ต้องหามาดื่มบ่อยๆ น้ำฟักทอง มีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตา ป้องกันเบาหวาน และลดน้ำตาลในเลือดได้ดี

เทรนด์อาหารคลีนยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องข้ามปี และน่าจะยังอยู่กับหนุ่มสาวชาวไทยไปอีกนาน ใครที่ซื้ออาหารคลีนทาน หรือว่าทำอาหารคลีนทานเอง น่าจะเคยเห็นวัตถุดิบอันเลอค่านี้อยู่บ่อยๆ

นั่นก็คือ “ฟักทอง” นั่นเอง ทำไมอาหารคลีนส่วนใหญ่ถึงต้องมีฟักทอง แล้ววันนี้เรามีสูตรการทำน้ำฟักทองมาฝากทุกท่านกันค่ะ มาชมกันเลย

สูตรน้ำฟักทองทำกินทำขายได้
1. ฟักทอง 1 ผล
2. น้ำสะอาด(น้ำดื่ม) 2 ลิตร
3. เกลือ 2 ช้อนชา
4. นมจืด 1 กล่อง (200 มิลลิลิตร)
5. น้ำตาล 12 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ล้างฟักทองทั้งผลเพื่อให้สิ่งสกปรกหรือฝุ่นหลุดออก
2. ปอกเฟลือกฟักทอง โดยอย่าให้เหลือส่วนที่เป็นสีเขียวของเปลือก
3. หั่นฟักทองเป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว
4. นำฟักทองที่หั่นเสร็จแล้วล้างอีกเพื่อเอายางออก
5. ต้มฟักทองประมาณ 15 นาที แล้วพักไว้ให้เย็น
6. นำฟักทองที่ต้มแล้วมาบดให้ละเอียด
7. นำหม้อที่มีน้ำต้มฟักทองเหลืออยู่ตั้งไฟให้ร้อน(ไม่ต้องเดือด)
8. ค่อยๆเทฟักทองที่บดละเอียดแล้วใส่ลงในหม้อ
9. เคี่ยวฟักทองโดยใช้ไฟปานกลางพอร้อนแต่ยังไม่เดือด
10. ใส่นมจืดลงไปแล้วเคี่ยวต่อ 2 นาที
11. เติมเกลือ และน้ำตาล เคี่ยวจนน้ำตาลละลายหมด ชิมรสดูให้มีรสหวานกลมกล่อม
12. พักไว้ให้เย็นแล้วตักเสิร์ฟ สุดท้ายให้เติมผงอบเชยลงไปบนแก้วน้ำฟักทองเล็กน้อยประมาณปลายช้อนชา จะได้น้ำฟักทองอบเชยที่มีประโยชน์มากครับ คนไข้เบาหวานให้เติมน้ำตาลแต่น้อยครับ หรือเปลี่ยนเป็นน้ำตาลมะพร้าวแทน

10 ประโยชน์ของ “ฟักทอง”
1. ฟักทอง เป็นหนึ่งในผักที่มีสีเหลืองออกส้ม ที่ช่วยบำรุง และรักษาสายตา
2. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทีช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง
3. บำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง ชุ่มชื่น ชะลอรอยเหี่ยวย่น
4. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
5. ลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
6. ไขมันน้อย น้ำตาลน้อย กากใยอาหารสูง พลังงานต่ำ จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก
7. ป้องกันโรคหลอดเลือด และหัวใจ
8. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ จากกากใยอาหารที่มีอยู่สูง
9. ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย
10. ป้องกันการเกิดโรคนิ่ว

วิธีทานฟักทองให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
ฟักทองไม่ได้มีดีแค่เนื้อฟักทองสีเหลืองทองนะคะ เมล็ดฟักทองเองก็ช่วยคลายเครียดได้ดี น้ำมันฟักทองก็ช่วยบำรุงประสาท หรือแม้แต่เปลืองของฟักทองยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลืดให้อยู่ในระดับปกติอีกด้วย ดังนั้นลองทานฟักทองจากหลายๆ ส่วนดู และหากจะหั่นเนื้อฟักทองมาประกอบอาหาร อาจจะเหลือเปลือกบางๆ เอาไว้ทานกรุบๆ บ้างก็ได้

นอกจากนี้ ใครที่อยากทานฟักทองเพื่อลดความอ้วน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ก็อย่าเผลอทานฟักทองแกงบวด ฟักทองสังขยาล่ะ เพราะเป็นขนมที่มีน้ำตาลสูง แนะนำให้ต้ม หรือนึ่งทาน ปั่นทานกับผักผลไม้อื่นๆ หรือทำซุปฟักทอง ฟักทองผัดไข่ทานเป็นอาหารคาวน่าจะดีกว่าค่ะ




ขอบคุณข้อมูลจาก : sharesidotcom.blogspot , sanook