ผักพื้นบ้าน นำมาแช่น้ำ ดื่มน้ำกระเจี๊ยบเขียว ที่เป็นอยู่หายได้

กระเจี๊ยบเขียว เป็นผักพื้นบ้านที่ถูกนำมาบริโภคอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะนำมาลวกกินกับน้ำพริก นำไปย่าง ต้ม แกง หรือผัด สามารนำไปทำอาหารได้อย่างหลากหลาย ซึ่งหลายๆคนที่ได้กินต่างก็ติดใจในรสชาติและจัดให้เป็นอาหารสุดโปรดเลยทีเดียว

ส่วนของกระเจี๊ยบเขียวที่นิยมนำมารับประทานกันนั้นคือส่วนของผลหรือฝัก ซึ่งมีทรงเรียวยาว ปลายฝักแหลมเป็นจีบ ผิวฝักมีเหลี่ยมเป็นสัน ตามฝักจะมีขนอ่อน ๆ อยู่ทั่วฝัก ฝักอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ในฝักมีน้ำเมือกข้นเหนียวและมีเมล็ดลักษณะกลมอยู่มาก ฝักอ่อนมีรสหวานกรอบอร่อย ส่วนฝักแก่จะมีเนื้อเหนียว ไม่เป็นที่นิยมในการรับประทาน

ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว

1 ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย

ส่วนที่เป็นเมือกลื่นของกระเจี๊ยบเขียวมีใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำอยู่มาก ทำให้เมื่อรับประทานเข้าไปจะไม่ถูกย่อย จึงทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น และสามารถถ่ายออกมาได้ง่ายกว่าปกติ

2 ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในโลหิต

เนื่องจากในฝักกระเจี๊ยบเขียวมีเส้นใยอยู่มาก จึงช่วยรักษาระดับการดูดซึมน้ำตาลให้คงที่ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างยิ่ง

3 ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอล

เพราะเส้นใยของกระเจี๊ยบจะช่วยจัดการไขมันปริมาณสูงกับน้ำดี จึงมีส่วนช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลได้

4 ช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร

เมือกลื่นจากฝักกระเจี๊ยบจะช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ทำให้ไม่เกิดการระคายเคือง

5 ช่วยลดอาการกรดไหลย้อน

ทำโดยการนำฝักกระเจี๊ยบมาต้มในน้ำเกลือแล้วใช้กินแก้อาการอาการกรดไหลย้อน

6 การรับประทานกระเจี๊ยบเขียวเป็นประจำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะสามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกายได้

7 ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน เนื่องจากในกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีวิตามินเคสูง ซึ่งจะช่วยให้กระดูกดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น

8 ช่วยป้องกันอาการหลอดโลหิตตีบตัน

9 ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต รักษาความดันให้เป็นปกติ

ข้อควรระวังในการทานกระเจี๊ยบ

1 ในกระเจี๊ยบเขียวมีออกซาเลตสูง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดนิ่วในไตได้

2 คนที่กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของโลหิตไม่ควรรับประทานกระเจี๊ยบเขียวมากเกินไป

3 ผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการใช้กระเจี๊ยบเขียวช่วยลดระดับน้ำตาลในโลหิต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

สูตรน้ำกระเจี๊ยบเขียว แก้โ ร ค เ บ า ห ว า น

1 กระเทียมต้น (Leek) 1 ต้น

2 กระเจี๊ยบเขียวสด 2 ชิ้น

3 น้ำแร่บรรจุขวด 1 ลิตร

4 รากต้นหอม

วิธีทำ

1 ล้างกระเทียมต้นให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะ แล้วนำไปพักไว้ในถ้วย

2 เทน้ำแร่ลงไปแช่รากต้นหอม

3 ตัดปลายของกระเจี๊ยบเขียวใส่ลงไปในน้ำแร่ และปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

วิธีใช้

1 ดื่มส่วนผสมนี้สำหรับรักษาโรคเบาหวานแทนน้ำปกติทุกๆ เช้า หรือตลอดทั้งวันจนกว่าจะหมด และทำใหม่ สำหรับใช้ดื่มในเช้าวันต่อไป

เรียบเรียงโดย : postsara

ขอขอบคุณ : medthai, honestdocs, springnews

 

 

Related Posts :

  • วิธีทำ น้ำพริกอ่องปลากระป๋องส่วนผสม (สำหรับ 1 ถ้วย)ปลากระป๋องหั่นเป็นชิ้นพอคำพร้อมน้ำซอส 1 กระป๋องพริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดเมล็ดออกแช่น้ำ 6 เม็ดหอมเล็ก 4 หัวกระเทียม 10 - 12… Read More...
  • วิธีทำ ข้าวขาหมู(แบบมันน้อย)ข้าวขาหมูแบบไม่ใช้ขาหมู ใช้เนื้อสันนอกและหมูสามชั้นปนลงไปนิดหน่อยค่ะ เคี่ยวนานจนหมูสุกนุ่มเลยนะ รสชาติอาจจะไม่เข้มข้นเหมือนใช้ขาหมู แต่ก็อร่… Read More...
  • วิธีทำ ไข่ตุ๋นทรงเครื่องส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)ส่วนผสมไข่ตุ๋นไข่ไก่ 1 ฟองน้ำสต๊อกไก่ 1 ถ้วยซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชาพริกไทยขาวป่น ½ ช้อนชาวิธีทำ1. ตอกไข่ใส่ภาชนะ ใช้ส้อมตีใ… Read More...
  • วิธีทำ ยำกุนเชียงส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)กุนเชียงหั่นแว่นทอดพอเหลือง ½ ถ้วยแตงกวาปาดไส้ทิ้งหั่นชิ้นพอคำ ¼ ถ้วยหอมแขกหั่นเส้น ¼ ถ้วยพริกขี้หนูสวนซอยละเอียด 2 ช้… Read More...
  • วิธีทำ ซาลาเปาไส้หมูสับระยะเวลา 2 ชม.ขึ้นไป สำหรับ 15-16 ลูกวัตถุดิบซาลาเปาไส้หมูสับตัวแป้ง 1. แป้งสาลีชนิดเบา (ร่อน) 2 1/2 ถ้วย2. ยีสต์แห้ง 1 1/2 ช้อนชา3. น้ำมันห… Read More...