เปิดโพสต์สุดท้าย “กิ๊กสาว” ของ เก่ง มือฆ่าโหด

กราบสวัสดีชาวเน็ตที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ก็กลับมาพบกับเจ๊ซาวบาทอีกเช่นเคยค่ะ เจ๊ซาวบาทอัพยิ้มก็ยังคงติดอยู่กับกระแสข่าวที่กำลังมาแรงในตอนนี้ จากกรณี หมอปอ หรือ นางสาวนนทิญา ครัวจัตุรัส อายุ 25 ปี ที่กำลังจะแต่งงานกับแฟนหนุ่ม ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ แต่เธอถูกยิงเสียชีวิต คาบ้านพักของเธอ ก่อนแต่งงานเพียง5วันเท่านั้น และต่อมา หลังเกิดเหตุ หมอปอโดนยิงเสียชีวิต นายรณชัย หรือเก่ง ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนั้น ได้ตกเป็นผู้สงสัยในการตายของหมอปอจนมีข่าวออกมาว่านายรณชัย หรือเก่ง ได้ยอมรับเเล้วว่าฆ่าหมอปอเองกับมือ และจนสำนักข่าวได้โทรศัพท์ไปหายังพ่อของหมอปอ ซึ่งปรากฏว่า เห็นเก่งอยู่กับสาวคนอื่น และยังบอกอีกว่าลูกสาวเคยถูกทุบตี และมีรายงานล่าสุดเข้ามานี้คือทราบแล้วว่า กิ๊กสาวของเก่ง เป็นผู้หญิงที่ทำงานร่วมกันในงานการไฟฟ้าฯ รักแท้นี่มันแพ้ใกล้ชิดจริงๆเลยนะคะ รู้แล้วจุกในอกจริงๆเลย หลังจากทราบโฉมหน้าของ กิ๊กสาว ซึ่งชื่อ นฤมลแล้ว วันนี้เจ๊ซาวบาทอัพยิ้มขอมาเปิดโพสต์สุดท้าย ของ กิ๊กสาว หลังปิดการใช้งานเฟสบุ๊คไปแล้ว ซึ่งเธอได้โพสต์หลังกระทำการขี่รถเก๋งไปส่งว่าที่เจ้าสาวเพื่อทำการฆ่าว่าที่เจ้าสาว
หน้านี่ชาเลยจ้า – –
มาดูความคิดเห็นจากชาวเน็ตที่เมนต์โจมตี กิ๊กสาว
ต่างไม่ชอบเกี่ยวกับการกระทำของเธอ
เฟสบุ๊คของเธอ ซึ่งล่าสุดปิดการใช้งานไปแล้ว แต่เจ๊แคปทัน
หน้าตาก็ดีอยู่นะคะ
“ไอ้เก่ง”ว่าที่เจ้าบ่าวสารภาพสิ้น
ร่วม “กิ๊ก/นฤมล”ไตร่ตรองวางแผนฆ่า!!??
ตั้งแต่ขับรถงัดห้องเข้าไปยิงกระทั่งพาหนี
#ก่อนเกิดเหตุในคดีข้าฯกับ น.ส.นนธิญาฯ ผู้ตายได้คบหาเป็นคู่รักและมีกำหนดจะแต่งงานกันในวันที่ 24 ธ.ค.2560 ที่บ้านของผู้ตาย ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2560 เวลาประมาณ 17.00 น.ข้ากับน.ส.นฤมลฯ ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซูกิสวิป สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ โดยน.ส.นฤมลฯ เป็นคนขับออกจากอำเภอหลังสวน มุ่งหน้าสถานีอนามัยตำบลสลุย ซึ่งเป็นที่พักของผู้ตาย โดยขับรถไปตามถนนเอเชีย 41 และได้ไปใช้เส้นทางลัดบริเวณพ่อตาหินช้าง วิ่งตามเส้นทางไปเรื่อยๆจนถึงเส้นทางที่สามารถขับไปถึงที่บ้านพักของผู้ตายโดยไปถึงในเวลา 2 ทุ่ม
#ไอ้เก่งร่วมกิ๊กขับรถวนเวียนดูลาดเลา 2 รอบ
เมื่อไปถึงข้าพเจ้าฯได้จอดรถบริเวณหัวสะพานคลองบางทะลาย หลังจากนั้นข้าพเจ้าฯได้เปลี่ยนเสื้อ สวมถุงมือดำลายม่วง ถุงแขนสีดำ หมวกม่วงสีดำรองเท่าสีดำ ซึ่งข้าฯได้จัดเตรียมไว้ก่อนที่จะเดินทางมาในช่วงเช้าแล้ว หลังจากนั้นข้าฯได้ลงจากรถเพื่อเดินไปที่บ้านพักของผู้ตาย มีน.ส.นฤมลฯ ติดเครื่องนั่งรออยู่ในรถ เมื่อเข้าไปถึงได้เดินไปที่ด้านหลังของบ้านพัก ข้าฯได้ไปนั่งคิดไตร่ตรองว่าจะเข้าไปหาผู้ตายดีไหม นั่งอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงข้าฯได้เดินเข้าไปที่รถและให้ น.ส.นฤมล ขับไปจอดที่เขื่อนคุลิง โดยก่อนถึงเขื่อน น.ส.นฤมล ได้แวะซื้อของที่ เซเว่นฯบ้านอ่างทองข้าฯนั่งรออยู่ภายในรถโดยได้ถอดถุงมือ หมวกโม่งและได้เปลี่ยนเสื้อกล้ามมาใส่ตัวเดิม น.ส.นฤมลฯลงไปซื้อไส้กรอกกับน้ำขึ้นมาขับมุ่งหน้าไปที่เขื่อน โดยไปจอดรถที่เขื่อนคุลิง ในเวลาประมาณ 22 น.
