‘ทำงานถวายหัว ไม่เหลือเก็บ’ กลับบ้านนอกเลี้ยงเป็ด มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้

มีใครหลายคนนั้นก็อยากจะละทิ้งการทำงานหน้าคอมกันอยู่เป็นประจำเลยใช่ไหมคะแต่หลายคนนั้นก็กำลังกลัวกับสิ่งที่จะต้องพบเจอว่าถ้าออกไปแล้วกลับไปทำอะไรที่บ้านเกิดของตัวเองแล้วจะทำอะไรได้บ้างซึ่งในวันนี้เราก็จะมีเรื่องราวที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคน

วันนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับคุณ ยณัฐรท หรือ บูม ชายหนุ่มอายุ 29 ปีจังหวัดเพชรบุรีโดยข่าวนักเรียนจบจากคณะนิติศาสตร์และมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯซึ่งหลังจากที่เขาเรียนจบนั้นก็ได้ไปทำงานที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตัดต่อข่าวและโฆษณาและได้รับเงินเดือน23,000 บาท

ซึ่งในขณะที่เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯนั้นก็รู้สึกว่าเงินเดือนแค่นี้กับการมีชีวิตอยู่กรุงเทพต้องพบกับค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างมากมายทั้งค่ากินค่าอยู่ในจะค่าเดินทางซึ่งแน่นอนว่านั่นก็ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายจึงทำให้การทำงานของบูมในกรุงเทพฯนั้นทำได้แค่ไม่กี่ปีก็ลาออกตัดสินใจกลับมาบ้านที่ต่างจังหวัดและเริ่มต้นทำงานด้านเกษตรด้วยการเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่และขุดบ่อปลาเป็นหลัก

และการที่เขากลับมาตัดสินใจทำบ้านส่วนของตัวเองแบบนี้นั้นไม่ได้เกี่ยวกับเงินเดือนเป็นหลักแต่พอด้วยความที่เขานั้นรักงานทางด้านเกษตรมาก่อนโดยเฉพาะกับการอยู่ร่วมในธรรมชาติและเพียงแค่เห็นต้นไม้ทุ่งนาและได้เลี้ยงข้าวสารก็สามารถสร้างความสุขให้กับเขาแล้วและเขายังมีที่ดินอยู่ 4 ไร่จึงได้กลับมาพัฒนาที่ดินในให้เป็นร้านของตัวเอง

โดยเริ่มแรกที่ดินแห่งนี้นั้นเป็นที่ดินตาบอดจึงจำเป็นจะต้องขอทางเข้าออกจากเจ้าของเจ้าของที่ใกล้เคียงโดยในช่วงแรกที่กลับมาทำเกษตรนั้นทุกคนก็ต่างคัดค้านและไม่เห็นด้วยยกเว้นพี่ชายที่คอยสนับสนุนอยู่เสมอเพราะหลังจากที่วางของเขาเป็นรูปเป็นร่าง พี่ชายยังตั้งชื่อฟาร์มให้ด้วยว่า ฟาร์มนี้พี่รัก ที่จริงไม่ได้เป็นฟาร์มที่พี่รัก เขาก็รัก เพราะบุกเบิกมาด้วยตนเอง

โดยจุดเริ่มต้นในการบุกเบิกความของเขาก็เริ่มจากการที่เขาไปกางเต็นท์นอนและขอน้ำไฟจากบ้านข้างๆและใช้เงินที่มีอยู่บ้างหรือยืมมาจากพ่อแม่บ้างมาจ้างให้คนนั้นเปลี่ยนสภาพที่ดินจากที่เคยเป็นบ่อเลี้ยงกุ้งและบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ก็ให้กลายเป็นขนาดเล็กและมีการยกร่องสวนเพื่อปลูกมะพร้าวน้ำหอมต่างๆเพิ่ม

