อย่า…!! อวดยศ อวดศักดิ์ ควรถอดหน้ากาก ก่อนจะไปงานเลี้ยงรุ่น

อย่า…!! อวดยศ อวดศักดิ์ ควรถอดหน้ากาก ก่อนจะไปงานเลี้ยงรุ่น

คำว่า “เพื่อน” นั้นมีค่ามากกว่า ยศ ศักดิ์ หรือ ฐานะ ควร ถอดยศ ถอดศักดิ์ ก่อนไปงานเลี้ยงรุ่น

นายเทาเรียนจบนิติศาสตร์จากมหาวิทยาชื่อดังของเมืองไทย

ปัจจุบัน นายเทาประกอบอาชีพ นักเขียน ทนายความตามชนบทธรรมดาคนหนึ่งในต่างจังหวัด นานๆ จะมีโอกาสเข้ากรุงเทพครั้งหนึ่ง หลังจากเรียนจบมาหลายสิบปีก็ไม่ได้พบเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันอีกเลย

มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนบ้านบอกจะมีเจ้าหน้าที่จากอำเภอระดับสูงออกมาบริการ นายบรรเทาจึงไปร่วมประชุมที่ศาลากลางบ้าน โดยมีนายอำเภอเดินทางมาเป็นประธาน ขณะที่พูดนายอำเภอก็เมียงมองมาที่นายบรรเทาบ่อยๆ

ครั้นจนกระทั่งเสร็จจากการให้บริการ นายอำเภอจึงให้คนมาตามนายบรรเทาไปพบ นายอำเภอถามว่า “คุณชื่อบรรเทา จอดนอก ใช่มั๊ย”

“นายเทาบอกว่าใช่ครับ” ท่านรู้จักชื่อผมได้ยังงัย นายอำเภอได้ยินดังนั้น จึงพูดด้วยเสียงอันดังว่า

“ไอ้เทา…มึงจำกูไม่ได้รึ กูไอ้คง ที่ลอกการบ้านมึงบ่อยๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยไง”

บรรเทาบอกว่า ผมก็รู้สึกคุ้นๆ กับชื่อท่าน ก็พึ่งนึกได้ตอนที่ท่านลอกการบ้านนี่หละครับ นายอำเภอบอก ตอนมึงอยู่กับกู ก็พูดธรรมดาเถอะว่ะ กูกับมึงเป็นเพื่อนกัน

หลังจากนั้นหนึ่งเดือน นายอำเภอก็มาชวนเทาไปงานเลี้ยงรุ่น ที่มหาวิทยาลัย นายบรรเทาก็ไปร่วม ซึ่งก็ได้เจอเพื่อเก่าๆ มากมาย คุยกันสารทุกข์สุขดิบต่างๆ นานา ซึ่งเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็มียศตำแหน่งสูงๆ ทั้งนั้น มีไม่กี่คนที่ทำอาชีพส่วนตัว ซึ่งก็ไม่ได้รับความสนใจมากมาย นอกจากคนที่เป็นผู้ว่า นายพลตำรวจ-ทหาร นายอำเภอ นักการเมือง หรือข้าราชการอื่นๆ

บรรเทาและเพื่อนๆ สามสี่คน ก็คุยกันอีกกลุ่มหนึ่ง ต่างก็มีความสุขกันดี จนงานเลิกต่างคนต่างเดินทางกลับบ้านด้วยความสุข

หลายเดือนผ่านไป จนกระทั่งครบปีหนึ่ง นายอำเภอก็ย้ายไปที่อำเภออื่น แต่ก็ไม่ลืมที่จะนัดหมายนายเทาให้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นอีก

งานเลี้ยงรุ่นปีนี้ บรรเทาก็มาถึงสถานที่จัดงาน “เทา” เดินเข้าไปในงาน ได้ยินโฆษกประกาศต้อนรับ “ท่าน ผวจ. ท่านนายพล นายอำเภอ และข้าราชชั้นผู้ใหญ่ ต่างประกาศแสดงตนแบบออกหน้า ออกตา บรรเทายืนงง สงสัยว่ามาถูกงานมั๊ยนี่ เนื่องจากว่าไม่ได้ยินเสียงประกาศเหมือนงานเลี้ยงรุ่นเลย

บรรเทาได้แต่ครุ่นคิดว่าตัวเองมางานเลี้ยงรุ่นหรือมางานเลี้ยงฉลองตำแหน่งกันแน่ ครุ่นคิดอยู่ในใจ

นายบรรเทาจึงเดินกลับออกมาจากงานเลี้ยง แล้วขึ้นรถกลับบ้าน เพราะไม่มีงานเลี้ยงรุ่น แต่มีงานเลี้ยงเจ้านายต่างๆ เท่านั้น บรรเทาบอก เราไม่มีตำแหน่ง เลยไม่มีที่ว่างของคำว่า “เพื่อน” มันหายไปตามกาลเวลา

**ฝากทุกท่านไว้ว่า

อยากให้งานเลี้ยงรุ่นเป็นงานเลี้ยงรุ่นจริงๆ ไม่ใช่งานเลี้ยงตำแหน่ง งานประกาศความสำเร็จ หรือ งานอวดของท่านทั้งหลาย ดังเรื่องราวของ “บรรเทา” ที่ทุกท่านได้อ่าน เพราะนี่คือหนึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง

“งานเลี้ยงพวกเรา” ขอให้มีเพียงเพื่อน เนื่องจากเริ่มเห็นอาการแล้วนะครับ เช่น เรียกกันว่าท่านฯ ท่าน ดร. ท่าน สส. ท่าน ผอ. คิดถึงหัวอกคนที่ไม่มีตำแหน่งทางสังคม ทางราชการบ้างครับ ยิ่งยกตนข่มคนอื่นไปเรื่อยๆ ยิ่งจะไม่มีรุ่นให้เลี้ยง ฉะนั้นงานเลี้ยงรุ่น ควรถอดหัวโขนออกให้หมด แล้วงานเลี้ยงรุ่นของท่านจะมีคนมาเพิ่มอีกทุกปีๆ