Home »
Uncategories »
11 ผักและสมุนไพรที่ควรกินหน้าหนาว เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยของกินใกล้ตัว
11 ผักและสมุนไพรที่ควรกินหน้าหนาว เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยของกินใกล้ตัว
ผักที่ควรกินหน้าหนาว ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายจากอาหารที่ใกล้ตัว พร้อมสมุนไพรมีฤทธิ์ร้อน คลายหนาวคูณสองไปเลย
อากาศที่เปลี่ยนจากร้อนเป็นหนาว ส่งผลให้หลายคนคัดจมูก เป็นหวัด
ไม่สบายกันยกใหญ่ ยิ่งในพื้นที่ที่ไม่ค่อยเจออากาศหนาว ๆ
ภูมิต้านทานต่อความหนาวอาจมีเลเวลไม่สูงเท่าไร
ฉะนั้นหากใครทนหนาวไม่ค่อยไหวในฤดูหนาวนี้
ต้องจัดผักและสมุนไพรแก้หนาวสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ มาดูกันว่าผักที่ควรกินหน้าหนาว และสมุนไพรช่วยคลายหนาวจะมีอะไรบ้าง
1. กะเพรา
กะเพราเป็นผักสวนครัวกลิ่นหอม
มีรสเผ็ดร้อนในตัว มีกลิ่นฉุนที่ดมแล้วโล่งไปทั้งจมูกและคอ
อีกทั้งกะเพรายังเป็นผักที่หาง่าย ราคาถูก ทำเมนูกะเพราสิ้นคิดก็ดี
ใส่ใบกะเพราลงในต้มยำ ต้มแซ่บก็หอมอร่อย
ที่สำคัญใบกะเพรานี่แหละค่ะที่จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายจากฤทธิ์ร้อนในตัวใบกะเพราเอง
2. ยอดมะขาม
ยอดมะขามมีรสเปรี้ยวที่พอเหมาะ
ยิ่งหากนำมาต้มยำ ใส่พริก ใส่ข่าลงไปด้วย
ก็จะมีความกล่อมกล่อมและมีประโยชน์ช่วยคลายหนาวได้มาก
เนื่องจากรสเปรี้ยวที่พอเหมาะจะช่วยปรับสมดุลของธาตุทั้งสี่ในร่างกาย
เพิ่มการไหลเวียนของเลือดช่วยให้รู้สึกอุ่นจากภายใน
อีกทั้งยอดมะขามยังมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาเสมหะในลำคอด้วยนะคะ
และมีวิตามินซีสูงจึงช่วยเสริมภูมิต้านทานป้องกันโรคหวัดได้
ดังนั้นใครที่หนาวจนไม่ไหวจะเคลียร์ ลองกินเมนูแกงเลียงยอดมะขาม
หรือต้มยำไก่ยอดมะขามก็ได้
3. ผักกระเจี๊ยบ
ผักกระเจี๊ยบหรือส่วนใบของกระเจี๊ยบแดงมีรสเปรี้ยวที่พอเหมาะต่อการปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกาย
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้เช่นกัน
จึงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้
เพราะเลือดลมไหลเวียนอย่างสะดวกมากขึ้นนั่นเอง
โดยสมัยโบราณมักจะนำใบกระเจี๊ยบมาต้มจ้มน้ำพริกกินเป็นอาหาร
หรือทำเมนูแกงส้มผักกระเจี๊ยบก็ได้รสชาติที่ดี ซดน้ำแกงแล้วคล่องคอ
ช่วยขับเสมหะ ลดอาการไอได้อีกต่างหาก
4. มะระ
ผักพื้นบ้านอย่างะระที่มีรสขมจัด
ก็เป็นตำรับอาหารคลายหนาวมาตั้งแต่สมัยโบราณเช่นกันค่ะ
เรื่องจากมะระมีทั้งรสขมและรสเปรี้ยว
ช่วยให้ธาตุทั้งสี่ในร่างกายมีความสมดุล ยิ่งถ้าได้ซดต้มมะระร้อน ๆ
ความอบอุ่นก็จะเพิ่มขึ้นทันทีในร่างกายเราเลยล่ะค่ะ
5. สะเดา
สะเดาก็เป็นผักที่มีรสขมผสมรสเปรี้ยว
มีสรรพคุณช่วยเสริมธาตุในร่างกายให้แข็งแรง
ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง
มีภูมิต้านทานต่ออากาศหนาวและโรคหน้าหนาวได้เป็นอย่างดี
แถมสะเดายังเป็นผักที่ต้มกินกับน้ำปลาหวาน คู่กับปลาดุกย่าง เลอค่า
แก้หนาวพร้อมความอร่อย
6. พริก
พริกมีความเผ็ดร้อนจากสารแคปไซซิน
ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
และยังช่วยบรรเทาอาการหนาวชาบริเวณปลายมือ-ปลายเท้าได้ด้วยล่ะ
ซึ่งวิธีการกินพริกแก้หนาวแนะนำให้กินเมนูที่มีพริกเป็นส่วนประกอบค่ะ เช่น
ต้มยำ ลาบ ส้มตำ หรือต้มแซ่บ เป็นต้น
7. พริกไทย