และหลังจากที่โรงมะพร้าวน้ำหอมไปประมาณ 120 ต้น ตอนนี้ปลูกไปได้ปีหนึ่งแล้ว อีกไม่เกิน 3 ปี ก็จะได้ผล เขามีการใช้เวลาว่างจัดการปลูกมะพร้าวมาเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ด้วยการทำเล้าไก่ง่ายๆให้พวกเป็ดไก่อยู่กันโดยในปัจจุบันนั้นมี มีไก่อยู่ 80 กว่าตัว และ เป็ด 180 ตัว

เปิดการเลี้ยงเป็ดไก่นั้นก็จะเรียกกันแบบธรรมชาติให้ไก่นั้นรู้สึกอารมณ์ดีเพราะถ้าหากไก่อารมณ์ดีก็จะออกไข่ที่มีคุณภาพสูงจึงทำให้ไข่ของเขามีคุณภาพดีและมีผู้คนต่างเข้ามาซื้อหมดทุกวันเพราะทุกคนที่เข้ามาซื้อนั้นต่างบอกว่าชอบขายที่นี่เพราะดีและสดมาก

โดยในปัจจุบันรายได้หลักของเขานี้อยู่เพียงแค่เดือนละหมื่นกว่าบาทเท่านั้นแต่กลับกลายเป็นว่าเงินจำนวนนี้เขาแทบไม่ต้องใช้อะไรเพราะเขามีพืชผักสวนครัวไว้กินมีปลาให้จับกินมีผักให้กินมีขายให้กินอยู่เป็นของตัวเอง ซึ่งเขานะมีทั้งบ่อปลาที่สามารถจับปลามากินเมื่อไหร่ก็ได้อีกทั้งยังมีการปลูกพืชผักที่ปลูกกินไว้มากกว่าปลูกขายและยังมีการประหยัดค่าอาหารสัตว์ต่างๆด้วยการตระเวน ตักแหนมาให้พวกมันได้กิน บางวันก็จับกุ้งหอยปูปลาตัวเล็กๆ ในคลองซึ่งอยู่ใกล้ๆ มาให้พวกมันกิน

และในสมัยก่อนในการดูแลส่วนนั้นก็มากางเต็นท์นอนเพราะไม่มีบ้านแต่ในตอนนี้เขานั้นมีบ้านไม้สำเร็จรูปหลังเล็กๆไว้อาศัยและนอนกลางคืนอย่างมีความสุขแล้วเขาไม่รู้สึกเหงาแม้จะเปลี่ยนมาทำอาชีพเกษตรกรเพราะเขายังมี มีไลน์ มีเฟซบุ๊กให้เล่นให้ติดต่อกับบุคคลภายนอกแล้ว ยังมีเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยมบ่อย

ซึ่งเพื่อนๆทุกคนก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากจะมีชีวิตแบบเขาบ้างถึงแม้ว่าจะมีรายได้ไม่มากนักแต่มันก็เป็นรายได้ที่ยั่งยืนและสามารถอยู่ได้อีกยาวไกลแต่อีกไม่นานเขาก็สามารถสร้างรายได้ขึ้นได้อย่างแน่นอนเพราะถ้าหากมะพร้าวออกผลก็จะทำให้มีรายได้มากยิ่งขึ้น เพราะมะพร้าวน้ำหอมราคาแพงเหลือเกิน อีกทั้งยังออกผลให้ได้ขายตลอดปีด้วย ถึงตอนนั้นเชื่อว่าเขาคงจะมีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะไม่ต้องใช้เงินเป็นค่าครองชีพมากเหมือนอยู่กรุงเทพฯ ด้วย

นอกจากนี้เขายังมีการตั้งเป้าหมายว่าจะให้ฟาร์มแห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจในเรื่องของการเกษตรได้เข้ามาศึกษาได้เข้ามาสัมผัสธรรมชาติด้วยตัวเองและถ้าหากใครสนใจก็สามารถโทรไปปรึกษากับเขาได้ที่ 089) 785-0761 ได้เลย