คู่มือ ผู้หญิง เที่ยวคนเดียวให้ปลอดภัยในต่างแดน

การได้เดินทางไปท่องเที่ยวในที่ที่ตนอยากไป ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ความฝันและความสุขของใครหลายๆคนเลยละแต่ทราบหรือไม่…การเที่ยวก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายๆ ชิลล์ๆ เช่นกัน เพราะโลกใบนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยที่เที่ยว ก็เต็มไปด้วยอันตรายเหมือนกัน แล้วหากผู้หญิงอยากออกเดินทางไปเที่ยวคนเดียวบ้างละ จะอันตรายแค่ไหน (แค่คิดเล่นๆก็กลัวแล้ว) แต่เพื่อความไม่ประมาท เรามี”คู่มือผู้หญิงเที่ยวคนเดียวให้ปลอดภัยในต่างแดน” มาฝากผู้หญิงที่ต้องการเดินทางไปเที่ยงต่างประเทศ ตามไปดูกันเล๊ยยย
1.เตรียมความพร้อม เรามาเริ่มกันที่ข้อแรกเลยคะ เวลาเราจะไปเที่ยวที่ไหน ทุกคนก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่แล้วใช่ไหมคะ แล้วถ้าหากเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวละก็ ยิ่งต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกายและใจ ระดับ 10 เลยก็ว่าได้ และควรถ่ายรูปบัตรประชาชนด้านหน้าหลังไว้ส่งอีเมลหาตัวเอง หรือเซฟใส่มือถือไว้ให้เรียบร้อยนะคะ

2.ดูข้อมูลให้แน่ชัด สถานที่่ท่องเที่ยวบนโลกใบนี้มีอยู่มากมาย ให้เลือกเที่ยว แต่ก็คงไม่มีสถานที่ไหนปลอดภัยอย่างแท้จริง ซึ่งการเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จักนั้น จะต้องเจอเรื่องที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนไม่ว่าจะวัฒนธรรม ภาษา อาหารการกิน หรือกระทั่งที่อยู่อาศัย ฉะนั้นแล้ว ควรเซฟตัวเอง และศึกษาถึงสภาพแวดล้อมของสถานนั้นก่อนเราจะไป (กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ)

3.ทำความเข้าใจภาษา ก็เหมือนชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยเรา แล้วพูดคำว่า (สวัสดีค่ะ/ครับ) (ขอบคุณค่ะ/ครับ) ได้อะไรประมาณนี้คะ ซึ่งการเรียนภาษา ไม่จำเป็นถึงขั้นต้องลงเรียนคอร์สแต่ควรที่จะเรียนรู้บทสนทนาขั้นพื้นฐานของประชาชนหรือชาวพื้นเมืองในที่ที่เราจะไปไว้ก่อน หรือไม่ก็จดประโยคที่จำเป็นแยกใส่กระดาษไว้ เท่านี้ก็ถือว่าโอแล้ว

4.เมมเบอร์ฉุกเฉิน แน่นอนคะว่า หากเกิดเหตุการณ์หรือเรื่องฉุกเฉินจะต้องโทรหาใคร? หรือโทรเบอร์อะไร สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้างลองคิดเล่นๆดูนะคะ ถ้าเราของหาย หรือถูกวิ่งราวในต่างประเทศจะเป็นยังไร (รีบบบ!!! จดเบอร์ฉุกเฉินไว้เลย)

5.ถามใจให้แน่ก่อน เคยได้ยินประโยคนี้กันไหมคะ….อยากเที่ยวคนเดียว อยากไปนั่งโง่ๆที่ริมทะเลคนเดียว หรืออะไรบลาๆๆ เต็มไปหมด ซึ่งอีกมุมมองหนึ่ง…มันไม่ได้ดูเท่ห์เลยนะคะ การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวต้องอาศัยพละกำลังประสบการณ์และแรงใจมากทีเดียว ฉะนั้น เราต้องดูแลตัวเองได้จริงๆก่อน (ลองคิดทบทวนหลายๆรอบดูนะคะ)

