ผู้เขียน
คุยกับคนไม่ผอมหลายคน อยากผอม ถามเขาว่า “รู้มั้ย ทำไงถึงผอม” ทุกคนตอบว่า “รู้” กันหมด แต่ไม่ผอมสักกะที
วิธีการทำคนไม่ผอมให้ผอมหรือสเลนเดอร์ ทุกคนรู้ดี คือ ไม่กินของมันๆ อาหารต้องมีน้ำมันน้อยๆ ไม่กินขาหมู หมูกรอบ ข้าวมันไก่ อะไรทำนองนี้ ไม่กินของหวาน น้ำอัดลม ชาเย็น กาแฟเย็น กินข้าวน้อยๆ กินผักเยอะๆ เนื้อสัตว์ต้องเป็นชนิดไม่ติดมัน สำคัญที่สุด ต้องออกกำลัง
รู้กันหมด แต่ทำไม่ได้สักกะที
ที่ทำไม่ได้ เพราะคนไม่ผอมมักจะเป็นคนแพ้ใจตัวเอง จริงๆ แพ้ใจปากมากกว่า โธ่…ของอร่อย หมูกรอบเคยกิน คากิเคยลิ้ม ไปที่ไหนก็มีแต่ของอร่อย เว็บโน้นเว็บนี้ก็ชี้ชวนให้ตามล่าลายแทงหาของกินกันจัง สังเกตมั้ยครับ เด็กรุ่นใหม่หลายคนพุงออกตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ถ้าจะนินทากิจวัตรประจำวันของเด็กสมัยนี้หลายๆ คน (อีกหลายคนอาจจะไม่เป็น ต้องขออภัยด้วย) คือ ตื่นสายเสมอ งดมื้อเช้า (เพราะไม่ตื่น) ชอบกินอาหารขยะ (ฟาสต์ฟู้ด) ชอบหาของอร่อย กินไม่อั้น อ้วนไม่กลัว กลัวไม่ได้กิน กินจุบจิบหน้าทีวี และสำคัญสุด ไม่ชอบออกกำลัง
ส่วนที่เขาดูแลรักษาสุขภาพสุดๆ ก็มี เป็นพวกกระแสซิกซ์แพ็ก กล้ามเนื้อท้องต้องมี 6 มัด ทั้งหญิงและชาย เข้าฟิตเนส มีเทรนเนอร์คอยคุม ระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน ระเบียบของการใช้ชีวิตการออกกำลังกาย อาหารของคนเพาะกล้าม หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม เป็นสูตรสำเร็จ กินแป้งแต่น้อย ไขมันน้อยที่สุด โปรตีนมากๆ อันนี้เป็นสูตรอาหารเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และลดความอ้วนไปด้วยในตัว มีหลายชื่อ โลว์คาร์บ (คาร์โบไฮเดรต) หรือ ไฮโปรตีน ลีนแฟต (Lean Fat แปลว่า ไขมันต่ำ) อาหารกล่องหลายๆ เจ้าตอนนี้ ดำเนินตามนี้ ให้ข้าวนิดเดียว ซึ่งเป็นข้าวซ้อมมือ หรือไรซ์เบอร์รี่ อกไก่ชิ้นใหญ่ ผักต้ม ผักสด ผักสุก อีกพอประมาณ ถ้าไม่เป็นอกไก่ซึ่งมีไขมันต่ำ แต่ยังมีคอเลสเตอรอลนะครับ ก็เป็นพวกเนื้อปลา เนื้อกุ้งก็ได้ อย่ากินหัวเพราะส่วนนั้นมีไขมันสูง เนื้อกุ้งมีไขมันต่ำ การปรุงอาหารประเภทนี้ ไม่ใช้น้ำมัน ปรุงด้วยน้ำ ปรุงไง? แค่เอาน้ำใส่กระทะ ตั้งไฟให้เดือด อยากใส่กระเทียมสับ เต้าเจี้ยวหรืออะไรก็ตามแต่ ใส่ลงไปคนๆ ให้เดือดสุก ค่อยใส่ของลงไปผัด ผัดเนื้อ ผัดผักได้ทั้งนั้น ความอร่อยสำหรับคนลิ้นชินกับไขมันจะน้อยลงไป ดูแห้งๆ แปลกๆ กินๆ ไปจะชินไปเอง
การกินโปรตีนมาก ไขมันน้อย สำหรับคนไม่ผอม ร่างกายจะไปดึงไขมันส่วนเกินตามพุง ตามแขนมาใช้ ส่วนโปรตีนไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ คนที่มีวินัยในการกินแบบนี้ ต้องกินทุกมื้อ มื้อเย็นกินน้อยหน่อย หรือไม่กินเลย กินแต่ผลไม้ ผัก จะลดส่วนเกินได้ภายใน 1 เดือน อาหารลีนแฟตใส่กล่องจึงขายดี เพราะมีคนกลุ่มนี้คอยอุดหนุน หวังจะมีกล้ามท้อง และราคากล่องหนึ่งแพงเอาการครับ 120-200 กว่าบาท บางยี่ห้อทำเป็นอาหารไฮโซ ฟิวชั่นฟู้ด ราคาเลยแพง ยี่ห้อดัง เน้นอาหารไทยรสจัด แต่ไขมันต่ำ คนที่กินอาหารแบบนี้แล้วน้ำหนักไม่ลด มีเหตุผล 2 อย่างครับ หนึ่ง กินไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เนื่องจากขี้เกียจกิน ชักเบื่อ พอเจอของอร่อย ยั่วใจ หันไปกินเหมือนเดิม กับอีกเหตุผลคือ มันแพงครับ เงินหมด กินต่อไม่ไหว
