Home »
Uncategories »
ไม่ใช่แค่มะเร็ง “หมูกระทะ” เสี่ยงสารพัดโรค
ไม่ใช่แค่มะเร็ง “หมูกระทะ” เสี่ยงสารพัดโรค
ถ้าพูดถึงเรื่องของหมูกระทะ คงไม่มีใครที่จะไม่เคยทานอย่างแน่นอน
เพราะเป็นอาหารที่อร่อย
ซึ่งมีหลายคนที่ทานอยู่เป็นประจำบางคนทานเกือบจะทุกวัน
โดยไม่รู้เลยว่ากำลังเสี่ยงกับสารพัดโรคที่ไม่ใช่แค่โรคมะเร็ง
แต่ยังมีหลายโรคที่อาจจะเป็นได้โดยที่ไม่รู้ตัว
คงไม่มีใครที่อยากจะเจ็บป่วยอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น
ใครที่ทานอยู่ประจำต้องระวังกันให้มากๆ ทานหมูกระทะจะเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
ลองไปชมกันเลยจ้า
อันตรายจากหมูกระทะที่ไม่ได้มาตรฐาน
1. เนื้อหมู
ใครที่ชอบทานหมู จะเห็นได้ว่าหมูในร้านหมูกระทะหมักมาเรียบร้อยแล้ว
แต่หมูเหล่านี้หากรับซื้อมาจากผู้ผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
แล้วยังปิ้งย่างไม่สุก 100%
ทานเข้าไปอาจมีความเสี่ยงรับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้
โดยจะมีอาการคือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ อาเจียน หูหนวก ชัก หรืออาจเป็นอัมพาต
บางรายอาจปอดอักเสบ สายตาพร่ามัว และหูหนวกได้ นอกจากนี้ยังมีเชื้อโรคอื่นๆ
อีกเพียบ
หากทานโดยใช้ความร้อนที่ไม่มากเพียงพอที่จะฆ่าเชื้อโรคเหล่านั้นได้
2. ผ้าขี้ริ้ว
หลายคนชอบส่วนของ ผ้าขี้ริ้ว มาก ยิ่งสีขาวๆ ยิ่งน่ากิน
แต่อันที่จริงแล้วผ้าขี้ริ้วมีสีค่อนข้างดำเข้ม (จึงมีชื่อว่าผ้าขี้ริ้ว)
แต่กว่าจะเป็นสีขาวหน้าตาน่ารับประทาน ก็ต้องผ่านการฟอกมาก่อน
ซึ่งเจ้าสารฟอกขาวนี่แหละค่ะที่อาจตกค้างจนทำให้ผู้ที่ทานเข้าไปมีอาการหายใจติดขัด
ความดันโลหิตต่ำ ปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วง
ยิ่งคนที่มีอาการแพ้ต่อสารฟอกขาวด้วย
หรือผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืดเป็นโรคประจำตัวด้วยแล้ว จะยิ่งมีอาการที่แย่ลง
อาจจะช็อค หมดสติ หรือถึงขั้นเสียชีวิต (หากทานเข้าไปมากๆ) ได้เลยทีเดียว
3. อาหารทะเล
อย่างที่หลายคนเคยทราบกันว่าหากเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารทะเลที่ไม่ได้คุณภาพ
อาจมีการรักษาความสดของอาหารทะเลด้วยการใช้ฟอร์มาลีน
หากเราทานอาหารทะเลที่มีฟอร์มาลีนเป็นสารตกค้างมากๆ
อาจส่งผลต่อการทำงานของไต หัวใจ
หรืออาจเป็นสาเหตุของอาการสมองเสื่อมได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้หากเรามีอาการแพ้สารดังกล่าว
อาจทำให้เรามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียน หมดสติ
จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นกัน
4. อาหารแปรรูป
หลายคนชอบทานไส้กรอก ลูกชิ้นต่างๆ ซึ่งอาจมีสารบอแรกซ์เป็นส่วนผสม
เพื่อทำให้อาหารเหล่านั้นกรอบอร่อย หากเรารับสารเหล่านี้เข้าไปมากๆ
อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต
