Home »
Uncategories »
ลูกสาว 2 ขวบ เริ่มติดแท็ปเล็ต ผมจึงปรึกษาจิตเวชเด็ก
ลูกสาว 2 ขวบ เริ่มติดแท็ปเล็ต ผมจึงปรึกษาจิตเวชเด็ก
สาเหตุที่ผมไม่ให้ลูกสาวเล่นสมาร์ทโฟน
และแท็ปเล็ตนี่ต้องเล่าย้อนไปเมื่อราว 3 ปีก่อน
ลูกน้อยยังซุกตัวอยู่ในท้องคุณแม่เป็นเดือนที่ 7
ครั้งนั้นผมมีโอกาสได้ติดรถรุ่นพี่คนหนึ่งไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยกัน
พี่เค้าเลยถือโอกาสพาลูกชายวัย 5 ขวบไปเที่ยวด้วย
แต่เนื่องจากเรานัดกันเช้ามากหนูน้อยเลยถูกอุ้มจากเตียงมานอนต่อในรถ
เวลาผ่านไปราวชั่ วโมงนึง เด็กน้อยก็ตื่นมาด้วยสีหน้างงว่าตัวเองอยู่ที่ไหนมาทำอะไร แต่คำแรกที่เค้าพูดขึ้นมาก็คือ
“พ่อ แท็ปเล็ตอยู่ไหน”
พ่อเด็กตอบกลับว่า “สวัสดีอาก่อนสิลูก”
เด็กน้อยสวนทันควัน “ไม่ เอาแท็ปเล็ตมา”
พ่อเลยเริ่มดุ “เด็กไม่ดี พ่อไม่ให้หรอก”
แล้วเจ้าหนูน้อยก็เริ่มอาละวาดอยู่ที่เบาะหลัง ร้ อ ง ไ ห้ โ ว ย ว า ย ทุบเบาะ พลางตะโกน “เอาแท็ปเล็ตมา หนูเ ก ลี ຍ ด พ่อแล้ว พ่อไม่รักหนูจอดรถเดี๋ยวนี้ หนูจะลงตรงนี้”
อาละวาดอยู่ได้สัก 2 นาที
ตัวพ่อก็ใจอ่อนหยิบแท็ปเล็ตส่งให้ เท่านั้นแหละกลายเป็นคนละคน นั่งเล่นเกม
เปิดยูทิวบ์ดูการ์ตูน เงียบกริบจนผมนึกว่าหลานลงจากรถไปแล้ว
หลังจากที่เด็กน้อยได้แท็ปเล็ตไปครอบครองเค้าก็ไม่วางมันอีกเลย
ทั้งตอนจอดกินข้าวก็ต้องให้พ่อป้อนเพราะมือไม่ว่าง
ทั้งระหว่างรอพ่อประชุมเป็นชั่
วโมงก็ไม่มีเสียงบ่นสักแอะแท็ปเล็ตนี่มันช่างวิเศษจริง
หลังเหตุการณ์นั้นไม่กี่วัน
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทาง จิ ต เวชเด็ก
ผมเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอมาให้เธอฟัง คุณหมอถอนหายใจแล้วพูดกับผมว่า
“พี่รู้ป่ะ วันนี่หนูไม่ต้องทำอะไร นั่ง บำ บั ด เด็ก ติ ด เกม ติ ด แท็ปเล็ต มือถือนี่แหละ” ในฐานะที่ผมเป็นว่าที่คุณพ่อผมจึงสนใจฟังเธอเป็นอย่างมาก ขอสรุปให้ฟังสั้นเท่าที่พอจะจำได้ว่า
1. เด็กมักจะสมาธิสั้น
เพราะแท็ปเล็ตสามารถตอบสนองความต้องการได้รวดเร็วดั่งใจ
เพียงปลายนิ้วสัมผัส อย า กเปลี่ยนเกม อย า กเปลี่ยนไปดูการ์ตูนตอนอื่น เ
รื่ อ งอื่น เพียงลากนิ้วเบาก็ได้ดั่งใจแล้ว เด็กจึงไม่ได้เรียนรู้การรอ
การตั้งใจดูหรือเล่นอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ
2. เด็กมักก้าวร้าว
อันนี้ขึ้นกับว่าเล่นเกมที่มีความรุ นแร งเกินวุฒิภาวะรึเปล่า
เด็กมักจะจดจำสิ่งที่ตัวละครในเกมทำไปเล่นในชีวิตจริงบ้างโดยลืมไปว่า
คนจริงนั้นเจ็ບได้ เสียใจได้ ต า ยได้ และไม่สามารถกดรีเซ็ทได้เหมือนในเกม
ส่วนที่ก้าวร้าวอีกแบบคือ
ติดเกมมากจนแสดงออกแบบก้าวร้าวเพื่อให้ได้เล่นเกม
แล้วผลที่ได้คือพ่อแม่ก็ยอมให้เล่น เด็กจึงจำว่าต้องก้าวร้าวแล้วจะได้เล่น
3. เด็กมักจะเก็บกด
หมกมุ่น และข า ดการปฎิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เข้าหาใครไม่เป็น
ผูกสัมพันธ์กับคนอื่นไม่เป็น เพราะข า ดการเรียนรู้กระบวนการเหล่านี้
เนื่องจากเกมและแอ็พต่างไม่ได้สอน