เปลืองเงินก็ทำเองสิครับ วิธีการอย่างที่บอกไปข้างต้น แค่นั้นจริงๆ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนรักสุขภาพกลุ่มนี้คือ น้ำตาล โซเดียม และคอเลสเตอรอล ที่อาจจะสูงเกินไป โดยเฉพาะอาหารกล่องที่เคลมว่า รสอร่อยแต่ไขมันต่ำ อย่าลืมว่าเนื้อโปรตีนสูงๆ ที่เขาเอามาให้กินยังมีคอเลสเตอรอลอยู่ครับ ไม่ได้หมายความว่าเนื้อไม่มัน มีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อน้อย จะไม่มีคอเลสเตอรอลเลย เจ้านี่คือกรดไขมันตัวร้ายที่เขาว่ากัน ทำให้เส้นเลือดอุดตัน เป็นโรคหัวใจ แต่นักวิชาการรุ่นนี้ออกมาบอกว่า หลายการวิจัยยืนยัน คอเลสเตอรอลในเนื้อสัตว์ หรือที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ใช่ตัวร้ายอย่างที่เข้าใจกัน เพราะหน้าที่ของมันในร่างกายคือให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง หน้าตาเต่งตึง ร่างกายเราขาดคอเลสเตอรอลไม่ได้ ตัวร้ายจริงๆ คือแป้งกับน้ำตาลส่วนเกินที่เรากินเข้าไป ซึ่งจะแปลงกายกลายเป็นไขมันอุดตันหลอดเลือดเรา
เหมือนกับเรื่องไข่ พอมาสมัยนี้ บอกว่ากินไข่เท่าไหร่ก็ได้อย่าไปกลัว โดยเฉพาะไข่แดงยิ่งมีประโยชน์มาก ยังไงก็ตาม หมอยังเตือนเราอยู่ครับให้เลี่ยงอาหารไขมันสูง คอเลสเตอรอลสูง ผมว่าจะยึดอย่างหมอบอกไว้ก็ไม่เสียหาย ไม่ต้องไปโหมกินน้ำมันหมูแทนน้ำมันพืชตามกระแสหรอกครับ มีคนหนึ่งเคยมาเล่าให้ผมฟังว่า เธอให้แม่กินน้ำมันหมูผัดอาหารแทนน้ำมันพืช เพราะเชื่อที่เขาส่งกันตามเมลว่า น้ำมันพืชอะไรๆ ก็ไม่ดี เป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ กลับมาใช้น้ำมันหมูแบบคนโบราณไม่ได้ จะไม่เป็นโรคหัวใจ เพราะมันเป็นน้ำมันที่ร่างกายขับออกได้ แต่น้ำมันพืชขับออกยากกว่า เขาว่าอย่างนั้น เธอก็ทำอาหารน้ำมันหมูให้แม่กินไป 3 เดือน พอแม่ไปเช็กร่างกาย ไขมันตัวร้ายพุ่งขึ้นสูงปรี๊ด เธอเลยกลับมาให้แม่กินน้ำมันพืชตามเดิม ผมบอกเธอไปว่า อย่างงั้นไม่ต้องใช้น้ำมันเลยก็ได้ ในเนื้อต่างๆ มีไขมันแทรกอยู่เพียงพอกับความต้องการของคนเราอยู่แล้ว ใช้น้ำผัดอาหารแทน เธอก็รับไอเดียไป ยังไม่กลับมาเล่าให้ฟังอีกว่า ได้ไปทำหรือไม่ และแม่ของเธอไปเช็กไขมันใหม่หรือยัง
อีก 2 ตัวที่อันตรายคือ น้ำตาล กับ โซเดียม 2 ตัวนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งโรคหัวใจ โรคไต รู้หรือไม่ครับ อาหารรสอร่อยทุกชนิดใส่น้ำตาลกับความเค็มมากน้อยแค่ไหน เห็นเขาเทน้ำมันหอยใส่กระทะแล้วจะตกใจครับ น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บด้วย เอกลักษณ์ของอาหารไทยเป็นอาหารรสจัด ครบทุกรส การปรุงรสเราจึงหนักมือกันมาก เพื่อให้รสต่างๆ ครบถ้วน อาหารที่ดีจริงๆ คืออาหารจืดๆ ครับ แต่พอมันจืดไม่มีรสชาติ คนก็ไม่ชอบกิน ในที่สุด เลยวนมาอาหารรสจัดอยู่ดี การกินอาหารไทยที่คนไทยสามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ เลิกกินน้ำปลาพริก เลิกปรุงก๋วยเตี๋ยว เลิกกินน้ำหวาน คืออย่าไปเติมเกลือ กับน้ำตาลเพิ่มขึ้นจากอาหารที่กินเข้าไปอีก
เขามีการผลิตน้ำปลา ซีอิ๊ว ลดโซเดียมออกมาแล้ว แต่ราคาค่อนข้างแพง และคนไม่ชินรสชาติ หาซื้อยาก คนเลยไม่ได้ใช้สักที พูดก็พูดเถอะครับ พออาหารขาดรสเค็มไปมันไม่อร่อยจริงๆ
อีกประการที่สามารถหลีกเลี่ยงไขมัน น้ำตาล ความเค็มส่วนเกินได้ คือ ต้องทำอาหารกินเองบ้างครับ
