Edit 8 วิธีแก้วิงเวียนศีรษะบ้านหมุน แก้ได้ หายแน่นอน เวียนศีรษะบ้านหมุน หรือ โรคบ้านหมุน (Vertigo) เป็นภาวะที่อาจส่งผลกระทบต่อคนที่เป็นอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ทำให้รู้สึกวิงเวียน เหมือนสิ่งของรอบตัวหมุนเคว้ง เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และสูญเสียการทรงตัวในที่สุด อาการวิงเวียนศีรษะบ้านหมุน อาจเกิดจากหลายสาเหตุซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์สาเหตุนั้นๆ แต่เมื่อเกิดอาการทันทีทันใด วิธีการต่อไปนี้อาจช่วยบรรเทาอาการได้ในเบื้องต้น วิธีช่วยบรรเทาอาการเวียนหัวบ้านหมุนในทันที 1. เคลื่อนไหวช้าๆ เมื่อรู้สึกวิงเวียนบ้านหมุน การขยับเขยื้อนอย่างรวดเร็วจะทำให้รู้สึกแย่ลง แต่การเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ จะทำให้รู้สึกดีขึ้น เช่น การก้าวเดินช้าๆ จะช่วยให้คุณโฟกัสได้ง่ายขึ้น และสมองไม่มึนงง บางคนอาจหยุดพักชั่วครู่ระหว่างเดิน ก็ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนได้ดี 2. อย่ามองขึ้นหรือลง การมองขึ้นหรือลงอาจทำให้รู้สึกมึนงงและไม่สบายยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับอาการวิงเวียนศีรษะทั่วไป ที่ไม่ใช่บ้านหมุน เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการมองเกิ้นหรือมองลงนานๆ หรือรวดเร็วและรักษาระดับศีรษะให้ขนานกับพื้นเท่าที่จะทำได้ 3. เพ่งมองวัตถุที่อยู่ไกลออกไป การรับรู้ของคนเรานั้น สิ่งที่อยู่ใกล้จะดูเคลื่อนที่เร็วกว่าสิ่งที่อยู่ไกลออกไปเพราะฉะนั้น ขอให้เพ่งมองไปยังสิ่งที่อยู่ในระยะไกล เช่น มองออกไปนอกหน้าต่างจนรู้สึกวิงเวียนลดน้อยลง 4. อยากเคลื่อนไหวท่าทางซ้ำๆ การเคลื่อนไหวด้วยท่าทางซ้ำๆ เช่น สะบัดหน้า ขยับแขน ขยับขา ส่งผลให้การทรงตัวไม่ดี ซึ่งจะยิ่งทำให้อาการวิงเวียนบ้านหมุนแย่ลงกว่าเดิม ทางที่ดีควรเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวังและมั่นคง ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนได้อย่างรวดเร็ว วิธีเคลื่อนไหวที่ช่วยรักษาอาการบ้านหมุนให้หายขาด 1. หันศีรษะ 45 องศาอย่างช้าๆ เริ่มต้นด้วยการตั้งศีรษะตรง และค่อยๆหันศีรษะไปทางซ้าย 45 องศา จากนั้นค่อยๆหันไปทางขวา ทำเช่นเดียวกัน 2. นอนหงาย จากนั้นให้นอนหงายโดยเร็ว เพื่อให้ลำคอและไหลผ่อนคลาย เอียงศีรษะไปให้หูข้างที่ได้รับผลกระทบจากอาการวิงเวียนบ้านหมุน สัมผัสหมอนนาน 30 วินาที แล้วเอียงศีรษะอีกข้างให้หูสัมผัสหมอนนาน 30 วินาที 3. พลิกตัว จากนั้นพลิกตัวไปด้านเดียวกับศีรษะที่เอียงอยู่ แล้วอยู่ในท่าตะแคงนี้นาน 30 วินาที 4. ทำซ้ำ เริ่มทำจาก 1-3 วันละ 3 ครั้ง เพื่อให้หายขาดจากอาการวิงเวียนบ้านหมุน ซึ่งท่าเหล่านี้เป็นท่าที่นักกายภาพบำบัดใช้รักษาผู้ป่วย แต่คุณสามารถทำเองได้โดยไม่ยุ่งยากและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพทั้งหมด ทางเว็บไซต์ได้รวบรวมไว้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปใช้นำไปอ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยของแพทย์ได้ หากมีการนำข้อมูลในเว็บไซต์ไปใช้ ทางเว็บไซต์จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากการนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในทุกกรณี โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม และควรต้องทราบว่า ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับคนไข้ทุกๆคน ที่มา:share-si.com