แชร์ไอเดีย ‘เลี้ยงด้วงสาคู’ เพิ่มรายได้ ลงทุนน้อย ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก

ทุกวันนี้ต้องบอกเลยว่ารอกินเงินเดือนอย่างเดียวไม่พอกินพอใช้อย่างแน่นอน ต้องทำอาชีพเสริมเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง วันนี้เราจะพาไอเดียสร้างรายได้เสริมด้วยการ "เลี้ยงด้วงสาคู" เป็นการแชร์ไอเดียจากสมาชิกพันทิป NisawanKarn ได้แชร์ไอเดียสร้างรายได้นี้โดยระบุว่า "ลองเลี้ยงด้วงสาคู เพิ่มรายได้มั้ยคะ ลงทุนน้อย ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก" จะเป็นยังไงนั้น ตามไปดูกันเลยครับ 

        รายได้เสริม คงเป็น คำที่หลายๆ คนต้องการ แต่ติดอยู่กับคำถามที่ว่า “แล้วเราจะทำอะไร?” เพื่อเพิ่มรายได้ในช่วงเศรษฐกิจแย่ๆ แบบนี้  อยู่นิ่งๆ เก็บเงินไว้ไม่มีความเสียงมันก็เป็นวิธีที่ดีค่ะ  แต่ถ้าเราต้องเพิ่มรายได้ล่ะ ทำอะไรดี?

        วันนี้ จขกท ขอแชร์ประสบการณ์ การเลี้ยงด้วงสาคู เพื่อเป็นรายได้เสริมของครอบครัวค่ะ เผื่อจะเป็นแนวทางสำหรับคนที่มองหากิจกรรมเพิ่มรายได้คร้า

        เหตุผลที่เลือกเลี้ยงด้วงสาคู

        1. ลงทุนน้อย 

        2. ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก

        3. ราคาตลาด ยัง ราคาดีค่ะ

        เมื่อตั้งใจเลือก เลี้ยงด้วงสาคู ก็เริ่มหาข้อมูล ทั้งในยูทูป ในกูเกิ้ล ก็มีสูตรมากมายจริงๆ ค่ะ แต่ละสูตร ก็จะไม่เหมือนกัน เลยต้องลองทีละสูตร
มีทั้งได้ผลและไม่ได้ผลบ้าง จนสุดท้ายมาลงตัวกับสูตรของตัวเองที่ปรับนั่นนิด เสริมที่หน่อย และก็ให้ผลดีในที่สุด เพราะสามารถเก็บผลผลิตได้เต็มที่ งั้นเรามาแชร์ข้อมูลกันค่ะ

        อุปกรณ์ที่ต้องใช้

        1. กะละมังพลาสติก เบอร์ 16 ทรงสูง จขกท เคยใช้ กะละมังทรงเตี้ย แต่ได้ผลน้อย  เพราะต้องคอยเติมอาหารของด้วงไม่อย่างนั้นอาหารจะไม่เพียงพอ ด้วงจะไม่โต ตัวเล็กแคระแกรน และไม่ได้น้ำหนัก ก็เลยเลือก ทรงสูงเพื่ออาหารที่เพียงพอ แม้ว่าราคากะละมังสูงขึ้นนิดหนึ่ง แต่ก็คุ้มไม่ต้องเสียเวลาเติมอาหารและอายุการใช้งานของกะละมังก็ยาวนานมาก
ซื้อจากร้านค้าส่ง ยกโหล จะถูกกว่า ซื้อปลีก

        2. ตะแกรงพลาสติกร่องเล็กไว้สำหรับตากปลา  เอามาใช้เป็นฝาปิด เหตุผลที่ต้องใช้ตะแกรงมีร่องเพื่อถ่ายเทอากาศ ไม่ให้แม่พันธุ์พ่อพันธุ์ เสียไปในระหว่าง ทำศึก หนักมาก ซื้อจากร้านค้าส่ง ยกโหล จะถูกกว่า ซื้อปลีก เช่นกันค่ะ 

        3.  กากน้ำตาล 

        4.EM เพื่อลดกลิ่น เหม็น 

        5.  อาหารหมู เป็นอาหารเสริม เพิ่มความเจริญเติบโต

        6. สาคูบด  เป็นอาหารหลักของ พ่อพันธุ์  แม่พันธุ์ด้วง สาคู 1 กระสอบ น้ำหนัก 25 กิโลกรัม สามารถผสมได้ ประมาณ 5 กะละมัง