ข้อเสียของการกินอาหารไขมันต่ำ โปรตีนสูงอีกประการ นอกเหนือจาก คอเลสเตอรอล น้ำตาล ความเค็มแล้ว ยังมีการได้ธาตุอาหารไม่สมดุลครับ ซึ่งมักจะเป็นโปรตีนที่สูงเกินไป จนไปรบกวนการทำงานของไต ทำให้ไตทำงานหนัก การกินอาหารประเภทนี้เพื่อลดส่วนเกินจึงไม่ควรกินต่อเนื่องเกิน 3 เดือน ไตพังได้ครับ ทางแก้ง่ายนิดเดียว อย่าไปกินโปรตีนชิ้นใหญ่มากๆ พออิ่มก็เก็บไว้กินมื้อต่อไป ดีกว่าฝืนกินให้หมด และกินแป้งขัดสีแต่น้อยบ้าง ผักผลไม้ อย่าลืม
กลับมาคนกลุ่มแรก ที่กิจวัตรประจำวันเอื้อให้พุงสะสมอาหาร คนกลุ่มนี้ต้องการแรงบันดาลใจ และแรงบังคับครับ แรงที่สำคัญคือแรงจากเพื่อนในกลุ่ม คนรุ่นใหม่เชื่อเพื่อนมากกว่าครอบครัว ได้เพื่อนดีก็จะพากันไปดีครับ เปล่าประโยชน์ที่พ่อแม่จะไปบ่นว่าเขา ว่าอ้วนไปแล้วนะ กินให้น้อยๆ หน่อย ไปออกกำลังมั่ง อะไรทำนองนี้ มันเข้าหูออกหูครับ แต่พอเพื่อนชวนเข้าฟิตเนสให้ได้เสียตังค์ไปทันที
แรงบันดาลใจอีกประเภทคือ มีแฟน อยากลดเอาใจแฟน อันนี้ได้ผลเร็ว แต่ถ้าไปเจอคนชอบกินด้วยกันทั้งคู่ ลดยากครับ
การแนะนำให้คนอยากลดหุ่นนั้นแนะง่าย แต่เขาทำยาก อย่างที่ว่าครับ แรงบันดาลใจไม่พอ ใจอ่อนต่อการกิน และขี้เกียจออกกำลัง
คำอ้างของคนไม่ชอบออกกำลัง คือ ไม่มีเวลา ซึ่งหลายคนเป็นจริง ออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า กลับถึงบ้าน 4 ทุ่ม เป็นกิจวัตรของคนเมืองเลย คุณภาพชีวิตหายหมดครับ น่าเห็นใจเหมือนกันว่าจะเอาเวลาที่ไหนไปออกกำลัง อาจจะต้องโหนราวรถไฟฟ้า หรือโหนบาร์รถเมล์ ถ้ากระปี๋ไม่ด่าเอาก่อนนะครับ
แต่พวกที่ยังมีเวลานั่งแบบดูทีวีได้ ไม่ต้องมาปฏิเสธว่าไม่มีเวลา ไปซื้อลู่วิ่ง หรือจักรยานเล็กๆ คันหนึ่ง ตั้งเข้าหน้าทีวี วิ่งไปดูละครน้ำเน่าไป จะอินละครมากยิ่งขึ้นอีก ผอมด้วย
ฮึดครับ มันต้องฮึด สู้ๆ
เรื่องของไม่อ้วนเอาเท่าไหร่นี่ ถามได้ทั้งคนอยากลด และอยากขายอาหารลดความอ้วน จะลดแบบถูกหรือแบบแพง เช่นเดียวกันกับคนขาย ในส่วนของคนขายนี่ ตามหลักทำธุรกิจ ขายถูกไม่ค่อยดีหรอกครับ กำไรก็น้อย ง่ายๆ เลย ระหว่างคนทำอาหารกล่องทั่วไปขาย 60 บาท กับขายอาหารฟิวชั่นได้ 120 บาท จะขายแบบไหน ทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
แบบแรก อาหารราคาถูก ขายออกง่าย กำไรต่อกล่องน้อย แต่ขายได้จำนวนมากๆ กำไรรวมจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แต่เหนื่อยหน่อย เพราะต้องผัดอาหารจำนวนมาก ให้ขายได้เยอะๆ ส่วนแบบที่ 2 เหนื่อยน้อย กำไรต่อกล่องมาก แต่หาลูกค้าได้ยากกว่าแบบแรก ใครจะมีเงินถุงเงินถังกินข้าวกล่อง 120 บาทได้ทุกมื้อ เพราะฉะนั้น คนขายต้องพิจารณาเอาว่า กลุ่มลูกค้าคือใคร จะทำขายแบบไหน เอาขายง่ายกำไรน้อย หรือ ขายยากกำไรมาก เลือกเอาครับ
จะทำกินเองหรือทำขาย อาหารไขมันต่ำ เรามาเริ่มต้นง่ายๆ จากอาหารประเภทผัดก่อน แตกไลน์ไปได้เยอะ
ก่อนอื่นต้องทำซอสสำหรับผัดผสมไว้ เคยบอกหลายทีแล้ว จำเอาไปใช้ผัดได้เกือบทุกอย่างในโลกนี้
ซอสผัดมาตรฐาน
น้ำมันหอย 2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ถ้วย
ซอสปรุงรส 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เก็บไว้ใช้ได้นานมาก
กุ้งผัดพริกขี้หนูสวน
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 1/4 ถ้วย
กุ้งสับหยาบ 1/4 ถ้วย
ซอสมาตรฐาน 1-2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ด
เอากระทะตั้ง ไฟกลางๆ ใส่น้ำซุปลงไป ตามด้วยกระเทียม ใช้น้ำเปล่าก็ได้ แต่น้ำซุปอร่อยกว่า ผัดให้กระเทียมสุก ถ้ากระเทียมไม่สุก กลิ่นมันจะทะแม่งๆ ผัดกับน้ำอย่างนี้ ยังไงๆ กระเทียมจะไม่เกรียมครับ มีแต่น้ำแห้ง เติมน้ำได้ถ้าแห้ง ตามด้วยพริกขี้หนูสับ กุ้งสับ ราดซอสลงไปสักช้อนโต๊ะกว่าๆ ตักใส่จานประดับหน้าด้วยผักชี แว่บเดียวจริงๆ ได้กินแล้ว