พริกไทยจัดเป็นเครื่องเทศและสมุนไพรที่มีรสร้อน
จึงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้อย่างง่ายดาย
โดยสามารถกินทั้งพริกไทยป่น หรือพริกไทยสดก็ได้
โดยถ้าเป็นพริกไทยป่นควรใช้ประมาณครึ่งช้อนชาต่อหนึ่งมื้ออาหาร
ผสมลงไปในอาหารแต่ละมื้อ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อความหนาว
เกิดความอบอุ่นภายในร่างกายให้หายหนาวสั่น
ขิงมีฤทธิ์ร้อน
อีกทั้งสารเคอร์คูมินในขิงยังช่วยลดอาการอักเสบ
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง แก้ไข้หวัด บรรเทาอาการไอ ช่วยขับลม
แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้อีกด้วย และในช่วงอากาศหนาว ๆ แบบนี้
ก็สามารถนำขิงมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะนำไปชงดื่มเป็นชาร้อน ๆ
จะเติมในอาหารที่รับประทาน
ก็ล้วนแต่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ทั้งนั้นเลย
ข่าเป็นสมุนไพรที่มีรสร้อนเหมือนขิง
มีสรรพคุณช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมูก แก้หอบหืด
จึงเหมาะมากที่จะกินข่าในหน้าหนาว เพราะไม่เพียงแต่ช่วยคลายหนาวได้เท่านั้น
แต่ข่ายังมีสรรพคุณบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลได้อีกด้วย
กระชายเป็นสมุนไพรที่ให้รสเผ็ดร้อน
เมื่อทานไปแล้วสามารถทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้นได้
ดังนั้นถ้าต้องการให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
จึงควรรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย
ซึ่งกระชายถือเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว แถมยังทำได้หลายเมนูด้วยล่ะ
11. ยี่หร่า
เครื่องเทศที่มีฤทธิ์ร้อนอย่างยี่หร่า
จะเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย
ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ควรระมัดระวังเรื่องความเผ็ดร้อน
เพราะถ้าหากเติมเครื่องเทศเหล่านี้มากเกินไปจนเผ็ดมาก ๆ
แทนที่จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
ก็อาจจะทำให้เกิดเหงื่อออกและสูญเสียความร้อนที่ระบายออกมาผ่านเหงื่อได้ค่ะ
นอกจากผักที่ควรกินหน้าหนาวทั้ง
11 ชนิดนี้แล้ว เราก็ควรทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อย่างส้ม ฝรั่ง
จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และที่สำคัญก็คือ
ในฤดูหนาวก็อยากให้เลี่ยงอาหารประเภทไขมันทุกชนิด เพราะอาหารมัน ๆ ทอด ๆ
อาจเพิ่มโอกาสการเกิดเสมหะ หรือกระตุ้นการเกิดเสมหะในคนที่มีเสมหะ
มีอาการหวัดอยู่แล้ว
รวมไปถึงการดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาวก็ไม่สมควรทำเช่นกันค่ะ
เพราะการดื่มเหล้าแก้หนาวจะยิ่งเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อน
ส่วนที่ดื่มแล้วรู้สึกตัวอุ่นขึ้นนั้น
เพราะหลอดเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัวอย่างหนัก
เพื่อให้ความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมาได้ง่ายขึ้น
ซึ่งเมื่อความร้อนในร่างกายถูกระบายออกมามาก ๆ
จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติ ยิ่งดื่มมาก
ก็ยิ่งทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงมาก เมื่อเราหลับ
ร่างกายที่สัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานานจึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก