Home »
Uncategories »
รพ.เเห่งเเรกในไทย 4 วินาทีถึงห้องตรวจ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องนั่งเฉยเป็นวัน ๆ อีกต่อไป
รพ.เเห่งเเรกในไทย 4 วินาทีถึงห้องตรวจ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องนั่งเฉยเป็นวัน ๆ อีกต่อไป
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เรานั้นอยากเอามาเสนอให้กับทุกท่านในวันนี้ค่ะ
อยากให้ทุกๆท่านนั้นตั้งใจฟังและฟังกันให้ชัดๆและดีๆ คุณเบื่อหรือไม่
ถ้าไปโรงพยาบาทแล้วต้องนั่งรอเป็นวัน รอแล้วรออีก รอจนเบื่อ
ต้องตื่นเช้าๆเอารอคิว ได้ตรวจอีกทีตอนเย็น ถ้าคุณอ่านเรื่องนี้เชื่อได้ว่า
คุณจะไม่ต้องรอคิวนานอีกต่อไปค่ะ
โดยเป็นเรื่องที่เรากำลังเล่าอยู่ในตอนนี้ เป็นเรื่องของ “โรงพยาบาลตรัง”
จ.ตรัง ภายใต้การบริหารของผู้อำนวยการ พญ.จิรวรรณ อารยะพงษ์
โดยระบบที่โรงพยาบาลตรังจัดทำก็คือ Digital service “ลดขั้นตอน-ลดเวลา”
“แค่เอาบัตรประชาชนเสียบเข้าไปในตู้ (คีออส) คุณก็สามารถไปยังแผนกต่างๆ
ได้เลยโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของห้องบัตร” พญ.จิรวรรณ ระบุเอาไว้ว่า…
การปฏิบัติการของตู้คีออส จะเป็นการเชื่อมต่อระบบข้อมูลของโรงพยาบาล
(Hospital information system) ดังนั้นเมื่อเสียบบัตรประชาชนเข้าไป
เครื่องก็จะแจ้งทันทีว่าวันนี้คนไข้มีนัดกับแพทย์ท่านนี้ที่แผนกนี้จะทำการยืนยันหรือไม่
ถ้าคนไข้กดยืนยันเครื่องก็จะปริ้นกระดาษออกมาแบบอัตโนมัติ
จากนั้นคนไข้ก็ไปที่แผนกต่างๆ ได้ทันที
นอกจากนี้ Hospital information system
ยังได้ถูกเชื่อมต่อเข้ากับโปรแกรมสนทนา LINE Application ด้วย
โดยโรงพยาบาลตรังจะมี account ที่ชื่อ Trang hos connect
ให้ผู้ป่วยเพิ่มเป็นเพื่อน
ซึ่งจะทำงานสอดประสานกับกระดาษที่ปริ้นออกมาจากเครื่องคีออส
“เมื่อผู้ป่วยได้รับใบนำส่งที่ปริ้นมาจากตู้คีออสแล้ว
มุมบนของกระดาษจะมี QR-Code อยู่ หากผู้ป่วยสแกนโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์
ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อกัน จากนั้นไลน์ก็จะแจ้งเตือน (notification)
ว่าวันนี้คุณมารับบริการอะไร แผนกใด ได้คิวที่เท่าไร
และไลน์ก็จะช่วยอัพเดทคิวการให้บริการถอยหลังเรื่อยๆ ด้วย
“สมมุติว่าคุณได้คิวที่ 50
คุณก็สามารถไปรับประทานอาหารหรือกินกาแฟรอก่อนก็ได้ จากนั้นคุณก็เปิดดูไลน์
ระบบก็จะแจ้งคุณว่าขณะนี้คิวตรวจอยู่ที่เท่าไร
นั่นหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งรอที่หน้าต้องตรวจอีกแล้ว
ซึ่งเมื่อถึง 8 คิวสุดท้าย
ระบบก็จะแจ้งเตือนอีกครั้งเพื่อให้คุณมาที่แผนกเพื่อรอรับการตรวจ”
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรังอธิบาย
นอกเหนือจากการแจ้งเตือนเรื่องคิวแล้ว