จะผัดอย่างอื่น ทำคล้ายกัน เช่น ผัดกะเพรา เอาไก่สับ พริกขี้หนูแดงตำกับกระเทียม อย่างละเท่าๆ กัน ถั่วฝักยาวหั่น ใบกะเพรา ใส่กระเทียม พริกตำ ผัดกับน้ำ ใส่เนื้อไก่สับ ซอส เติมน้ำถ้าชอบแบบขลุกขลิก ใส่ใบกะเพรา เสร็จแล้วครับ
ผัดผัก ผัดโน้น ผัดนี่ ทำคล้ายกันหมด
อย่างน้ำพริกอ่องที่ปกติเราใช้น้ำมันผัด ไม่ต้องมีน้ำมันสักกะแอ่ะ
น้ำพริกอ่อง
พริกแห้งแช่น้ำ 1/4 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
ตะไคร้หั่น 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วเน่าปิ้ง 2 แผ่น
มะเขือส้ม หรือสีดา หั่น 300 กรัม
ไก่สับ 150 กรัม
น้ำสำหรับผัด
กระเทียมสับสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกอ่องของคนเหนือเขาไม่เผ็ด ออกรสเปรี้ยวนำ เค็มตาม น้ำพริกอ่องมาภาคกลาง หวานเจี๊ยบสะดือจ๋า อยู่เหนือหรืออีสานจะมีมะเขือส้มเป็นมะเขือลูกเล็กๆ เอาไว้ตำส้มตำ ภาคกลางมีแต่สีดา อย่าไปใช้มะเขือราชินี อันนั้นเปลือกเหนียวกว่า ส่วนถั่วเน่าทำมาจากถั่วเหลืองหมัก ตากแห้งเป็นแผ่นๆ เวลาใช้เราเอามาปิ้งไฟ หาซื้อได้ตามตลาดสดหลายแห่ง ไม่มีใช้กะปิผสมเต้าเจี้ยวสับรวมกันสัก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
โขลกพริกแกงให้ละเอียด ใส่ไก่สับลงไปโขลก ตามด้วยมะเขือเทศโขลกหยาบๆ
ใส่น้ำในกระทะ เปิดไฟ ใส่กระเทียม ผัดให้หอม ใส่ไก่ที่โขลกไว้ ผัดไปเรื่อยๆ ไฟกลางๆ ถ้าแห้งเติมน้ำได้ ผัดจนมะเขือเทศแหลกใช้เวลาประมาณ 15 นาที ปรุงรสให้เปรี้ยวนำ อย่าหวานมากเลยครับ เดี๋ยวน้ำตาลหกมดตาม
เอาอีกสักอย่าง ทำแกงเผ็ดดีกว่า
แกงเขียวหวาน นมถั่วเหลือง
เนื้ออกไก่แล่ชิ้นบาง 500 กรัม
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 50 กรัม
น้ำสำหรับผัด
น้ำนมถั่วเหลือง 460 กรัม (2 กล่อง)
น้ำเปล่า 350 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1-2 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเปราะ 1/2 ถ้วย
พริกแดงหั่นแฉลบ 1/4 ถ้วย
ใบโหระพา 1/4 ถ้วย
ปกติเราจะผัดพริกแกงกับกะทิ ให้กะทิแตกมัน น้ำพริกแกงหอม แต่เมื่อเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เราเลยผัดพริกแกงกับน้ำให้หอม แน่นอนว่าไม่หอมอร่อยเท่ากับผัดกับไขมัน ต้องทำใจหน่อยครับ เสร็จแล้วเอาไก่ลงผัดให้สุก เติมนมถั่วเหลืองผสมน้ำ เคี่ยวไปให้ไก่นุ่ม ค่อยปรุงรส เค็มนำ หวานตาม อมเปรี้ยวนิดหนึ่ง เร่งไฟให้เดือด ใส่มะเขือเปราะ กดให้มะเขือจม ตรงนี้สำคัญ ถ้ามะเขือสุกไม่หมดทั่วกัน พอทิ้งไว้มันจะดำ ต้องให้จมและสุกดี จะไม่ดำ สุดท้ายใส่ใบโหระพา พริกแดง กดให้จม รอสุก ปิดไฟได้
แกงเผ็ดอื่นๆ ใช้นมถั่วเหลือง นมไขมันต่ำ น้ำนมข้าว น้ำลูกเดือย ทำแทนกะทิได้ เขามีกะทิลดไขมันขายแล้วด้วย ลองซื้อมาใช้ได้
การทำอาหารไทยสุขภาพ ไขมันต่ำ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำอาหารไทยเป็น ประยุกต์การใช้น้ำเข้าไปแทนที่น้ำมัน และเลือกวัตถุดิบที่มีไขมันต่ำแทน
“ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่” ตอนนี้ เอาไปทำกินเอง กินทุกมื้อ รับรองลดแน่ครับ แต่ถ้าเอาไปทำขาย ให้ลูกค้ากิน 3 มื้อ น้ำหนักลูกค้าเราก็ลด ที่ไม่ลดคือตัวคนขายนี่แหละ เพราะเอาแต่ขายอย่างเดียว เวลากินไม่ยอมกินของตัวเอง ดันไปตระเวนหาข้าวขาหมูเจ้าอร่อย
อย่างนี้ก็จบเห่สินะครับ
ที่มา https://www.sentangsedtee.com/featured/article_34884
ยศพิชา คชาชีวะ | |||
เผยแพร่ |
คุยกับคนไม่ผอมหลายคน อยากผอม ถามเขาว่า “รู้มั้ย ทำไงถึงผอม” ทุกคนตอบว่า “รู้” กันหมด แต่ไม่ผอมสักกะที
วิธีการทำคนไม่ผอมให้ผอมหรือสเลนเดอร์ ทุกคนรู้ดี คือ ไม่กินของมันๆ อาหารต้องมีน้ำมันน้อยๆ ไม่กินขาหมู หมูกรอบ ข้าวมันไก่ อะไรทำนองนี้ ไม่กินของหวาน น้ำอัดลม ชาเย็น กาแฟเย็น กินข้าวน้อยๆ กินผักเยอะๆ เนื้อสัตว์ต้องเป็นชนิดไม่ติดมัน สำคัญที่สุด ต้องออกกำลัง
รู้กันหมด แต่ทำไม่ได้สักกะที
ที่ทำไม่ได้ เพราะคนไม่ผอมมักจะเป็นคนแพ้ใจตัวเอง จริงๆ แพ้ใจปากมากกว่า โธ่…ของอร่อย หมูกรอบเคยกิน คากิเคยลิ้ม ไปที่ไหนก็มีแต่ของอร่อย เว็บโน้นเว็บนี้ก็ชี้ชวนให้ตามล่าลายแทงหาของกินกันจัง สังเกตมั้ยครับ เด็กรุ่นใหม่หลายคนพุงออกตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ถ้าจะนินทากิจวัตรประจำวันของเด็กสมัยนี้หลายๆ คน (อีกหลายคนอาจจะไม่เป็น ต้องขออภัยด้วย) คือ ตื่นสายเสมอ งดมื้อเช้า (เพราะไม่ตื่น) ชอบกินอาหารขยะ (ฟาสต์ฟู้ด) ชอบหาของอร่อย กินไม่อั้น อ้วนไม่กลัว กลัวไม่ได้กิน กินจุบจิบหน้าทีวี และสำคัญสุด ไม่ชอบออกกำลัง
ส่วนที่เขาดูแลรักษาสุขภาพสุดๆ ก็มี เป็นพวกกระแสซิกซ์แพ็ก กล้ามเนื้อท้องต้องมี 6 มัด ทั้งหญิงและชาย เข้าฟิตเนส มีเทรนเนอร์คอยคุม ระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน ระเบียบของการใช้ชีวิตการออกกำลังกาย อาหารของคนเพาะกล้าม หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม เป็นสูตรสำเร็จ กินแป้งแต่น้อย ไขมันน้อยที่สุด โปรตีนมากๆ อันนี้เป็นสูตรอาหารเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และลดความอ้วนไปด้วยในตัว มีหลายชื่อ โลว์คาร์บ (คาร์โบไฮเดรต) หรือ ไฮโปรตีน ลีนแฟต (Lean Fat แปลว่า ไขมันต่ำ) อาหารกล่องหลายๆ เจ้าตอนนี้ ดำเนินตามนี้ ให้ข้าวนิดเดียว ซึ่งเป็นข้าวซ้อมมือ หรือไรซ์เบอร์รี่ อกไก่ชิ้นใหญ่ ผักต้ม ผักสด ผักสุก อีกพอประมาณ ถ้าไม่เป็นอกไก่ซึ่งมีไขมันต่ำ แต่ยังมีคอเลสเตอรอลนะครับ ก็เป็นพวกเนื้อปลา เนื้อกุ้งก็ได้ อย่ากินหัวเพราะส่วนนั้นมีไขมันสูง เนื้อกุ้งมีไขมันต่ำ การปรุงอาหารประเภทนี้ ไม่ใช้น้ำมัน ปรุงด้วยน้ำ ปรุงไง? แค่เอาน้ำใส่กระทะ ตั้งไฟให้เดือด อยากใส่กระเทียมสับ เต้าเจี้ยวหรืออะไรก็ตามแต่ ใส่ลงไปคนๆ ให้เดือดสุก ค่อยใส่ของลงไปผัด ผัดเนื้อ ผัดผักได้ทั้งนั้น ความอร่อยสำหรับคนลิ้นชินกับไขมันจะน้อยลงไป ดูแห้งๆ แปลกๆ กินๆ ไปจะชินไปเอง
การกินโปรตีนมาก ไขมันน้อย สำหรับคนไม่ผอม ร่างกายจะไปดึงไขมันส่วนเกินตามพุง ตามแขนมาใช้ ส่วนโปรตีนไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ คนที่มีวินัยในการกินแบบนี้ ต้องกินทุกมื้อ มื้อเย็นกินน้อยหน่อย หรือไม่กินเลย กินแต่ผลไม้ ผัก จะลดส่วนเกินได้ภายใน 1 เดือน อาหารลีนแฟตใส่กล่องจึงขายดี เพราะมีคนกลุ่มนี้คอยอุดหนุน หวังจะมีกล้ามท้อง และราคากล่องหนึ่งแพงเอาการครับ 120-200 กว่าบาท บางยี่ห้อทำเป็นอาหารไฮโซ ฟิวชั่นฟู้ด ราคาเลยแพง ยี่ห้อดัง เน้นอาหารไทยรสจัด แต่ไขมันต่ำ คนที่กินอาหารแบบนี้แล้วน้ำหนักไม่ลด มีเหตุผล 2 อย่างครับ หนึ่ง กินไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง เนื่องจากขี้เกียจกิน ชักเบื่อ พอเจอของอร่อย ยั่วใจ หันไปกินเหมือนเดิม กับอีกเหตุผลคือ มันแพงครับ เงินหมด กินต่อไม่ไหว