#วางแผนอย่างดีดอดเข้าหลังบ้านพักปิดไฟ-จับกล้องวงจรปิดเงยหน้า
ต่อมาเวลาประมาณ 24.00 น.ได้ขับรถออกมาจากเขื่อนคุลิง เพื่อมาจอดยังจุดที่จอดเดิมซึ่งระหว่างทาง น.ส.นฤมล ขับรถมาจอดข้าฯได้เปลี่ยนเสื้อ สวมหมวกโม่ง ถุงมือ รองเท้า อีกครั้งและได้เดินจากรถครั้งนี้ได้นำอาวุธปืนซึ่งเตรียมไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าติดตัวไปด้วย ได้เดินวนไปหลังบ้านและรอบบ้าน ได้ไปปิดสวิทไฟฟ้าบริเวณห้อวงครัวของสถานีอนามัยและได้ใช้มือดันรกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่ติดบริเวณหน้าบ้านพัก เพื่อให้กล้องเงยหน้าขึ้น ข้าฯพยายามหาทางเข้าไปด้านในโดยสำรวจบริเวณหน้าต่าง พยายามใช้เหล็กสำหรับเปลี่ยนยางรถยนต์ งัดหน้าต่างบานที่สองบริเวณหน้าบ้าน เมื่องัดหน้าต่างออกยังมีมุ้งลวดอีกชั้น ข้าฯได้หยุดคิดชั่งใจไม่กล้าใช้มือผลักมุ้งลวดเกรงจะเกิดเสียงดัง
#ดอดค้นเอกสารลับอันเป็นชนวนตาย
จากนั้นข้าฯได้เดินไปหยิบเก้าอี้ที่วางอยู่ด้านหลังอนามัย นำมาวางแล้วยืนบนเก้าอี้เพื่อจะเปิดมุ้งลวดออกจนสำเร็จและปีนเข้าไปภายในเจอกระเป่าสะพายของผู้ตายวางอยู่ในช่องเก็บของข้าฯได้เปิดกระเป๋าเพื่อดูว่าภายในมีเอกสารของข้าฯซึ่งคุยกับผู้ตายไว้แต่ไม่เจอ ข้าฯได้วางกระเป๋ากับพื้นและได้รื้อของในตู้ออกมาดูเพื่อหาเอกสารก็ไม้เจอโดยข้าฯใช้เวลาค้นหาเอกสารในบ้านประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง รู้สึกหิวน้ำได้เปิดตู้เย็นนำขวดน้ำ เปิดประตูด้านหลังออกไปยืนกินน้ำด้านนอก และนั่งคิดไตร่ตรองอยู่นานประมาณ 10 นาที ข้าฯได้กลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งและเดินขึ้นไปบนชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องนอนของผู้ตาย พบว่าผู้ตายนอนหลับภายในห้องโดยไม่ได้ปิดประตู
#อ้างลังเลหลายรอบแต่หมอปอตื่นมาเจอเลยยิง
ข้าฯได้นั่งอยู่คิดไตร่ตรองอยู่บริเวณหน้าบันไดสลับหันไปมองผู้ตายทำอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง แล้วได้เดินเข้าไปในห้องนั่งมองผู้ตายที่กำลังนอนหลับอยู่บนที่นอน ขณะที่ข้าฯกำลังจะออกจากห้องผู้ตายได้ตื่นขึ้นมาอุทานว่า..ใครวะ ไปไกลๆเลยนะ ผู้ตายลุกขึ้นออกมาจากที่นอนและเดินมุ่งหน้ามาที่ข้าฯเพื่อจะดูว่าเป็นใคร จังหวะนั้นข้าฯรู้สึกสะติแตกมารู้สึกตัวอีกครั้งก็ได้ลั่นไกยิงผู้ตายไปแล้วข้าฯเห็นผู้ตายใช้มือดันประตูห้อนอนไว้และโทรศัพท์ของผู้ตายได้ตกลงพื้น ข้าฯได้เข้าไปหยิบจังหวะที่ก้มเก็บข้าฯได้จับประตูรู้สึกเหมือนผู้ตายผลักประตูไว้ ทันใดนั้นประตูก็เลื่อนผู้เสียชีวิตได้ล้มลง ข้าฯได้ลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว และได้ออกทางหลังบ้านวิ่งกลับมาที่รถ…..(รอติดตามคำให้การหน้าสุดท้าย)
ไม่น่าเลยนะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างละคะ กับเรื่องราวที่เจ๊ซาวบาทอัพยิ้มนำมาเสนอในวันนี้ มันเป็นไปได้ไงคะคุณขาที่บุคคลที่มีความผิดจะทำอะไรลงไปแล้วไม่สำนึกผิด สังคมทุกวันนี้อยู่ยากนะคะ