ระบบดิจิทัลที่โรงพยาบาลตรังพัฒนายังช่วยอำนวยความสะดวกในทุกๆ ขั้นตอน
ทั้งความรวดเร็วของผู้รับบริการ ความสะดวกและลดภารงานของผู้ให้บริการ
ซึ่งทั้งหมดนำไปสู่ความพึงพอใจและบรรยากาศที่ดีของทั้ง 2 ฝ่าย
“เมื่อแพทย์ทำการตรวจเสร็จ ท่านก็จะสั่งยาไปทางคอมพิวเตอร์
คำสั่งก็วิ่งตรงเข้าห้องยาทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ในห้องยากดปุ่มตอบรับ
เครื่องปริ้นสติ๊กเกอร์ก็จะทำงานอัตโนมัติ
เจ้าหน้าที่ห้องยาก็สามารถนำสติ๊กเกอร์นั้นไปส่งให้เภสัชกรจัดยาได้ทันที
“เมื่อเภสัชกรจัดยาและสอบทานความถูกต้องเรียบร้อย
เภสัชกรก็จะกดปุ่มยืนยัน
ระบบก็จะเชื่อมต่อกลับมาที่ไลน์ของคนไข้เพื่อแจ้งเตือนว่าขณะนี้ยาจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ให้ไปรับได้ที่แผนกใด ช่องใด
นั่นหมายความว่าเมื่อคนไข้ตรวจกับแพทย์เสร็จแล้ว
ก็สามารถไปผ่อนคลายได้โดยไม่จำเป็นต้องมานั่งเฝ้าหน้าห้องยา
เพราะถึงเวลาไลน์จะแจ้งเตือนเอง”
มากไปกว่านั้น ระบบการเชื่อมต่อที่พัฒนาขึ้นในระยะเวลาเพียง 81 วัน
ยังช่วยส่งเสริมเรื่องของ Financial literacy ในภาพใหญ่ด้วย
เพราะทันทีที่คนไข้รับยา
ระบบก็จะแจ้งเตือนว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษาพยาบาลครั้งนี้จริงๆ
แล้วเท่าไร เช่น จริงๆ แล้ว ค่ารักษา-ค่ายา รวมทั้งหมด 5,000 บาท
แต่คนไข้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ ก็ไม่ต้องจ่ายสักบาท
แต่ข้อมูลนี้จะช่วยให้คนไข้เห็นคุณค่าของการรับบริการ
“และเมื่อคนไข้กลับถึงบ้าน แต่ยังมีนัดหมายตรวจครั้งต่อไป
เมื่อถึงเวลานัดหมาย ระบบก็จะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนถึงวันนัด
เพื่อป้องกันคนไข้ลืมด้วย” พญ.จิรวรรณ
เล่าถึงผลประโยชน์ในมุมของผู้รับบริการ
ก่อนจะอธิบายว่าในส่วนของผู้ให้บริการก็ได้รับประโยชน์จากระบบดิจิทัลเหล่านี้เช่นกัน
นั่นเพราะ ปัจจุบันโรงพยาบาลตรังต้องให้บริการคนไข้โดยเฉลี่ยวันละ 2,200
ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไข้นัดประมาณ 1,600 ราย
ซึ่งหากใครไม่ได้จองคิวล่วงหน้าทางออนไลน์
ที่ผ่านมาก็ต้องผ่านตู้คีออสทั้งหมด แต่เนื่องจากตู้คีออสใช้เวลาทำงานเพียง
4 วินาที ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องเหนื่อยกับการลงทะเบียนและแยกแผนกคนไข้
หรืออย่างกรณีการสั่งยาของแพทย์
เดิมทีเจ้าหน้าที่ก็ต้องนำใบสั่งยาของแพทย์มายื่นที่แผนกเภสัชกร
จากนั้นเภสัชกรก็ต้องคีย์รายการยาต่างๆ
จึงจะสั่งปริ้นสติ๊กเกอร์ออกมาเพื่อทำการจัดยาได้
ทว่าในปัจจุบันขั้นตอนดังกล่าวถูกลัดด้วยระบบดิจิทัลหมดเลย
นั่นหมายความว่าทันทีที่คนไข้บางรายออกจากห้องตรวจ
ยาก็จัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ในอดีตเจ้าหน้าที่ห้องบัตรต้องค้นบัตรประมาณวันละ 2,000 ใบ
