Home »
Uncategories »
“แม่ครับพรุ่งนี้แล้วที่ผมจะต้องถูกประหารแล้ว” คำพูดจากเด็กที่ไม่เคยโต อยากให้ทุกคนอ่าน
“แม่ครับพรุ่งนี้แล้วที่ผมจะต้องถูกประหารแล้ว” คำพูดจากเด็กที่ไม่เคยโต อยากให้ทุกคนอ่าน
“แม่ครับ พ รุ่ งนี้แล้วที่ผมจะต้องถูกประห ารแ ล้ ว” คำพูดจากเด็กที่ไม่เคยโต อยากให้ทุกคนอ่ า น
คุณพ่อ คุณแม่ครับ
พรุ่งนี้แล้วที่ผมจะต้องถูกประห าร
ผมไม่ทราบว่าเส้นทางชีวิตของผมเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตอนนี้ภาพในอ ดี
ตค่อยฉายออกมาทีละภาพผ่านสมองของผม
ต อน 3 ขวบ ผมจำได้รางว่า ผมวิ่งเร็วเกินไปจนสะดุดก้อนหินหกล้ม พ่อรีบอุ้มผมขึ้นมาปลอบ แล้วพ่อใช้ขาเตะก้อนหินสองที และพุดว่า “ไม่ต้องร้องไห้ ก้อนหินก้อนนี้แ ย่ จริง พ่อลงโทษให้แล้ว”
ต อ
นแรกผมก็ตั้งใจจะกลั้นน้ำตาไม่ยอมร้องไห้
แต่พอเห็นเหตุการณ์กลายเป็นเช่นนั้น ผมก็เลยกอดพ่อแน่นร้องไห้อยู่นาน
เพราะพ่อทำให้ผมเข้าใจว่า การที่ผมห ก ล้ ม ไม่ใช่เพราะผมไม่ร ะวั ง
แต่เป็นความผิดของก้อนหิน แต่ผมไม่รู้ว่า มัน
เป็นการปลอบใจจากพ่อเพื่อไม่ให้ผมร้องไห้
ต อน 4 ขวบ
ผมเอาแต่นั่งเฝ้าดูทีวี จนไม่ยอมกินข้าว
แม่ยกชามข้าวมาป้อนให้ผมทีละคำถึงหน้าจอทีวี แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า
ชีวิตสามารถห าความสุขได้ด้วยวิธีนี้ แต่ผมไม่รู้ว่า แม่ กลัวว่า ผมจะหิว
เดี๋ยวก็ต้องมาวุ่นวายห าข้าวให้ผมกินทีหลัง
ตอน 6 ขวบ
พ่อพาผมไปซื้อของขวัญคริสต์มาส ตกลงกันว่า จะให้ผมซื้ อได้หนึ่งอย่าง
แต่พอผมได้ตุ๊กตาอุลต้าแมนแล้ว ผมยังอย า กได้เครื่องร่ อ นอีก
พอพ่อไม่ยอมให้ ผมก็ลงไปนอนกองกับพื้นร้องไ ห้ไม่ยอมหยุด
สุดท้ายพ่อก็ต้องซื้ อให้ผมทั้งสองอย่าง พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า
การใช้วิธีนี้จะทำให้ผมได้ในสิ่งที่อย า กได้ แต่ผมไม่รู้ว่า พ่อ
กลัวว่าการกระทำของผมจะทำให้พ่อขายขี้หน้าต่อหน้าคนอื่น
ต อน 8 ขวบ
ผมคิดอยากจะซักถุงเท้าของผม แต่แม่กลัวว่า ผมจะซักไม่ส ะ อ าด ผมอย า
กช่วยล้างจาน แม่กลัวผมจะทำจานแตก ผมอย า กเทน้ำร้อนให้ตัวเอง
แต่แม่กลัวผมโดนน้ำร้อนลวก แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า ผมไม่สามารถทำงานย าก
หรืองานที่ดูเหมือนมีอันต ร าย แต่ผมไม่รู้ว่า แม่ ไม่อย า
กเสียเวลามานั่งแ ก้ไขงานให้ผม
ต อน 10 ขวบ
พ่อพาผมไปสมัครเรียนพิเศษสามแห่ง และเรียนกิจก ร ร มพิเศษอีกสองแห่ง
ทุกวันผมจะกลับถึงบ้านด้วยความอ่อนล้า พ่อบอกผมว่า คนเราต้องอดทน
จะได้เป็นเจ้าคนนายคน พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า การศึกษาเป็นเรื่องที่ยากหนักหนา
และน่าเ บื่ อมาก แต่ผมไม่รู้ว่า พ่ออยากให้ผมดูโดดเด่นต่อหน้าญาติมิตร
ต อนอายุ 13 ผมเตะบอลไปทำกระจกหน้าต่างข้างบ้านแตก พ่อพาผมไปกล่าวคำข อโ ท ษ แล้วจ่ายค่าเสียห ายไปพ่อทำให้ผมเข้าใจว่า กล่าวคำว่า “ข อโท ษ” แล้วทุกอย่างก็จบสิ้นได้แบบง่ายดาย แต่ผมไม่รู้ว่า พ่อบ่นว่าเพื่อนบ้านถือโอกาสเรียกค่าเ สี ยห ายมากเกินไป
ตอนอายุ 15 ผมอย า
กเรียนเ ปียโนเหมือนเพื่อน แม่ไปขอยืมเงินญาติ แล้วซื้อเ
ปียโนให้ผมหลังหนึ่ง แต่ผมเล่นได้ เดือนสองเดือนก็เบื่อแล้ว ไม่ยอมเล่นต่อ
แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า แม้ที่บ้านมีเงินไม่มาก แต่ก็สามารถใช้จ่ายได้อย่างสุ
