หายสนิท!! วิธีง่ายๆ แก้นิ้วล็อคหินปูนที่ข้อกระดูก ใน 10 นาที

นิ้วล็อค ปวดนิ้ว ขยับนิ้วไม่ค่อยได้ ปัญหาของคนที่ใช้มือและใช้นิ้วบ่อยๆ อย่างเช่นอาชีพครูที่จะต้องใช้ปากกาหรือช็อคเขียนกระดาน ช่างตัดผมที่จะต้องใช้นิ้วมือจับกรรไกรอยู่ตลอดเวลา แม่ค้าส้มตำที่ใช้ต้องใช้มือตำสากตำครก และแม่บ้านที่คอยไปจ่ายตลาดหิ้วถุงกับข้าวอยู่บ่อยๆ

อาชีพทั้งหมดนี้ล้วนเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ้วล็อคทั้งหมด หากไม่ระวังหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงอริยบถหรือการเคลื่อนไหว

โรคนิ้วล็อค

คือ โรคปลอกหุ้มเส้นเอ็นเกิดการอักเสบ ซึ่งเกิดจากการหนาตัวขึ้นของปลอกหุ้มเส้นเอ็น ทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนผ่านปลอกหุ้มเส้นเอ็นลำบาก จนทำให้เกิดการเสียดสีกันระหว่างเส้นเอ็นกับปลอกหุ้ม ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบ และปวด

สำหรับคนที่เป็นนิ้วล็อคอาการเริ่มแรก จะมีอาการปวดบริเวณโคนข้อนิ้วมือ นานๆเข้าเริ่มมีอากรปวดมากขึ้น ขยับนิ้วมือ หรือกำมือไม่ได้ มีอาการเกร็งข้าง เหยียดออกไม่ได้ จนทำให้มีอาการบวม แดงร้อน ตามมา

วิธีการง่ายๆ ที่แพทย์แผนไทย นิยมใช้รักษาและป้องกันโรคนิ้วล็อค ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ ง่าย และปลอดภัยด้วย

แช่น้ำอุ่น 5 นาที

-การใช้น้ำอุ่นหรือความร้อน ช่วยทำให้การปวด การอักเสบของกล้ามเนื้อ และนิ้วมือลดน้อยลง ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

วิธีทำ

นำไพล ขมิ้นชัน มะกรูด หั่นพอหยาบๆ ต้มลงในน้ำเดือด 15 นาที ยกขึ้น นำมาผสมน้ำเย็น จนกว่าจะอุ่นๆ แล้วใช้มือข้างที่มีอาการแช่ลงในน้ำอุ่น หรือใช้ทั้สองมือก็ได้ แช่ไว้นาน 5- 10 นาที จากนั้นให้ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง หรือพันไว้ เพื่อรักษาอุณหภูมิไว้ไม่ให้เย็นเฉียบพลัน แนะนำให้ทำทุกวันในตอนเช้า

นวดมือ 5 นาที การนวดมือเป็นสิ่งที่สำคัญช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ระบบไหลเวียนเลือดนำอาการไปเลี้ยงเซลล์ที่ต้องการได้ สำหรับจุดที่ต้องเน้นในการนวด คือ

1 บริเวณแขนเหนือข้อมือ 2 นิ้ว (โดยการใช้สองนิ้วมือทาบ) แล้วใช้นิ้วโป้งกดค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 3 รอบ

2. บริเวณเนินอุ้งมือที่สูงสุด ทั้ง 2 ข้าง ใช้นิ้วโป้งกดค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 3 รอบ

3. บริเวณกึ่งกลางฝ่ามือ ใช้นิ้วโป้งกดค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 3 รอบ

4. บริเวณข้อนิ้วมือ ทุกข้อ ใช้นิ้วโป้งกดดันข้อนิ้วมือเข้าจุดศูนย์กลางข้อทั้ง 4 มุม (ล่างซ้ายขวา และบนซ้ายขวา) กดค้างไว้ 10-15 วินาที ทำซ้ำ 3 รอบ

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ท่าการบริหารยึดเหยียดนิ้วมือร่วมด้วย โดยการกำมือ แบมือ 10 ครั้ง ก็ได้เช่นกัน ยังไงก็ลองทำกันดูนะครับ แล้วมาแชร์ประสบการณ์กันนะ

แหล่งที่มา : postsara.com

เรียบเรียงโดย : item2day.com