เพื่อนำไปให้แพทย์ที่อยู่ในห้องตรวจ
แต่ปัจจุบันไม่ต้องค้นและก็ไม่ต้องตามไปเก็บบัตรกลับมาสอดไว้ที่เดิมอีกแล้ว
หรือเจ้าหน้าที่ที่ห้องบัตรจากเดิมที่ต้องอยู่กันถึงมากกว่า 40 คน
ทุกวันนี้ตู้คีออสได้ทำหน้าที่แทน
เขาเหล่านั้นก็สามารถไปช่วยภารกิจส่วนอื่นๆ
ของโรงพยาบาลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นอีก”
พญ.จิรวรรณ บอกว่า ในอนาคตโรงพยาบาลตรังจะมีการพัฒนาระบบต่อไปอีก
คือวางระบบนัดหมายคนไข้ให้มาตามเวลา
และให้บริการตรวจตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดความแออัดในทุกๆ
ส่วนของโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นหน้าห้องบัตร หน้าห้องตรวจ หน้าห้องยา
สำหรับโปรแกรมที่โรงพยาบาลตรังพัฒนาขึ้นด้วยกำลังหลักจากฝ่ายไอทีของโรงพยาบาลเองที่ทำงานร่วมกับวิศวกรจากภายนอกนั้น
นอกจากในส่วนของตู้คีออสแล้ว
ยังมีการเชื่อมต่อข้อมูลกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยสามารถตรวจสอบสิทธิได้
นอกจากนี้ โรงพยาบาลตรังยังได้ทำ Mobile Application
ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนกับตู้คีออสที่โรงพยาบาล
โดยผู้ป่วยสามารถเข้ามาจองคิวล่วงหน้าได้ ผ่าน “MOPH Connect” ซึ่งเป็น
LINE official ที่เหมือนกับประตูใหญ่
ที่เมื่อเข้ามาแล้วก็จะมีโรงพยาบาลอีกหลายโรงอยู่ในนั้น
“เมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ MOPH Connect ผ่าน LINE
แล้วเลือกเมนูจองคิวล่วงหน้า หน้าจอก็จะมีให้เลือกหลายโรงพยาบาล
พอเลือกไปที่โรงพยาบาลตรัง
ระบบก็จะเข้ามาสู่ระบบของโรงพยาบาลตรังและสามารถทำการจองคิวได้ทันที
และเมื่อผู้ป่วยจองคิวเสร็จก็จะได้รับบัตรในลักษณะเดียวกับที่ปริ้นออกจากตู้คีออสมาอยู่บนมือถือ
เมื่อมารับบริการที่โรงพยาบาลก็ไม่จำเป็นต้องผ่านตู้คีออสอีกแล้ว”
ผู้อำนวยการจิรวรรณ ยืนยันว่า
ระบบดิจิทัลเป็นประโยชน์และช่วยยกระดับคุณภาพการบริการของโรงพยาบาลได้
ที่สำคัญคือโรงพยาบาลตรังยินดีและพร้อมที่จะแบ่งปัน Program
ที่ได้พัฒนาขึ้นมานี้แก่โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทุกแห่ง
“เราพร้อมแบ่งปันระบบให้กับโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง
สามารถมาคัดลอกโปรแกรมของเราไปได้เลย
เพียงแต่ต้องกลับไปจัดระบบให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละแห่งด้วยตัวเอง”
พญ.จิรวรรณ ระบุทั้งหมดคือสิ่งที่โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่
ซึ่งมีคนไข้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าวันละ 2,200 ราย ทำได้ เป็นเรื่องที่น่ายินดี
เป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 81 วัน
ที่มา: reading99