“อังกาบหนู” ไม่มีศูนย์วิจัยไหนรองรับว่ารักษา “มะเร็ง”ได้ทานมากเสี่ยงเป็นพิษ

สวัสดีค่ะหลังจากเป็นกระแสดังในโลกโซเซียล ที่กำลังเลื่องลือถึงสรรพคุณของอังกาบหนูว่าเด็ดดวง ช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ โดยมีชาวบ้าน จ.สุโขทัย ลองกินสมุนไพรอังกาบหนูแล้วอาการมะเร็งดีขึ้น แต่ไม่มีผลวิจัยที่ไหนรองรับว่ารักษามะเร็งได้จริงแถมยังเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะอังกาบหนูมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างสเปิร์มเอาเป็นว่าเราไปทำความเข้าใจกับต้น”อังกาบหนู”กันก่อนดีกว่าค่ะ


รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ (อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์) ท่านได้กล่าวว่าต้นอังกาบหนูหาได้ง่ายเพราะเป็นพืชทั่วไป อังกาบช่วยรักษาโรคหวัดได้แต่ไม่มีใครหรือศูนย์วิจัยไหนรองรับว่า ต้นอังกาบรักษามะเร็งได้

มีเพียงพระท่านหนึ่งที่ฝันเห็นว่าต้นอังกาบรักษามะเร็งได้จึงมีคนแห่ไปเก็บมาต้มกินเพราะมีความเชื่อว่ารักษามะเร็งได้หายขาด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย หรือที่เรียกง่ายๆว่า “ยาผีบอก” เลยทำให้ชาวบ้านเชื่อไปตามๆกันด้วยความศรัทธา

ต้นอังกาบถ้าให้ถือว่าเป็นยาสมุนไพรที่เป็นตัวช่วยในการรักษาโรคอาจจะพอได้อยู่ แต่รักษาเพียงใช้ต้นอังกาบอย่างเดียวอันนั้นยังไม่มีศูนย์วิจัยไหนยอมรับ ต้นอังกาบหนูมีพิษถ้ากินในเวลาติดต่อกัน กินทุกวันจะทำให้ระบบการทำงานของตับ ไต และอวัยวะภายในทำงานผิดปกติ
อังกาบหนูมีชื่อเรียกหลายอย่างเช่น อังกาบหนู เขี้ยวเก้ง เขี้ยวเนื้อ อังกาบ หรือต้นมันไก่ นั้นเองค่ะแล้วแต่พื้นที่ไหนจะเรียกกัน ความจริงแล้ว สรรพคุณของเขาก็มีคือ ใบ แก้ปวดฟัน แก้กลากเกลื้อน ป้องกันส้นเท้าแตก

แต่นอกจากนี้เคยมีการทดลองใช้สารสกัดอังกาบหนูซึ่งทดลองในหนูตัวผู้นานกว่า 60วัน จึงได้พบว่าสารสกัดอังกาบหนูมีฤทธิ์รบกวนการสร้างสเปิร์ม หากจะกินให้กินเสริมทางการแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้นจะดีกว่าค่ะ ไว้มีการอัพเดทยังไงต่อไปนั้นเราจะรีบมารายงานให้ได้ทราบกันอย่างไวเลยจ้า