบ้านจากทางธนาคารต่างๆ

แต่การยื่นขอสินเชื่อบ้านนั้น พนักงานขายจะให้ทางผู้ซื้อบ้านยื่นกู้ยอดสินเชื่อบ้านที่มีมูลค่าสูงกว่าราคาบ้าน ด้วยเหตุผล คือ เพื่อนำมาตกแต่งบ้าน หรือ ค่าทำเลบ้านหลังหัวมุม หรือ ค่าส่วนต่างของราคาที่ดินที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

เมื่อเงินกู้สินเชื่อบ้านอนุมัติวงเงิน พนักงานขายได้แจ้งกับผู้ซื้อบ้านมาดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ และทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจัดสรร(มีสิ่งปลูกสร้าง)และมีสัญญาแนบท้ายมีโปรโมชั่นฟรีของแถมหลายรายการ 

หลังจากการโอนกรรมสิทธิ์ ที่สำนักงานที่ดินฯ จากการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจัดสรร(มีสิ่งปลูกสร้าง) มีการตรวจสอบพบว่าราคาบ้านที่แท้จริง มีราคาต่ำกว่าใบจอง และในหนังสือสัญญาขายที่ดิน

อีกทั้งมีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าที่มาซื้อบ้าน และแจ้งว่าเป็นค่าดำเนินการโครงการหรือค่าที่ต้องจ่ายคืนเข้าโครงการ พนักงานขายแจ้งให้ผู้ซื้อบ้านต้องนำเงินสดหรือเช็คเงินสดที่ได้จากการกู้สินเชื่อบ้าน นำมาให้กับพนักงานขาย ในวันที่ทำสัญญาซื้อขาย

ภายหลังทราบว่า หนังสือแนบท้ายสัญญาที่ระบุของแถมฟรี นั้นเป็นของปลอม และเงินที่จ่ายกับพนักงานขายเอาไปซื้อของมาเป็นของแถมให้ผู้ซื้อบ้านทำให้ผู้ซื้อบ้านเกิดความเสียหาย จึงได้รวมตัวกันเอาผิด บริษัทและพนักงานขาย รวมความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นมูลค่ากว่า …. ล้านบาท

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้คงจะเป็นอุทาหรณ์ไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อบ้าน คงต้องตรวจสอบรายละเอียดทุกอย่างให้ดีๆ จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังเมื่อได้ซื้อไปแล้ว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก เจาะเลนส์ข่าว