         7. เปลือกสาคู, กาบมะพร้าวแห้ง, หรือ เปลือกมะพร้าวสด ก็ใช่แทนกันได้ (เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็พอค่ะ เอาแต่สะดวก ไม่ต้องหามาทั้งหมดนะคะ 555) แต่

        จขกท เลือก เปลือกสาคู ค่ะ เพราะได้ฟรี พร้อมสาคูบด

        8. กล้วยน้ำว้า, สัปปะรด (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอค่ะ เอาตามสะดวก)

        9. พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์  ราคา ตัวละ 3-4 บาท ซึ่งอาจจะมีราคาสูงถึง ตัวละ 5-6 บาทก็มี แล้วแต่เราหาแหล่งใดได้ราคาพิเศษ  เวลาซื้อพ่อพันธุ์ ต้อง แยก เพศ มาด้วยนะคะ ว่า ตัวผู้ หรือ ตัวเมีย หน้าตาจะคล้ายๆ กัน 

        หมายเหตุ ถ้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แข็งแรง ก็จะสามารถ นำมาใช้ได้ถึง 3 รอบ ทีเดียว แต่ถ้าไม่แข็งแรง ก็จะเสียชีวิตในสมรภูมิรบ ตั้งแต่ รอบ แรกค่ะ 555

       พ่อพันธุ์ พ่อพันธุ์ สามารถเพาะ และ ขยายเองได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งหมด เพียงแต่ ต้องคัด ตัวผู้ ตัวเมีย แต่ที่บ้าน จขกท เลือกที่จะซื้อ เพราะประหยัดเวลา เนื่องจากทำงานกันทุกคน ดังนั้นเพื่อความสะดวก 555 แต่อนาคตก็ตั้งใจจะเพาะพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ไว้ใช้เอง แน่นวล

       อุปกรณ์พร้อมแล้ว ก็เริ่มลงมือทำค่ะ 

       ขั้นตอนที่ 1)  ต้องเตรียมสถานที่ นิดหนึ่งค่ะ สำหรับมือใหม่ เพิ่งลองยังไม่จำเป็นต้องไปทำโรงเรือนใหม่ให้เปลืองงบ ค่ะ เพียงแต่เลือก
       1.1  จุดที่ไม่โดนแดดส่องแรงๆ เพราะถ้าแดดแรงเกิน เดี๋ยว พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ตายเกลี้ยง

       1.2  จุดที่ไม่มี “มด” ทุกชนิด 

       1.3   ถ้าบ้านไหนมี ไก่ หรือ หมา ก็ควรเลือกอย่าให้ไก่จิก คุ้ยเขี่ยได้ “เด็ดขาด”

       ขั้นตอนที่ 2)  นำสาคูบด มา แบ่งใส่กะมะลังพลาสติก ที่เตรียมไว้  1 ส่วน 3 ของกะละมัง

       ขั้นตอนที่ 3)  นำอาหารหมู ที่เตรียมไว้ เทผสมลงไป ตวงประมาณ “ครึ่งขวดพลาสติกน้ำดื่ม 1.5 ลิตร”

       ขั้นตอนที่ 4)  เติม น้ำ EM 1 ช้อนโต๊ะ

       ขั้นตอนที่ 5)  เติม กากน้ำตาล  ลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ


       ขั้นตอนที่ 6)  เติมน้ำสะอาด ประมาณ 3 ลิตร


       ขั้นตอนที่ 7)  ใส่กล้วยน้ำว้า ไว้ประมาณ 2-3 ลูก เพื่อเป็นอาหารเสริมของ พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ระหว่าง ทำศึก 
       ขั้นตอนที่ 8)  นำเปลือกสาคู ที่เตรียมไว้ วางทับชั้นบนสุดของ ส่วนผสมทั้งหมด เพื่อให้เป็น รัง ของพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ไว้พักผ่อน

 

       ขั้นตอนที่ 9)  นำ พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ 5 คู่ (ตัวเมีย 5 ตัวผู้ 5) ใส่ลงไปกะละมังแต่ รีบเอา ตะแกรงที่เตรียมไว้ ปิดทันที เพราะ มันจะบินไวมาก  