ผมตั้งใจฟังคุณหมอเล่าแล้วก็ตั้งปฎิญาณตนเลยว่าจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิດขึ้นกับครอบครัวเราเด็ดข า ด
แต่เมื่อเวลาผ่านไป
ลูกน้อยของเราโตขึ้นทุกวัน แม้ว่าตัวผมกับภรรย าจะไม่ได้ให้ลูกเล่นมือถือ
แท็ปเล็ต แต่เรานี่แหละที่ใช้มันให้ลูกเห็นทุกวัน
จนวันนึงเค้าก็เอ่ยปากขอว่า “หนูอย า กดูเอบีซียูทูปค่ะ” แล้วเราก็เปิดให้เค้าดูเพราะหวังว่าการฟังเพลงภาษาอังกฤษนั้นจะเป็นประโยชน์กับเด็ก
แล้วเด็กน้อยก็เริ่มขอดูทุกคืนก่อนนอน
ยิ่งนับวันยิ่งขอดูบ่อยขึ้นถี่ขึ้น เล่นโทรศัพท์เป็นมากขึ้น
เริ่มกดเลือกเพลงเองเป็น กดหยุด กดเปลี่ยนเพลงเป็น
จนผมเริ่มรู้สึกว่าเด็กน้อยเริ่มติดมันเข้าแล้ว
ผมจึงเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับภรรย
าอย่างจริงจังเพื่อออกมาตรการหักดิบ ด้วยการงดเล่นโทรศัพท์ให้ลูกเห็น
ห้ามลูกจับโทรศัพท์และแท็ปเล็ตของพ่อกับแม่เด็ดข า ด ไม่ว่าลูกจะขอร้อง
อ้อนวอน หรือร้องไห้โวยวายก็ห้ามใจอ่อน
ทั้งตัวพ่อและแม่ปฎิบัติตามมาตรการนี้ได้เป็นอย่างดี
ถึงขั้นที่ผมต้องไปแชทไลน์คุยงาน ตอบลูกค้าในห้องน้ำนานเกือบชั่
วโมงก็เคยทำมาแล้ว ทั้งต้องพย าย ามหาสิ่งอื่นมาดึงดูดความสนใจของเค้า
ไม่ว่าจะพาเล่นกีตาร์ ร้องเพลง ปั่นจักรย าน เล่นการ์ดคำศัพท์ อ่ า นนิทาน
ซึ่งต้องใช้เวลาเยอะกว่าการส่งแท็ปเล็ตให้เค้าเล่นอย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผลที่ได้คือ
เด็กน้อยเข้าใจแล้วว่าโทรศัพท์มึไว้ใช้งาน ใช้คุยงาน
ใช้คุยกับคนที่เราคิดถึง ไม่ได้มีไว้เล่นไว้ดูการ์ตูน
และไม่เคยขอเล่นอีกเลย
แถมหลายครั้งที่เห็นปู่เล่นแท็ปเล็ตยังเข้าไปเรียกปู่ว่า “ปู่
มาเล่นกับหนูดีกว่า” แล้วก็ชวนปู่ไปวาดรูป อ่ า นนิทาน
สนุกสนานตามธรรมชาติของเด็ก
ข้ อ คิ ด หนึ่งของผมจากเหตุการณ์ข้างต้นนี้คือ
“สำหรับเด็กน้อย
พ่อกับแม่คือโลกจริงของเขา
ลูกควรจะได้เรียนรู้ทุกอย่างผ่านโลกจริงใบนี้อย่างถ่องแท้ก่อนจะเริ่มไปเรียนรู้โลกเสมือนจากอินเทอร์เน็ต”
มือของพ่อแม่มีหน้าที่ประคองมือน้อยของลูกขีดเขียนตัวหนังสือ
และรูปต่าง แล้วมือน้อยนั้นก็จะได้รับรู้ทั้งความอบอุ่นจากมือ อ้อมแขน
น้ำเสียงของพ่อแม่ไปพร้อมกับการขีดเขียนนั้น
ซึ่งคงดีกว่าปล่อยให้มือเล็กนั้นสไลด์ไปบนหน้าจอโทรศัพท์หรือแท็ปเล็ตเพียงลำพัง
และสัมผัสได้เพียงไออุ่นจากความร้อนของจอสี่เหลี่ยมอย่างแน่นอน
ครั้งต่อไปที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายต้องเลือกว่าจะยื่นกระดาษกับดินสอสีแล้วใช้เวลาร่วมกับเค้า
หรือยื่นแท็ปเล็ตให้ลูกไปนั่งดูเงียบ
พึงระลึกไว้สักหน่อยว่าเด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้าคุณนั้นไม่เคยขอคุณมาเกิດเลย
มีแต่พ่อแม่อย่างเรานี่แหละที่นับวันเฝ้ารอวันที่จะได้เห็นหน้าเค้า
ดังนั้นจงมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้เค้าเถิด
สิ่งมีค่าที่ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหน”เวลา”
ด้วยรักและปรารถนาดี
จากพ่อน้องจันทร์เจ้า