แล้วเพื่อนๆละคะ เซฟตัวเองก่อนฉายเดี่ยว เที่ยวคนเดียวหรือยัง
/////////

ชาวเน็ตย้ายฝั่ง ด.ต.ยิงหนุ่มส่งหมูกระทะ ปมท่อดัง ที่แท้ไม่ใช่รถตัวเอง แม่ร่ำไห้เสียลูกชาย เสาหลักครอบครัว

จากกรณี ด.ต. ศิริมงคล ทองสุข ผบ.หมู่จราจร สน.ธรรมศาลา ก่อเหตุใช้ปืนขนาด 9 มม. รัวยิงนายเกรียงศักดิ์ ศรทอง อายุ 35 ปี คนงานส่งหมูกระทะ เสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านย่านพุทธมณฑลสาย 4 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นร้านขายส่งหมูกระทะ ปมก่อเหตุเนื่องจากรำคาญเสียงท่อรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขี่ ซึ่งเป็นรถของเพื่อนคนงานอีกคน ไม่ใช่รถของผู้ตาย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.61 ที่วัดบ้านท่าบ่อ ชุมชนบ้านท่าบ่อ ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี นางบัว ศรทอง อายุ 54 ปี แม่ของ นายเกรียงศักดิ์ ศรทอง หนุ่มส่งหมูกระทะ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต ที่ กทม.เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มาจัดเตรียมสถานที่รอรับศพบุตรชายที่นำกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด โดยมี นายจักรกิต ศรทอง อายุ 16 ปี บุตรชายคนเดียวของผู้ตาย มารอรับด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย

เบื้องต้นญาติของ นายเกรียงศักดิ์ ตกลงจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านท่าบ่อเป็นเวลา 3 คืน ก่อนทำการฌาปนกิจในบ่ายวันที่ 17 พ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะไปติดตามผลการจับตัวดาบตำรวจที่ก่อเหตุยิงบุตรชายจนเสียชีวิต

โดย นางบัว แม่นายเกรียงศักดิ์ เล่าว่า ตนมีบุตร 2 คน นายเกรียงศักดิ์เป็นบุตรคนโต ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิง เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก สำหรับสามีนั้น ได้เสียชีวิตไปกว่า 20 ปีแล้ว ที่ผ่านมามี นายเกรียงศักดิ์ คอยดูแลส่งเสียเลี้ยงดูตน และบุตรชายเพียงคนเดียวของนายเกรียงศักดิ์ ที่ยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โดยนายเกรียงศักดิ์ได้เข้าไปทำงานเป็นช่างไฟ และทำติดตั้งแอร์ที่กรุงเทพฯมานานกว่า 6 ปีแล้ว เพื่อหาเงินส่งกลับมาเลี้ยงครอบครัวเป็นประจำทุกเดือน

ล่าสุดได้ลาออกจากงานช่างไฟ ไปทำงานเป็นคนส่งหมูกระทะกับร้านที่เกิดเหตุได้ประมาณ 6 เดือน ก็มาเกิดเหตุถูกยิงจนเสียชีวิต ก่อนถูกยิงเสียชีวิตนายเกรียงศักดิ์ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตน เมื่อประมาณปลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบ และบอกว่าทำงานที่ร้านดังกล่าวมีความสุข เพราะได้พบปะกับคนมากหน้าหลายตา และสิ้นเดือนก็จะส่งเงินมาให้ตนและบุตรชายใช้ตามปกติ โดยไม่มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้ายใดๆกับนายเกรียงศักดิ์เลย

“กระทั่งกลางดึกคืนที่ผ่านมา เจ้าของร้านหมูกระทะโทรศัพท์มาแจ้งว่า บุตรชายถูกยิงและเสียชีวิตแล้ว ตนรู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูก เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ได้แต่ปรึกษาญาติพี่น้อง และตกลงจะรับศพบุตรชายกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีก่อน ส่วนคดีก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการไป หลังเสร็จงานศพก็จะขึ้นไปติดตามอีกทีหลัง ส่วนการนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลวันนี้ ก็ได้เจ้าของร้านหมูกระทะที่จัดหารถส่งศพมาให้ เพราะทางบ้านก็ไม่มีรายได้อะไรมากนัก โดยตนเองก็ทำอาชีพรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้าน มีรายได้ไม่แน่นอน” แม่ผู้ตาย กล่าว

คลิปเหตุการณ์

ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ใต้สันติสุข , siamnews