เปลืองเงินก็ทำเองสิครับ วิธีการอย่างที่บอกไปข้างต้น แค่นั้นจริงๆ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนรักสุขภาพกลุ่มนี้คือ น้ำตาล โซเดียม และคอเลสเตอรอล ที่อาจจะสูงเกินไป โดยเฉพาะอาหารกล่องที่เคลมว่า รสอร่อยแต่ไขมันต่ำ อย่าลืมว่าเนื้อโปรตีนสูงๆ ที่เขาเอามาให้กินยังมีคอเลสเตอรอลอยู่ครับ ไม่ได้หมายความว่าเนื้อไม่มัน มีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อน้อย จะไม่มีคอเลสเตอรอลเลย เจ้านี่คือกรดไขมันตัวร้ายที่เขาว่ากัน ทำให้เส้นเลือดอุดตัน เป็นโรคหัวใจ แต่นักวิชาการรุ่นนี้ออกมาบอกว่า หลายการวิจัยยืนยัน คอเลสเตอรอลในเนื้อสัตว์ หรือที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ใช่ตัวร้ายอย่างที่เข้าใจกัน เพราะหน้าที่ของมันในร่างกายคือให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนัง หน้าตาเต่งตึง ร่างกายเราขาดคอเลสเตอรอลไม่ได้ ตัวร้ายจริงๆ คือแป้งกับน้ำตาลส่วนเกินที่เรากินเข้าไป ซึ่งจะแปลงกายกลายเป็นไขมันอุดตันหลอดเลือดเรา
เหมือนกับเรื่องไข่ พอมาสมัยนี้ บอกว่ากินไข่เท่าไหร่ก็ได้อย่าไปกลัว โดยเฉพาะไข่แดงยิ่งมีประโยชน์มาก ยังไงก็ตาม หมอยังเตือนเราอยู่ครับให้เลี่ยงอาหารไขมันสูง คอเลสเตอรอลสูง ผมว่าจะยึดอย่างหมอบอกไว้ก็ไม่เสียหาย ไม่ต้องไปโหมกินน้ำมันหมูแทนน้ำมันพืชตามกระแสหรอกครับ มีคนหนึ่งเคยมาเล่าให้ผมฟังว่า เธอให้แม่กินน้ำมันหมูผัดอาหารแทนน้ำมันพืช เพราะเชื่อที่เขาส่งกันตามเมลว่า น้ำมันพืชอะไรๆ ก็ไม่ดี เป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ กลับมาใช้น้ำมันหมูแบบคนโบราณไม่ได้ จะไม่เป็นโรคหัวใจ เพราะมันเป็นน้ำมันที่ร่างกายขับออกได้ แต่น้ำมันพืชขับออกยากกว่า เขาว่าอย่างนั้น เธอก็ทำอาหารน้ำมันหมูให้แม่กินไป 3 เดือน พอแม่ไปเช็กร่างกาย ไขมันตัวร้ายพุ่งขึ้นสูงปรี๊ด เธอเลยกลับมาให้แม่กินน้ำมันพืชตามเดิม ผมบอกเธอไปว่า อย่างงั้นไม่ต้องใช้น้ำมันเลยก็ได้ ในเนื้อต่างๆ มีไขมันแทรกอยู่เพียงพอกับความต้องการของคนเราอยู่แล้ว ใช้น้ำผัดอาหารแทน เธอก็รับไอเดียไป ยังไม่กลับมาเล่าให้ฟังอีกว่า ได้ไปทำหรือไม่ และแม่ของเธอไปเช็กไขมันใหม่หรือยัง
อีก 2 ตัวที่อันตรายคือ น้ำตาล กับ โซเดียม 2 ตัวนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งโรคหัวใจ โรคไต รู้หรือไม่ครับ อาหารรสอร่อยทุกชนิดใส่น้ำตาลกับความเค็มมากน้อยแค่ไหน เห็นเขาเทน้ำมันหอยใส่กระทะแล้วจะตกใจครับ น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บด้วย เอกลักษณ์ของอาหารไทยเป็นอาหารรสจัด ครบทุกรส การปรุงรสเราจึงหนักมือกันมาก เพื่อให้รสต่างๆ ครบถ้วน อาหารที่ดีจริงๆ คืออาหารจืดๆ ครับ แต่พอมันจืดไม่มีรสชาติ คนก็ไม่ชอบกิน ในที่สุด เลยวนมาอาหารรสจัดอยู่ดี การกินอาหารไทยที่คนไทยสามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ เลิกกินน้ำปลาพริก เลิกปรุงก๋วยเตี๋ยว เลิกกินน้ำหวาน คืออย่าไปเติมเกลือ กับน้ำตาลเพิ่มขึ้นจากอาหารที่กินเข้าไปอีก
เขามีการผลิตน้ำปลา ซีอิ๊ว ลดโซเดียมออกมาแล้ว แต่ราคาค่อนข้างแพง และคนไม่ชินรสชาติ หาซื้อยาก คนเลยไม่ได้ใช้สักที พูดก็พูดเถอะครับ พออาหารขาดรสเค็มไปมันไม่อร่อยจริงๆ
อีกประการที่สามารถหลีกเลี่ยงไขมัน น้ำตาล ความเค็มส่วนเกินได้ คือ ต้องทำอาหารกินเองบ้างครับ
