Home »
Uncategories »
ราคาสูงทั้งปี เลี้ยงไข่มดแดงในคอนโด ตลาดต้องการสูงมาก มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย
ราคาสูงทั้งปี เลี้ยงไข่มดแดงในคอนโด ตลาดต้องการสูงมาก มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย
มดแดงเป็นมดที่เรารู้จักกันทั่วไป
นอกจากช่วยในการควบคุมศัตรูพืชบางชนิดแล้ว
ไข่มดแดงยังสามารถนำมาบริโภคเป็นอาหารได้อีกด้วย
แต่เนื่องจากไข่มดแดงนั้นหาทานได้ยาก เพราะจะมีผลผลิตเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น
จึงทำให้มีราคาสูง
การเลี้ยงมดแดงนอกฤดูจึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้เกษตรกร
ไข่มดแดง นับเป็นของป่าที่มูลค่า และหากินได้ยากมาก
เนื่องจากจำนวนการออกผลผลิตมีได้เพียงปีละครั้ง
ทำให้มีราคาและเป็นที่ต้องการของตลาด แต่คงไม่ใช่ในปัจจุบัน
เพราะได้มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่หันมาเลี้ยง ไข่มดแดงคอนโด
และบังคับให้ออกไข่นอกฤดูกาล จนกลายเป็น 1
อาชีพที่เสริมรายได้ให้คนไทยจำนวนไม่น้อย
วันนี้ จะพาไปรู้จักความรู้การทำคอนโดไข่มดแดง จากแนวคิดและภูมิปัญญาของ
“พ่อครูสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์” ปราชญ์แห่งสวนป่ามหาชีวาลัยอีสาน
ที่ได้ระบุว่า
ภูมิปัญดังกล่าวเกิดจากการสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ
โดยเฉพาะมดแดงที่บางครั้งมักจะทำรังในขวดพลาสติก หรือท่อพีวีซี
ซึ่งจากการสังเกตนี้เองจึงทำให้เกิดแนวคิดการเลี้ยงไข่มดแดงคอนโดขึ้นมา
การทำคอนโดไข่มดแดงสามารถทำได้หลายวิธี แต่ที่นิยมทำกันคือการนำขวดพลาสติกมาเจาะรูด้านข้างหรือตัดขวดตามแนวขวางประมาณ
1/4 บริเวณส่วนหัวขวด แล้วจึงนำส่วนที่ตัดแล้วสอดกลับเข้าไปในตัวขวด
โดยให้ปากขวดหงายขึ้น (ดังภาพ)
บริเวณก้นขวดให้เจาะรูเพื่อทำเป็นที่แขวนผูกติดกับต้นไม้
จากนั้นก็ล่อให้มดแดงเข้ามาอยู่ในคอนโดนั้น โดยใช้เหยื่อจำพวกแมลงอบแห้ง
(อบด้วยแสงแดด) เช่น จิ้งหรีด แมงเม่า แมงจินูน เป็นต้น ใส่ลงไปในรังเทียม
หากเป็นแมลงตัวใหญ่ใช้ประมาณ 5-6 ตัว
แต่หากเป็นแมลงตัวเล็กจะต้องใส่จำนวนมากหน่อยประมาณ 15-20 ตัว
ซึ่งการจะได้ผลดีต้องสังเกตด้วยว่าต้นไม้นั้นมีมดแดงรังใหญ่อยู่มากขนาดไหน
เพราะส่วนใหญ่มดแดงที่จะคาบไข่มาไว้ในรังเทียม
จะเป็นมดแดงที่มีรังขนาดใหญ่ ๆ มีประชากรเยอะ ๆ
และหากรังเทียมไหนมีมดแดงเยอะก็ไม่ควรเติมเหยื่อเพิ่ม
แต่ควรดูแลอย่าให้รังมดถูกรบกวนไม่อย่างนั้นมดแดงอาจจะขนไข่ย้ายหนีไปได้
