สืบเนื้องจากแบรนด์เมจิก สกิน ที่โดยตรวจสอบจนพบกับสารอันตราย
ไม่ได้มาตรฐาน จนทำให้ต้องปิดโรงงาน ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างติดร่างแหไปด้วย
นอกจากนี้พบว่านักแสดงและเน็ตไอดอลกลุ่มนี้ได้เป็นพรีเซนเตอร์
และรีวิวผลิตภัณฑ์ในเครือของบริษัทเมจิก สกิน จำกัด ประกอบด้วย ม้า อรนภา
กฤษฎี, สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข, เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร, เจสซี่ วาร์ด,
แพท ณปภา ตันตระกูล, อรพรรณ ด่านศิริวัฒนกุล หรือ ออฟฟี่ แม็กซิม, ก้อย
รัชวิน วงศ์วิริยะ, โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร และหญิงแย้ นนทพร ธีรวัฒนสุขยัง
ตามมาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ซึ่งการออกหมายเรียก จะต้องสอบปากคำเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดหรือไม่ ทั้งข้อหาโฆษณาเครื่องสำอางด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง, ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ, ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ ผู้ถูกออกหมายเรียกมีสิทธิให้การและจะอ้างอย่างไรก็ได้ แต่ทางตำรวจมีกรอบพิจารณาอยู่แล้ว ซึ่งหากไม่มาจะออกหมายเรียกครั้งที่2 และหากยังไม่มาอาจต้องพิจารณาออกหมายจับ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า จะวิเคราะห์พิจารณาข้อมูลหลังสอบปากคำอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ซึ่งอยากฝากไปยังบุคคลมีชื่อเสียงอื่นๆ ว่า ก่อนจะรับรีวิวสินค้าหรือโฆษณาอะไร จะต้องตรวจสอบก่อน และจะต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน รวมถึงต้องอยู่บนหลักความถูกต้อง ไม่ทำให้เสียหายต่อบุคคลอื่น
สำหรับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเมจิกสกินทั้ง 8 คน ที่ถูกออกหมายจับ เบื้องต้นหลายคนยังให้การในภาคเสธ แต่ทุกคนให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดยขณะนี้มีผู้เสียหาย 500 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 111 ล้านบาท
ซึ่งการออกหมายเรียก จะต้องสอบปากคำเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดหรือไม่ ทั้งข้อหาโฆษณาเครื่องสำอางด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง, ข้อหาโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ, ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ ผู้ถูกออกหมายเรียกมีสิทธิให้การและจะอ้างอย่างไรก็ได้ แต่ทางตำรวจมีกรอบพิจารณาอยู่แล้ว ซึ่งหากไม่มาจะออกหมายเรียกครั้งที่2 และหากยังไม่มาอาจต้องพิจารณาออกหมายจับ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า จะวิเคราะห์พิจารณาข้อมูลหลังสอบปากคำอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ซึ่งอยากฝากไปยังบุคคลมีชื่อเสียงอื่นๆ ว่า ก่อนจะรับรีวิวสินค้าหรือโฆษณาอะไร จะต้องตรวจสอบก่อน และจะต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน รวมถึงต้องอยู่บนหลักความถูกต้อง ไม่ทำให้เสียหายต่อบุคคลอื่น
สำหรับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเมจิกสกินทั้ง 8 คน ที่ถูกออกหมายจับ เบื้องต้นหลายคนยังให้การในภาคเสธ แต่ทุกคนให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดยขณะนี้มีผู้เสียหาย 500 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 111 ล้านบาท