ข้อเสียของการกินอาหารไขมันต่ำ โปรตีนสูงอีกประการ นอกเหนือจาก คอเลสเตอรอล น้ำตาล ความเค็มแล้ว ยังมีการได้ธาตุอาหารไม่สมดุลครับ ซึ่งมักจะเป็นโปรตีนที่สูงเกินไป จนไปรบกวนการทำงานของไต ทำให้ไตทำงานหนัก การกินอาหารประเภทนี้เพื่อลดส่วนเกินจึงไม่ควรกินต่อเนื่องเกิน 3 เดือน ไตพังได้ครับ ทางแก้ง่ายนิดเดียว อย่าไปกินโปรตีนชิ้นใหญ่มากๆ พออิ่มก็เก็บไว้กินมื้อต่อไป ดีกว่าฝืนกินให้หมด และกินแป้งขัดสีแต่น้อยบ้าง ผักผลไม้ อย่าลืม
กลับมาคนกลุ่มแรก ที่กิจวัตรประจำวันเอื้อให้พุงสะสมอาหาร คนกลุ่มนี้ต้องการแรงบันดาลใจ และแรงบังคับครับ แรงที่สำคัญคือแรงจากเพื่อนในกลุ่ม คนรุ่นใหม่เชื่อเพื่อนมากกว่าครอบครัว ได้เพื่อนดีก็จะพากันไปดีครับ เปล่าประโยชน์ที่พ่อแม่จะไปบ่นว่าเขา ว่าอ้วนไปแล้วนะ กินให้น้อยๆ หน่อย ไปออกกำลังมั่ง อะไรทำนองนี้ มันเข้าหูออกหูครับ แต่พอเพื่อนชวนเข้าฟิตเนสให้ได้เสียตังค์ไปทันที
แรงบันดาลใจอีกประเภทคือ มีแฟน อยากลดเอาใจแฟน อันนี้ได้ผลเร็ว แต่ถ้าไปเจอคนชอบกินด้วยกันทั้งคู่ ลดยากครับ
การแนะนำให้คนอยากลดหุ่นนั้นแนะง่าย แต่เขาทำยาก อย่างที่ว่าครับ แรงบันดาลใจไม่พอ ใจอ่อนต่อการกิน และขี้เกียจออกกำลัง
คำอ้างของคนไม่ชอบออกกำลัง คือ ไม่มีเวลา ซึ่งหลายคนเป็นจริง ออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า กลับถึงบ้าน 4 ทุ่ม เป็นกิจวัตรของคนเมืองเลย คุณภาพชีวิตหายหมดครับ น่าเห็นใจเหมือนกันว่าจะเอาเวลาที่ไหนไปออกกำลัง อาจจะต้องโหนราวรถไฟฟ้า หรือโหนบาร์รถเมล์ ถ้ากระปี๋ไม่ด่าเอาก่อนนะครับ
แต่พวกที่ยังมีเวลานั่งแบบดูทีวีได้ ไม่ต้องมาปฏิเสธว่าไม่มีเวลา ไปซื้อลู่วิ่ง หรือจักรยานเล็กๆ คันหนึ่ง ตั้งเข้าหน้าทีวี วิ่งไปดูละครน้ำเน่าไป จะอินละครมากยิ่งขึ้นอีก ผอมด้วย
ฮึดครับ มันต้องฮึด สู้ๆ
เรื่องของไม่อ้วนเอาเท่าไหร่นี่ ถามได้ทั้งคนอยากลด และอยากขายอาหารลดความอ้วน จะลดแบบถูกหรือแบบแพง เช่นเดียวกันกับคนขาย ในส่วนของคนขายนี่ ตามหลักทำธุรกิจ ขายถูกไม่ค่อยดีหรอกครับ กำไรก็น้อย ง่ายๆ เลย ระหว่างคนทำอาหารกล่องทั่วไปขาย 60 บาท กับขายอาหารฟิวชั่นได้ 120 บาท จะขายแบบไหน ทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
แบบแรก อาหารราคาถูก ขายออกง่าย กำไรต่อกล่องน้อย แต่ขายได้จำนวนมากๆ กำไรรวมจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แต่เหนื่อยหน่อย เพราะต้องผัดอาหารจำนวนมาก ให้ขายได้เยอะๆ ส่วนแบบที่ 2 เหนื่อยน้อย กำไรต่อกล่องมาก แต่หาลูกค้าได้ยากกว่าแบบแรก ใครจะมีเงินถุงเงินถังกินข้าวกล่อง 120 บาทได้ทุกมื้อ เพราะฉะนั้น คนขายต้องพิจารณาเอาว่า กลุ่มลูกค้าคือใคร จะทำขายแบบไหน เอาขายง่ายกำไรน้อย หรือ ขายยากกำไรมาก เลือกเอาครับ
จะทำกินเองหรือทำขาย อาหารไขมันต่ำ เรามาเริ่มต้นง่ายๆ จากอาหารประเภทผัดก่อน แตกไลน์ไปได้เยอะ
ก่อนอื่นต้องทำซอสสำหรับผัดผสมไว้ เคยบอกหลายทีแล้ว จำเอาไปใช้ผัดได้เกือบทุกอย่างในโลกนี้
ซอสผัดมาตรฐาน
น้ำมันหอย 2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ถ้วย
ซอสปรุงรส 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เก็บไว้ใช้ได้นานมาก
กุ้งผัดพริกขี้หนูสวน
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 1/4 ถ้วย
กุ้งสับหยาบ 1/4 ถ้วย
ซอสมาตรฐาน 1-2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ด
เอากระทะตั้ง ไฟกลางๆ ใส่น้ำซุปลงไป ตามด้วยกระเทียม ใช้น้ำเปล่าก็ได้ แต่น้ำซุปอร่อยกว่า ผัดให้กระเทียมสุก ถ้ากระเทียมไม่สุก กลิ่นมันจะทะแม่งๆ ผัดกับน้ำอย่างนี้ ยังไงๆ กระเทียมจะไม่เกรียมครับ มีแต่น้ำแห้ง เติมน้ำได้ถ้าแห้ง ตามด้วยพริกขี้หนูสับ กุ้งสับ ราดซอสลงไปสักช้อนโต๊ะกว่าๆ ตักใส่จานประดับหน้าด้วยผักชี แว่บเดียวจริงๆ ได้กินแล้ว
