สรรเสริญและนินทา เป็นของคู่กัน…. คนที่ไม่เคยถูกนินทาไม่มีในโลก

สรรเสริญและนินทา เป็นของคู่กัน…. คนที่ไม่เคยถูกนินทาไม่มีในโลก

สรรเสริญและนินทา เป็นของคู่กัน ท่านเคยได้รับการสรรเสริญไหม? และเคยถูกนินทาไหม รวมถึงเคยถูกด่าไหม? เป็นเรื่องประจำเลยสำหรับบางคน พระท่านให้คติประจำใจ เอาไว้เตือนตนเอง “อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน เกิดเป็นคนอย่ากลัวคำนินทา” อีกบทหนึ่งอาตมาเขียนเอาไว้ “ถูกชมก็เข้าท่า ถูกด่าก็ไม่เลว” ตอนเป็นเด็ก เคยอ่านเจอบทหนึ่ง

เกิดเป็นคน ต้องทนให้เขาด่า

จะทำดี ทำบ้า เขาด่าหมด

ถ้าทำดี เขาก็ด่าว่าไม่คด

ทำเลี้ยวลด เขาก็ด่าว่าไม่ตรง

ทุ่มเท ทำดี ทั้งคืน ทั้งวัน คนยังด่าว่าสร้างภาพ ทำดียังถูกด่า ทำชั่วมันจะขนาดไหน นี่ละคือมนุษย์

อย่าไปถือสาหาความกับปากคน อยู่ในโลกต้องยอมรับ เวลาที่ถูกตำหนิ

พระพุทธองค์ เคยถูกผู้หญิงคนนึ่งจ้างม็อบมาด่า ถูกรุมด่า 7 วัน 7 คืน

พระอานนท์กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า

“ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เราหนีกันเถิด”

พระพุทธเจ้าทรงถามว่า “เธอจะให้หนีไปไหนละ อานนท์”

พระอานนท์กราบทูลตอบว่า “ไปเมืองที่เขาไม่ด่า”

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “หากหนีไปเมืองอื่น แล้วเขายังด่าอยู่จะว่าอย่างไร”

“ก็หนีไปอีกเมืองหนึ่ง”

“แล้วถ้าเมืองนั้นเขายังด่าอยู่เล่า จะไปไหน”

“ก็หนีไปอีกเมืองอื่นถัดไปเรื่อยๆ”

สุดท้ายพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “อานนท์ ไม่มีหรอกที่ที่คนไม่ด่า เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้ว จงยอมรับเสีย การถูกชม ถูกด่า เป็นของสามัญ มนุษย์เมื่อเกิดมาบนโลกเปรียบเสมือนช้างศึกหยั่งลงสู่สงคราม ต้องพร้อมที่จะยอมรับหอกดาบ ปืน ศาสตราวุธทั้งหลายที่จะพุ่งมาจากทั่วทุกสารทิศ”

ช้างศึกไม่หวั่นไม่เกรงฉันใด เราเกิดมาเป็นคน อย่าหวั่น อย่าเกรงต่อคำชม คำด่าฉันนั้น

สุดท้ายเมื่อครบ 7 วัน ม็อบนั้นก็เฉาไป หมดสภาพไปเอง นี่คือวิธีเอาชนะคำด่าของพระพุทธเจ้า เวลาท่านทั้งหลายถูกด่า จงบอกตัวเองเสมอว่า

ขนาดพระพุทธองค์ทรงเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยความดี ยังทรงถูกตำหนิ แล้วนับประสาอะไรกับมนุษย์ซึ่งกระดำกระด่างอย่างเรา จะไม่ถูกด่าบ้างละ

พอคิดได้แบบนี้ เราก็จะสบายใจ.…….บางคนนะเมื่อถูกด่าทีนึง ก็แค้นไป 3 วัน 7 วัน พอถูกชมก็ตัวลอย ไม่ติดฟื้น ถูกชมก็ฟู ถูกด่าก็แฟบ แสดงว่าเรายังอ่อนต่อโลกมาก ให้ไปฝึกมาใหม่นะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก : หนังสือ the Secret of Happiness , rugyim