Home »
Uncategories »
“ทำไมนาคต้องเอามือแตะขอบประตูโบสถ์” จริงๆ แล้วมันมีความหมายแบบนี้นี่เอง
“ทำไมนาคต้องเอามือแตะขอบประตูโบสถ์” จริงๆ แล้วมันมีความหมายแบบนี้นี่เอง
ทำไมจึงต้องให้นาคเอามือแตะขอบประตูโบสถ์ด้านบนสุดในขณะที่นาคกำลังจะก้าวข้ามพ้นธรณีประตูนั้น
บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนๆ จะบอกให้นาค
ชูมือให้สุดไปแตะขอบประตูโบสถ์ด้านบน
ทั้งนี้บรรดาเพื่อนๆและผู้ร่วมงานต่างก็จะช่วยกันอุ้มชูให้นาคเอื้อมให้ถึง
ขอบประตู
ความเชื่อในเรื่องนี้ว่ากันว่า ถ้านาคแตะขอบประตูโบสถ์ด้านบนได้
จะทำให้ร่ำเรียนได้สูงสุด แตกฉานในพระธรรมวินัย ต่อไปจะได้เป็นสมภารเจ้าวัด
ส่วนเหตุผลที่เป็นรูปธรรมนั้น ก็ คือ ว่า ประตูโบสถ์บางแห่งไม่สูงมากนัก
การอุ้มนาคเข้าโบสถ์อาจทำให้ศีรษะของนาคไปชนขอบประตู ทำให้ได้รับบาดเจ็บ
จนทำให้ไม่สามารถบวชได้
เหตุผล ในทางธรรมะ ยังไม่ชัดเจน แต่ได้รับการอธิบายจากท่านผู้รู้มาว่า
เป็นการปฏิญาณหรือแสดงให้เห็นว่านาคจะบวชและตั้งใจปฏิบัติให้ได้บุญสูงสุด
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ การไปสู่พระนิพพานเหมือนจะไกลสุดมือเอื้อมถึง
การเป็นจะไปให้ถึงต้องได้แรงหนุนจากคนรอบข้าง บ่งบอกว่า การไปสู่ที่สูง
เราอาจไปคนเดียวไม่ได้ เก่งคนเดียวไปไม่รอด ต้องอาศัยพวกพ้องเพื่อนฝูง
เจ้านาย คอยสนับสนุน ช่วยเหลือ
จริงๆแล้วความเชื่อ เป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ
มาจนถึงทุกวันนี้ อีกธรรมเนียมนึงในการบวชคือการโปรยทาน โดยเชื่อว่า
เป็นเสมือนการโปรยบุญกุศลที่ได้บวช แก่ผู้ที่มาร่วมงาน
แสดงว่าต่อจากนี้ไปนาคจะสละสมบัติทุกอย่าง
เพื่อดำเนินรอยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการสอนเรื่องความเสียสละไปในตัว
และมีความเชื่อว่าหากใครเก็บเหรียญโปรยทานได้ จะไม่นิยมนำไปใช้
แต่จะเก็บไว้ติดบ้าน เพื่อความเจริญรุ่งเรือง มีเงินมีทองใช้ตลอดไป