       ทำตามขั้นตอนจนครบ ทุกขั้นตอน  เราก็ได้ มา 1 กะละมัง

       ก็สามารถ ยกไปพักเก็บไว้ในจุดที่แดดส่องไม่ถึง ...ไม่มีมด.. ไก่คุ้ยเขี่ยไม่ได้.. หมาตะกายหรือปีนไม่ถึง
หลังจากนั้น ประมาณ 10 วัน ก็สามารถแยกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ออกไป สำหรับใช้ในรอบถัดไป กะละมังทีผสมเพิ่มเติม
หลังจากแยกพ่อพันธ์แม่พันธ์ แล้ว ก็รอ ต่อไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ ให้โตเต็มวัยก็สามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ค่ะ

       แต่ในกรณีที่ไม่แยกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่จะมีข้อเสียคือ  ด้วงที่เกิดในกะละมัง จะมีหลายขนาด หลายไซส์ เนื่องจาก  พ่อพันธ์ แม่พันธ์ จะทำงาน วางไข่ ตลอดเวลา 

       ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็มีข้อดี คือ เราสามารถมีด้วงตัวอ่อน เอาไปขุนต่อ ในกะละมังใหม่เติมอาหาร หรือสามารถใช้กะละมังใบเดิมส่วนผสมเดิมๆ ได้ เพราะอาหารยังคงมีอยู่ ทำให้อายุ การเจริญเติบโต เร็วขึ้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็สามารถจับมาขายได้แล้ว 

       ต่อไปเป็น วิธีการจับด้วงค่ะ

       ก็จะแตกต่างกันไป บาคนอาจจะคว่ำกะละมังแล้วเลือกเป็นตัวๆ แต่ที่บ้าน จขกท เลือกที่จะรื้อกะละมังทีละใบ โดยไม่เทส่วนผสมออกมา เนื่องจาก ยังมีด้วงบางตัวที่โตไม่เต็มวัย (แต่ใกล้จะโต อารมณ์ประมาณ น้ำหนักยังขาดๆ ค่ะ) เราสามารถขุนต่ออีกระยะหนึ่งโดยที่ อาหารในกะละมังยังเพียงพอ


       หลังจากเลือกเรียบร้อย ก็เอาด้วงไปล้างน้ำให้สะอาด และแช่น้ำไว้ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ด้วง ระบาย กากสาคู ออกจากให้หมด จะได้สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นค่ะ เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อย ก็ชั่งหรือแพ็คส่งได้ทันทีค่ะ

       ราคาขาย ณ ปัจจุบัน อาจจะแตกต่างกันตามแต่พื้นที่  มีตั้งแต่ กิโลละ 200 – 300 บาท ที่บ้าน จขกท เริ่มเลี้ยงครั้งแรก จำนวน 12 กะละมัง ถึงวันนี้ ทำมาเกือบ 2 ปี ขยายกะละมัง ประมาณ700 กว่า กะละมัง แล้วค่ะ แต่ละรุ่นสามารถจับได้ไม่พร้อมกัน แต่จะมีผลผลิตให้จับส่งตลาดทุกวัน วันละประมาณ 20-30 กิโลกรัม 

   

        สำคัญคือ  ควรมีพื้นทีอากาศถ่ายเทได้สะดวก  สะอาด เพื่ออนามัยและสุขลักษณะของคนในบ้านเม่าออกรถ  เพราะบางช่วงจะมีแมลงหวี่เยอะ ฉะนั้นความสะอาดจึงมีสำคัญมากค่ะ 

 

       ทั้งหมด เป็นประสบการณ์ที่นำมาแชร์ หวังว่า กระทู้นี้คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อ คนที่แวะเข้ามาอ่านหรือคนที่กำลังสนใจหารายได้เพิ่ม นะคะ ขอบคุณคร้า

 

      เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมเพิ่มได้รายได้ดีเลยทีเดียว ทำง่ายๆ ด้วย ลงทุนน้อย ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก ใครที่สนใจก็ศึกษาข้อมูลในการเลี้ยงให้ดีก่อนลงมือทำกันด้วยนะครับ 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก NisawanKarn