การทำคอนโดไข่มดแดงให้ประสบความสำเร็จ ต้องทำควบคู่กับการเลี้ยงมดแดง
ซึ่งจะต้องให้อาหารจำพวกแมลงอบแห้ง และน้ำผสมน้ำหวาน
โดยข้อดีของการทำคอนโดมดแดงคือ การลดการทำลายรังและประชากรของมดแดง
อีกทั้งหากเลี้ยงในเชิงพาณิชย์จะช่วยให้ผู้เลี้ยงเก็บไข่มดแดงได้สะดวกสบายขึ้น
เราสามารถเลือกเก็บไข่มดแดงได้
และทำให้ทราบถึงปริมาณไข่มดแดงที่จะเก็บขายได้ พ่อครูสุทธินันท์ ระบุ
การเลี้ยงมดแดง
ถ้าเรารู้เทคนิคและวิธีการเลี้ยงก็จะทำให้มีผลผลิตไข่มดแดงมากขึ้นซึ่ง
อาจารย์ไพรัตน์ ชื่นศรี แห่งศูนย์การเรียนรู้ชุมชน บ้านแสงจันทร์ อำเภอสตึก
จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงเทคนิคการเลี้ยงมดแดงให้ออกไข่นอกฤดู
ว่า
หากฝนไม่ตกให้ทำการฉีดน้ำใส่ใบหรือฉีดใส่ต้นไม้ในช่วงเย็นๆ เดือนละ 1-2
ครั้ง ในช่วงฤดูหนาวและร้อน มดแดงก็จะเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น
หรือให้ติดสปริงเกอร์ ตลอดแนวราวเลี้ยงมดแดง
เพื่อฉีดน้ำในช่วงที่ฝนไม่ตกหรือฤดูร้อนเพื่อหลอกว่าเป็นช่วงฤดูฝน
โดยที่ในช่วงเดือนมีนาคม
เริ่มให้น้ำโดยการใช้น้ำฉีดจากสายยางหรือสปริงเกอร์ที่ติดตั้งไว้
จากนั้นให้อาหารตามปกติ ประมาณอีก 1 เดือน
เริ่มมีไข่สามารถเก็บจำหน่ายได้
วิธีการสังเกตว่ามดแดงรังไหนสามารถเก็บได้คือ ให้ดูจากรังว่าใหญ่หรือไม่
หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ให้สังเกตว่าที่รังมดแดงเป็นฝ้าหรือไม่
ถ้าเป็นฝ้าสีขาวขึ้นตามขอบรังแสดงว่าเก็บมดแดงได้แล้ว
วัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับการเลี้ยงมดแดง
1. ขวดน้ำอัดลมพลาสติกขนาดใหญ่ 1.25 ลิตร พร้อมฝาจำนวน 5 – 10 ขวด
2. เชือกด้ายสีแดง(ไนล่อน)ความหนาขนาดเชือกว่าว
3. กิ่งไม้ ความยาว 1 ฟุต จำนวน 10-20 อัน เพื่อทำเป็นสะพาน ทางลงไปกินน้ำและอาหาร
4. ลวด ขนาดยาว 1-2 ฟุต หรือตามขนาดรอบวงของต้นไม้ 5-10 ขด
5. เศษอาหาร พวกกระดูก ก้างปลา หัวปลา ปู กุ้ง เศษอาหารอื่นที่ หาได้ และน้ำ
6. มีดเล็ก คัทเตอร์ คีมตัดลวด ถุงปุ๋ย พร้อมเชือกฟางมัดถุง
สำหรับขั้นตอนวิธีการทำ สามารถทำได้โดยง่าย ดังนี้
1. สังเกตดูบริเวณป่าที่จะเลี้ยงมดแดงจะต้องมีต้นไม้อย่างน้อย 5-10 ต้น
เป็นไม้ผล หรือไม้พื้นเมืองก็ได้ มดแดงจะชอบอยู่ อาศัยพื้นที่ป่า
และพื้นที่ที่มีต้นไม้ใบอ่อน
2. ตัดขวดน้ำพลาสติก โดยแบ่งครึ่ง 2 ส่วน ล้างน้ำให้สะอาด นำมาเจาะรู 2 รู เพื่อทำการผูกลวดใส่กับต้นไม้
3. ส่วนที่มีฝาขวดใช้ใส่อาหารเพราะถ้ามีน้ำขังสามารถเปิดฝาให้น้ำระบายออกได้