รุ่ย สุ ร่าย แต่ผมไม่รู้ว่า
ที่บ้านต้องใช้เวลาสามปีกว่าจะจ่ายหนี้ก้อนนั้นจนหมด
ตอนอายุ 19
ผมกำลังจะสอบเอนทรานซ์เข้ามห าวิทย าลัย พ่อบอกว่า เป็นทนายความ
จะช่วยให้ฐานะทางสังคมสูงขึ้น พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า ผม
ทำตามเส้นทางที่พ่อวาดหวังไว้ก็พอ แต่ผมไม่รู้ว่า
นั่นเป็นเพราะพ่ออยากเติมเต็มความฝันให้ตนเอง
เพราะพ่อสอบไม่ติดตอนเป็นหนุ่ม
ตอนอายุ 20
ผมบอกแม่ว่า อยากได้มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด ผมอ้างว่าจะได้โทรกลับบ้านบ่ อ ย
แม่ส่งเงินมาให้ผมสามหมื่นบาททันที แต่ผมโทรกลับบ้านปีละไม่กี่หน
แทบทุกครั้งจะเป็นการขอเงินเพิ่ม แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า
พ่อแม่เป็นตู้กดเงินชั้นเ ยี่ย มของผม แต่ผมไม่รู้ว่า
พ่อแม่ได้แต่เฝ้ารอโทรศัพท์จากผมด้วยความคิดถึง
ตอนอายุ 24 พอเรียนจบ
พ่อก็ช่วยฝากงานให้ผมได้ทำงานในบริษัทใหญ่โต พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า
ไม่ต้องตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีก็สามารถห างานดีทำได้ แต่ผมไม่รู้ว่า
พ่อต้องอาศัยเส้นสายขนาดไหนกว่าจะฝากผมเข้าทำงานได้
ตอนอายุ 27
ผมเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น พวกสาวมักบ่นว่า ผมเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ
แม่บอกผมว่า พวกเขาไ ม่คู่ควรกับผม แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า
ผมเป็นผู้ชายที่มีคุณสมบัติเลอเลิศ แต่ผมไม่รู้ว่า ผมเป็น
ผู้ชายไม่เอาไหนที่ห าความดีแทบไม่ได้
คำพูดจากเด็กที่ไม่เคยโต
ตอนอายุ 32 ผมเป็นหนี้
พ นัน บ อ ลเป็นล้าน พ่อโกรธจนล้มป่ว ย
แต่สุดท้ายพ่อก็ช่วยผมเคลียร์หนี้จนหมด พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า
ไม่ว่าผมจะทำอะไรผิด พ่อจะคอยช่วยแ ก้ปัญห าให้ผมได้เสมอ แต่ผมไม่รู้ว่า
นั่นเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่พ่อแม่เตรียมไว้ใช้ในย ามแก่
ตอนอายุ 35 พ่อแม่ช่วยอะไรผมไม่ได้อีกแล้ว ผมกับเพื่อนเข้าไปปล้นร้านค้า แล้วผมไปนิงเจ้าของร้าน ต ายคาที่
ศาล ตั ดสินประห ารชีวิตผม พ่อแม่ตะโกนด่
าว่า ช่างไม่ยุติธ ร ร มต่อครอบครัวเราเลย ท่านลำบากมาทั้งชีวิต
แต่ต้องได้รับผลก ร ร มที่ไร้ความปราณี
ในที่สุดผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า เพราะท่ า นใช้ “ค ว ามรัก”
แ ย่ งเอาโอกาสที่ผมจะเติบโตเป็นผู้เป็นคนครั้งแล้วครั้งเล่า แ ย่ ง
เอาความสามารถในการอยู่รอดด้วยตัวผมเองครั้งแล้วครั้งเล่า แ ย่
งเอาความรับผิดชอบในตัวของผมเองครั้งแล้วครั้งเล่า
วิธีการรักลูกแบบผิด
สุดท้ายแลกมาซึ่งความเจ็ บ ป วดของเราทั้งสองรุ่น
ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวอีกแล้วจากการสอนสั่งที่ผิด
มันเป็นมือของพ่อแม่ผมเองที่ส่งผมขึ้นไปยังแท่นประหารอย่างไม่ได้ตั้งใจ
พ่อครับ แม่ครับ ก รุ ณ า
ดูแลตัวเองให้ดี ผมคงต้องขอลาจากท่านแล้วในวันพรุ่งนี้ หวังว่าในภ
พหน้าของผม ผมจะได้เรียนรู้วิธีการรับผิ ดช อ บในตัวผมเอง สำหรับชาตินี้
ผมไม่แน่ใจว่า ผมควรจะโ ก รธท่านหรือรักท่านกันแน่ อย่างไรก็ตาม
ลูกต้องกราบขออโ หสิก ร ร มที่ได้ก่อก ร ร
มให้ท่านต้องเสียใจกับลูกคนนี้มาตลอดชีวิต
…จ า กลูกที่กำลังจะจากท่านไป
ขอขอบคุณ : ขจรศักดิ์