ชอบกิน สับปะรด ต้องอ่าน! คุณค่าเหลือเชื่อ กินยังไงไม่ให้แสบสากลิ้น!

สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานฉ่ำ กินแล้วก็ชื่นใจ ดังนั้น ใครรู้สึกขยาดสับปะรดเพียงเพราะไม่อยากรู้สึกแสบลิ้นเวลากินสับปะรด ขอบอกเลยค่ะว่าปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก

เพียงแค่นำสับปะรดที่ปอกแล้วไปแช่น้ำเกลืออ่อน ๆ นาน 2-3 นาที หรือจะกินสับปะรดจิ้มกับเกลือแทนก็ได้เช่นกัน

เกลือจะช่วยลดความเข้มข้นของเอนไซม์ในสับปะรด คราวนี้เราก็กินสับปะรดได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะแสบลิ้นอีกต่อไป
นอกจากจะรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว สดชื่น ชุ่มฉ่ำ แถมยังมีราคาสบายกระเป๋าจนแทบจะซื้อทานได้ทุกวันแล้ว สับปะรดยังมีประโยชน์ที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยทราบอีกด้วย อ่านจบแล้วจะอยากหาทานบ่อยๆ เลยล่ะ
10 ประโยชน์ที่คุณอาจไม่รู้ของ “สับปะรด”
1. สับปะรด มีประโยชน์แทบทุกส่วน ทั้งใบสับปะรดที่สามารถนำมาทำเป็นผ้าใยสับปะรด กระดาษ และเชือก เปลือกสับปะรดก็นำมาทำเป็นอาหารของวัว และหมักเป็นปุ๋ย ส่วนแกนสับปะรดยังช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่วได้อีกด้วย
2. สับปะรดช่วยย่อยอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีน ดังนั้นใครที่ทานบุฟเฟต์ปิ้งย่าง อย่าลืมทานสับปะรดช่วยย่อยตามหลังไปด้วยนะ
3. ใครจะหมักเนื้อ หมู ไก่ ทำสเต็ก ลองหมักกับสับปะรดดูสิ รับรองว่าได้เนื้อนุ่มๆ โดยไม่ต้องทุบเนื้อเลยแหละ
4. บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
5. อุดมไปด้วยวิตามินซี ต่อต้านหวัด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
6. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
7. ลดอาการท้องผูก
8. ลดเสมหะในลำคอ
9. ช่วยให้สุขภาพช่องปาก ฟัน และเหงือกแข็งแรง
10. ลดความดันโลหิตสูง

ถึงแม้ว่าหลายคนจะเลือกทานสับปะรดเพื่อลดน้ำหนัก แต่การทานสับปะรดมากๆ อาจทำให้เกิดอาการคันลิ้น แสบลิ้นขึ้นมาได้ ดังนั้นควรทานแต่พอดี หลังทานมื้ออาหารราว 2-3 ชิ้นใหญ่ หรือไม่เกิน 1 ลูกต่อวัน เท่านี้ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้วล่ะค่ะ
ฟรี!!! สูตรพริกเกลือ เอาไว้จิ้มกับสับปะรด 
1. พริกเกลือแบบธรรมดา
ใช้พริกแดงเม็ดยาว (ไม่ใช่พริกชี้ฟ้านะครับ) น้ำตาล เกลือ ตำพริกซัก 3-4 เม็ดให้ละเอียดยิบ เอาน้ำตาลเกลือลงคลุกเติมน้ำตาลก่อนจนไม่แฉะ จากนั้นค่อยใส่เกลือความเค็มตามชอบเลยครับ
2. พริกป่นผงชูรส
เอาพริกป่นผสมน้ำตาลเกลือ เติมผงชูรสรสไก่ 1 ช้อนโต๊ะ (สูตรนี้สำหรับคนที่ทานผงชูรสได้) เหมาะกับจิ้มผลไม้รสเปรี้ยว มะม่วงมะยม มะขามอ่อน
3. พริกเกลือน้ำตาลปี๊บ
เอาน้ำตาลปี๊บผสมเกลือกวนให้ละลาย ไม่ต้องตั้งไฟ พอเข้ากันแล้วให้ใส่พริกขี้หนูตำมากน้อยตามชอบ เหมาะกับจิ้มฝรั่งสด
4. กะปิหวาน
เอากะปิมากวนกับน้ำตาลปี๊บ ไม่ต้องตั้งไฟ พอละลายเข้ากันแล้วเติมพริกป่นหรือพริกขี้หนูตำ หอมแดงซอย กุ้งแห้ง เหมาะกับผลไม้รสเปรี้ยว
5. กะปิหวานแบบแห้ง
เอากะปิผสมน้ำตาลทรายคนให้เข้ากันค่อยๆเติมน้ำตาลจนกะปิเริ่มร่วน ลองชิมดูถ้าไม่เค็มให้เติมเกลือ แล้วเติมพริกป่นตามชอบ (บางคนเติมรสดีรสไก่ 1 ช้อนโต๊ะ)
ได้รู้ทั้งเหตุผลว่าทำไมกินสับปะรดถึงรู้สึกแสบลิ้น ประโยชน์ รวมทั้งวิธีกินสับปะรดอย่างไรไม่ให้แสบลิ้นกันไปแล้ว ใครที่ไม่ค่อยชอบกินสับปะรดเท่าไร ลองใช้เทคนิคนี้ปราบเอนไซม์ในสับปะรดดูนะคะ แล้วคุณจะกลายเป็น FC ผลไม้ชนิดนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ครอบครัวข่าวเด็ก
goodhousekeeping