4. ส่วนที่เป็นก้นขวดให้ใส่น้ำ และนำกิ่งไม้ใช้เชือกผูกกับต้นไม้เป็นทางลงโดยหย่อนพาดลงในขวดที่ตัดใส่น้ำและอาหาร
5. ขึงเชือกโดยผูกติดกับต้นไม้และผูกโยงเชือกระหว่างต้นไม้เป็นถนนเส้น ทางเดินไปมาของมดระหว่างต้นไม้
6. การเลี้ยงหลังจากจัดเตรียมเส้นทางและเลือกต้นไม้ไว้แล้ว
ให้ไปหารังมดแดง นอกพื้นที่ไกล ๆ ยิ่งดี
เพื่อไม่ให้เกิดเลือดชิดเพราะถ้าเลือดชิดจะทำให้การเกิดไข่น้อย
7. หลังจากที่เลือกรังมดแดงได้แล้ว ให้ทำการตัดรังมดแดงใส่ในถุงปุ๋ยรังละถุง
8. นำรังมดแดงที่ตัดมาได้เอาปล่อยในตอนเย็น
โดยมัดถุงปุ๋ยที่ใส่มดแดงไว้กับต้นไม้
ตอนเช้าค่อยให้น้ำและอาหารที่เตรียมไว้ในขวดน้ำอัดลมที่มัดติดต้นไม้
มดแดงก็จะไต่ออกมาและสร้างรังใหม่เอง
ส่วนการดูแลและให้อาหาร
อาหารจะเป็นการให้เศษอาหารและทำการเปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละ1ครั้ง
ต้องคอยดูแลเรื่องมดดำที่เป็นศัตรูสำคัญของมดแดงเพราะถ้ามีมดดำมาก
มดแดงจะหนี หากฝนไม่ตกให้ทำการฉีดน้ำใส่ใบหรือฉีดใส่ต้นไม้ในช่วงเย็นๆ
เดือนละ 1-2 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาวและร้อน มดแดงก็จะเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น
เทคนิคการเลี้ยงนอกฤดู
หากฝนไม่ตกให้ทำการฉีดน้ำใส่ใบหรือฉีดใส่ต้นไม้ในช่วงเย็นๆ เดือนละ 1-2
ครั้ง ในช่วงฤดูหนาวและร้อน มดแดงก็จะเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น
หรือให้ติดสปริงเกอร์ ตลอดแนวราวเลี้ยงมดแดง
เพื่อฉีดน้ำในช่วงที่ฝนไม่ตกหรือฤดูร้อนเพื่อหลอกว่าเป็นช่วงฤดูฝน
โดยที่ในช่วงเดือนมีนาคม
เริ่มให้น้ำโดยการใช้น้ำฉีดจากสายยางหรือสปริงเกอร์ที่ติดตั้งไว้
จากนั้นให้อาหารตามปกติ ประมาณอีก 1 เดือน เริ่มมีไข่สามารถเก็บจำหน่ายได้
วิธีการสังเกตว่ามดแดงรังไหนสามารถเก็บได้คือ ให้ดูจากรังว่าใหญ่หรือไม่
หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ให้สังเกตว่าที่รังมดแดงเป็นฝ้าหรือไม่
ถ้าเป็นฝ้าสีขาวขึ้นตามขอบรังแสดงว่าเก็บมดแดงได้
วิธีการเก็บ
ใช้ท่อพีวีซีขนาด 2 นิ้ว 2 ท่อน ต่อกัน
แล้วตัดปลายเป็นปากฉลามเพื่อไว้แหย่รังมดแดงเพื่อกันรังมดแดงแตก
ส่วนภาชนะที่ใช้เก็บควรใช้ถุงพลาสติกแบบหูหิ้วมัดปลายท่อพีวีซีเพื่อเก็บไข่ที่แหย่ลงมา
และเป็นการป้องกันมดกัดด้วยเพราะท่อพีวีซีและถุงลื่นมดไม่สามารถขึ้นมาเกาะผู้เก็บได้
ชมคลิปวีดีโอ คอนโด ไข่มดแดง
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : เกษตรก้าวหน้า และ เพจศูนย์ความรู้ทางการเกษตร