10 สมุนไพรใกล้ตัว!! ที่จะช่วยคุณบอกลาไขมันส่วนเกินในร่างกาย และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างง่ายๆ

หากคุณรู้สึกว่าตัวคุณมีไขมันส่วนเกินในร่างกายเยอะเกินไป และกำลังมองหาตัวช่วยในการลดไขมันอยู่ สมุนไพรก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี สมุนไพรไทยที่หลายคนมองข้าม เนื่องจากสรรพคุณของสุนนไพรนั้นมีมากมาย ทั้งช่วยดูแลและบำรุงรักษาร่างกายให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แล้ววันนี้เรามี 10 สมุนไพร ที่ช่วยลดไขมันได้เป็นอย่างดี มานำเสนอทุกคน มีอะไรบ้าง มาดูกัน

1. พริกไทยดำ

รสชาติเผ็ดร้อนของพริกไทยดำ มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้เป็นอย่างดี ทำให้เซลล์ไขมันเก่าที่สะสมอยู่ในร่างกายตาย พร้อมกับควบคุมการเกิดขึ้นใหม่ของไขมัน แล้วยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญพลังงานได้อย่างสมบูรณ์ จึงไม่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในร่างกาย
ข้อควรระวัง : การรับประทานพริกไทยดำจากการปรุงอาหาร ดีและปลอดภัยกว่าการกินผลิตภัณฑ์ ลดความอ้วน พริกไทยดำ ด้วยงานวิจัยพบว่าหากทานในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานานนั้น ทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้


2. ใบย่านาง

การศึกษาจากทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร International Food Research Journal พบว่า การรับประทานใบย่านางจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายเพื่อนำไปใช้พลังงาน อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูงทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น การรับประทานใบย่านางนั้นสามารถนำใบมารับประทานได้ทั้งแบบใบสด คั้นเป็นน้ำดื่ม หรือรับประทานแบบแคปซูลก็ได้


3. ขิง

ขิง มีสรรพคุณในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่นท้องผูก ท้องเสีย คลื่นไส้ และจุกเสียด นอกจากนั้นแล้วขิงยังมีประโยชน์ในด้านลดน้ำหนักด้วย โดยช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ได้มากขึ้น กำจัดของเสียได้มากขึ้น และทำให้ร่างกายนำพลังงานที่เก็บไว้ในรูปแบบของไขมันออกมาใช้ได้มากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ขิงยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยเพิ่มพลังให้กับการเผาผลาญ โดยจากการศึกษาพบว่าเพิ่มได้มากถึง 20% เลยทีเดียว


4. เก๋ากี้ (โกจิเบอร์รี)

สมุนไพรจีนที่ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ง่ายในบ้านเรา มีสรรพคุณเด่นในการบำรุงสายตา เก๋ากี้ ก็ยังส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักเช่นกัน โดย Dr.Earl Mindell เจ้าของผลงานหนังสือ Goji : The Himalayan Health Secret ได้เปิดเผยว่า เก๋ากี้เป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ดีต่อร่างกาย มีน้ำตาลน้อย อีกทั้งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก็ยังจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดี แล้วก็ยังมีไฟเบอร์สูงช่วยลดความอยากอาหารและช่วยให้อิ่มนานขึ้น




5. ส้มแขก

ส้มแขก อุดมด้วยสาร HAC (สารไฮดรอกซีซิตริกแอสิด) อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีคุณสมบัติในการเข้าไปสกัดกั้นและยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกาย โดยยับยั้งการนำน้ำตาล จากอาหารประเภท แป้ง ข้าว และน้ำตาล ไม่ให้เปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามร่างกาย แต่จะนำไปใช้เป็นพลังงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่นไม่อ่อนเพลีย กระแสเลือดไม่ขาดน้ำตาล ส่งผลทำให้ความรู้สึกหิวอาหารลดลงไปด้วย ขณะเดียวกันก็จะนำไปสะสมเป็นพลังงานสำรองในรูปของไกลโคเจนที่ตับ ทำให้ร่างกายรับรู้ว่ามีพลังงานสำรองเพียงพอ ทำให้ไม่รู้สึกหิวมาก นอกจากนี้ยังมีผลไปกระตุ้นให้มีการดึงเอาไขมันที่สะสมออกมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ลดลง


6. อบเชย

กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ หรือ USDA เผยว่า อบเชยสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะอบเชยเป็นเครื่องเทศที่มีสรรพคุณช่วยป้องกันภาวะผกผัน ของระดับน้ำตาลในเลือด แถมช่วยบรรเทาความหิว นอกจากนี้อบเชยยังสามารถลดไขมันในเส้นเลือดที่อาจจะเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ และหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี สมุนไพรลดน้ําหนัก


7. กระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดงถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยแก้กระหาย คลายร้อนใน แล้วยังสามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดความอ้วน หรือลดน้ำหนักได้ สามารถช่วยลดความดันโลหิต โดยไม่มีผลข้างเคียง ช่วยรักษาโรคเส้นโลหิตแข็งเปราะได้ ช่วยให้ความเหนียวข้นของโลหิตลดลง ช่วยขับปัสสาวะ เป็นการช่วยลดความดัน ไม่เพิ่มการหลั่งกรดในกระเพราะ และทำให้ช่วยย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย


8. กระชาย

เป็นที่รู้ดีว่ากระชายมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ รักษาโรคผิวหนัง และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เพราะพบงานการศึกษาของสถาบัน Clinical Research Information Service ในประเทศเกาหลีใต้ พบว่ากระชายสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ โดยในการศึกษาได้แบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก รับประทานยาแป้ง อีกกลุ่มรับประทานสารสกัดจากกระชาย ผลที่ได้คือกลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากกระชายมีระดับมวลไขมันรอบเอว และน้ำหนักลดลงตามลำดับ


9. กระเทียม

เมื่อรับประทานกระเทียมเข้าไป จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย โดยจากการทดลองกับหนูแสดงให้เห็นว่า เมื่อให้หนูกินกระเทียมติดต่อกัน 7 สัปดาห์ น้ำหนักของหนูก็จะลดลงตามลำดับ ไม่เพียงเท่านั้นกระเทียมยังช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัดได้อีกด้วย หากต้องการให้ได้ประโยชน์จากกระเทียมสูงสุด ควรรับประทานกระเทียมแบบสดๆ วันละ 4-8 กลีบโดยประมาณ


10. พริก

พริกทุกชนิดอุดมด้วยวิตามินซี และวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งช่วยสร้างภูมิต้านทาน ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ผิวหน้าและปัญหาจุดด่างดำลดน้อย ที่สำคัญในพริกยังมีสาร Capsaicin และ Oleoresin และกรด Ascorbic acid ซึ่งสาร Ascorbic acid นี่เองที่มีบทบาทสำคัญป็นสมุนในการ ลดไขมันและความอ้วน เพราะว่ามันสามารถช่วยให้ไขมันถูกเผาผลาญกลายเป็นพลังงานได้ดี



แหล่งที่มา: samunpraibann