จะผัดอย่างอื่น ทำคล้ายกัน เช่น ผัดกะเพรา เอาไก่สับ พริกขี้หนูแดงตำกับกระเทียม อย่างละเท่าๆ กัน ถั่วฝักยาวหั่น ใบกะเพรา ใส่กระเทียม พริกตำ ผัดกับน้ำ ใส่เนื้อไก่สับ ซอส เติมน้ำถ้าชอบแบบขลุกขลิก ใส่ใบกะเพรา เสร็จแล้วครับ
ผัดผัก ผัดโน้น ผัดนี่ ทำคล้ายกันหมด
อย่างน้ำพริกอ่องที่ปกติเราใช้น้ำมันผัด ไม่ต้องมีน้ำมันสักกะแอ่ะ
น้ำพริกอ่อง
พริกแห้งแช่น้ำ 1/4 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
ตะไคร้หั่น 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วเน่าปิ้ง 2 แผ่น
มะเขือส้ม หรือสีดา หั่น 300 กรัม
ไก่สับ 150 กรัม
น้ำสำหรับผัด
กระเทียมสับสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกอ่องของคนเหนือเขาไม่เผ็ด ออกรสเปรี้ยวนำ เค็มตาม น้ำพริกอ่องมาภาคกลาง หวานเจี๊ยบสะดือจ๋า อยู่เหนือหรืออีสานจะมีมะเขือส้มเป็นมะเขือลูกเล็กๆ เอาไว้ตำส้มตำ ภาคกลางมีแต่สีดา อย่าไปใช้มะเขือราชินี อันนั้นเปลือกเหนียวกว่า ส่วนถั่วเน่าทำมาจากถั่วเหลืองหมัก ตากแห้งเป็นแผ่นๆ เวลาใช้เราเอามาปิ้งไฟ หาซื้อได้ตามตลาดสดหลายแห่ง ไม่มีใช้กะปิผสมเต้าเจี้ยวสับรวมกันสัก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
โขลกพริกแกงให้ละเอียด ใส่ไก่สับลงไปโขลก ตามด้วยมะเขือเทศโขลกหยาบๆ
ใส่น้ำในกระทะ เปิดไฟ ใส่กระเทียม ผัดให้หอม ใส่ไก่ที่โขลกไว้ ผัดไปเรื่อยๆ ไฟกลางๆ ถ้าแห้งเติมน้ำได้ ผัดจนมะเขือเทศแหลกใช้เวลาประมาณ 15 นาที ปรุงรสให้เปรี้ยวนำ อย่าหวานมากเลยครับ เดี๋ยวน้ำตาลหกมดตาม
เอาอีกสักอย่าง ทำแกงเผ็ดดีกว่า
แกงเขียวหวาน นมถั่วเหลือง
เนื้ออกไก่แล่ชิ้นบาง 500 กรัม
น้ำพริกแกงเขียวหวาน 50 กรัม
น้ำสำหรับผัด
น้ำนมถั่วเหลือง 460 กรัม (2 กล่อง)
น้ำเปล่า 350 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1-2 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเปราะ 1/2 ถ้วย
พริกแดงหั่นแฉลบ 1/4 ถ้วย
ใบโหระพา 1/4 ถ้วย
ปกติเราจะผัดพริกแกงกับกะทิ ให้กะทิแตกมัน น้ำพริกแกงหอม แต่เมื่อเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เราเลยผัดพริกแกงกับน้ำให้หอม แน่นอนว่าไม่หอมอร่อยเท่ากับผัดกับไขมัน ต้องทำใจหน่อยครับ เสร็จแล้วเอาไก่ลงผัดให้สุก เติมนมถั่วเหลืองผสมน้ำ เคี่ยวไปให้ไก่นุ่ม ค่อยปรุงรส เค็มนำ หวานตาม อมเปรี้ยวนิดหนึ่ง เร่งไฟให้เดือด ใส่มะเขือเปราะ กดให้มะเขือจม ตรงนี้สำคัญ ถ้ามะเขือสุกไม่หมดทั่วกัน พอทิ้งไว้มันจะดำ ต้องให้จมและสุกดี จะไม่ดำ สุดท้ายใส่ใบโหระพา พริกแดง กดให้จม รอสุก ปิดไฟได้
แกงเผ็ดอื่นๆ ใช้นมถั่วเหลือง นมไขมันต่ำ น้ำนมข้าว น้ำลูกเดือย ทำแทนกะทิได้ เขามีกะทิลดไขมันขายแล้วด้วย ลองซื้อมาใช้ได้
การทำอาหารไทยสุขภาพ ไขมันต่ำ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำอาหารไทยเป็น ประยุกต์การใช้น้ำเข้าไปแทนที่น้ำมัน และเลือกวัตถุดิบที่มีไขมันต่ำแทน
“ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่” ตอนนี้ เอาไปทำกินเอง กินทุกมื้อ รับรองลดแน่ครับ แต่ถ้าเอาไปทำขาย ให้ลูกค้ากิน 3 มื้อ น้ำหนักลูกค้าเราก็ลด ที่ไม่ลดคือตัวคนขายนี่แหละ เพราะเอาแต่ขายอย่างเดียว เวลากินไม่ยอมกินของตัวเอง ดันไปตระเวนหาข้าวขาหมูเจ้าอร่อย
อย่างนี้ก็จบเห่สินะครับ
ที่มา https://www.sentangsedtee.com/featured/article_34884