จนอาจทำให้ไตวาย หรือกระทบกับการทำงานของสมองได้
กรมอนามัยระบุว่า การรับประทานอาหารปิ้งย่างหรือรมควันเป็นประจำจะเสี่ยงต่อการได้รับสารอันตราย 3 ชนิด
1. สารไนโตรซามีน (Nitrosamines)
สารไนโตรซามีน สามารถพบในปลาหมึกย่าง ปลาทะเลย่าง
และในเนื้อสัตว์ที่ใส่สารไนเตรท ประเภทแหนม ไส้กรอก เบคอน แฮม
ที่มีสีแดงผิดปกติ ทำให้เสี่ยงเป็นสารก่อมะเร็ง ทั้งมะเร็งตับ
มะเร็งหลอดอาหาร
2. สารไพโรไลเซต (Pyrolysates)
สารนี้พบมากในส่วนที่ไหม้เกรียมของอาหาร ปิ้ง ย่าง
สารกลุ่มนี้บางชนิดมีฤทธิ์ร้ายแรงทางพันธุกรรมมากกว่าสารอะฟลาทอกซินตั้งแต่
6-100 เท่า
3. สารพีเอเอช หรือสารกลุ่มโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon)
สารนี้เป็นชนิดเดียวกับที่เกิดในควันไฟ ไอเสียของเครื่องยนต์ ควันบุหรี่
และเตาเผาเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
โดยสารนี้จะพบในบริเวณที่ไหม้เกรียมของอาหารที่ปรุงด้วยการปิ้ง ย่าง
หรือรมควัน ของเนื้อสัตว์ที่มีไขมันหรือมันเปลวติดอยู่ด้วย เช่น
หมูย่างติดมัน ไก่ย่างติดมัน
หากรับประทานเข้าไปเป็นประจำจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
โดยเฉพาะมะเร็งตับ ซึ่งจากสถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าในปี 2553
มีผู้ป่วยมะเร็งตับในประเทศไทย23,410 ราย และเสียชีวิต 20,334 ราย
คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 55 คนต่อวัน หรือ 2 คนต่อชั่วโมง
ทานหมูกระทะอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ
รับประทานหมูกระทะแบบปิ้ง ย่าง ตามปกติการหั่นเนื้อมักไม่เท่ากัน
บางชิ้นเนื้อหนา บางชิ้นเนื้อบาง
การดูเพียงขอบนอกของเนื้อไหม้เกรียมอาจจะไม่ได้หมายความว่าเนื้อดังกล่าวสุก
ควรใช้ช้อนหั่นเนื้อตรงกลางออก เพื่อตรวจสอบเนื้อสุกแล้วหรือไม่
ควรมีการแยกตะเกียบหยิบชิ้นเนื้อปิ้งย่าง ออกจากตะเกียบรับประทาน เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
ควรรับประทานอย่างช้าๆ เพื่อสังเกตว่าอาหารสุกหรือไม่
แต่ส่วนใหญ่หมูกระทะมักรับประทานในรูปแบบของบุฟเฟ่ต์
ทำให้คนรีบร้อนในการรับประทาน
ในกรณีที่ทำทานเองที่บ้าน
ควรมีการทำความสะอาดตะแกรงปิ้งย่างด้วยการแช่น้ำ หรือแช่น้ำยาชะล้าง
ล้างและขัดให้สะอาด และนำมาผึ่งแดดอย่างน้อย 4 – 8 ชั่วโมง
ก่อนนำกลับมาใช้ใหม่
ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าหมูกระทะทุกร้านจะอันตราย
ห้ามทานกันไปหมดนะคะ เพียงแต่ก่อนทานควรเลือกร้านที่คุณภาพของอาหารดี สะอาด
ถูกหลักอนามัย ราคาไม่ถูกมากจนน่ากลัว
และที่สำคัญคือควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่เห็นแก่เงินจนทานเอาให้คุ้ม
ไม่ทานบ่อยจนเกินไป เลือกทานทั้งเนื้อและผัก ทานให้หลากหลาย
และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยค่ะ