หลังจากที่ได้มีการประกาศว่าเลิกกันระหว่างคู่รักต่างวัยอย่าง “เจ ชนาธิป และ เมย์ พิชญ์นาฏ” หลังจากที่มีการเปิดใจไปรอบแรกกับความเสียใจที่เกินจะรับไหว
จนมาถึงตอนนี้สาวเมย์ สภาพจิตใจดีขึ้นและได้ออกมาเปิดใจรอบสอง
เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเหมือนว่าตอนนี้เมย์จะชัดเจนกว่าเดิม
สิ่งที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือเมย์จะไม่กลับไปคบเจเหมือนเดิม เพราะเจ
ไม่ชัดเจนกับเมย์ วันนี้เจ๊ดันเลยนำบทสัมภาษณ์ของเมย์ล่าสุดมาให้ดูด้วยค่ะ
โอ้โห….เป็นใครก็เจ็บนะถ้าเจอแบบนี้ แต่ก็นะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าการที่รักเค้าแล้วครอบครัวเค้าไม่รักเรา มันจะเจ็บยิ่งกว่า ยังไงตอนนี้ต้องให้เวลาทั้งสองคนค่ะ ถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันแน่นอน
“สภาพจิตใจวันนี้ดีกว่าเมื่อวานค่ะ
รู้สึกว่าตัวเองมีพอยต์มากขึ้นจากเดิมที่ไม่รู้ตัวเองจะไปทางไหนหรือเดินต่อไปยังไง
เวลานี้มีเรื่องหนึ่งที่เมย์ค่อนข้างไม่สบายใจ
คือเรื่องที่คุณพ่อของเจให้สัมภาษณ์ทำนองว่าเมย์เข้าไปคุย
ต้องชี้แจงก่อนว่าเมย์ไม่ได้เข้าไปขอลูกชายของเขา แต่เรื่องเกิดจากว่าเจ
ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่นก่อนว่ามีแพลนจะแต่งงานกับเมย์
จากนั้นไปออกรายการต่างๆ ได้พูดอีกว่ามีแพลนจะแต่งงานกับเมย์หลังบวช
ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ของเจก็เออออตามนั้นในวันบวชว่าอาจจะมีข่าวดี
ซึ่งส่วนตัวเมย์ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
แต่กลายเป็นว่ามีนักข่าวมาแซวเยอะมากว่าจะมีข่าวดีเหรอ
ยอมรับว่าข่าวนั้นทำให้เมย์ดีใจ
ฉะนั้นที่ให้สัมภาษณ์ว่าเมย์ได้เข้าไปคุยเรื่องแต่งงานคือเมย์ไม่ได้ไปขอลูกเขา
ความเป็นจริงคือลูกเขาเป็นคนที่อยากแต่งงานกับเมย์
รวมถึงให้ความหวังเมย์ด้วย
ซึ่งพอกำลังมีหวังอยู่แต่สุดท้ายก็มาดับหวังด้วยการบอกว่าไม่มีฤกษ์
ตรงนี้เมย์รู้สึกว่าใจร้ายเกินไป”
“อีกเรื่องที่เป็นข่าวว่าเมย์มีการเรียกสินสอด
30 ล้านบาท
ตรงนี้เริ่มไปกันใหญ่และน่าจะเป็นความเข้าใจผิดของข่าวที่ถูกแชร์ไปเรื่อยๆ
จากที่เมย์พูดว่าเจ ใช้เงินสด 30
ล้านบาทในการสร้างสนามฟุตบอลให้กับคุณพ่อของเขา
กลับเปลี่ยนมาเป็นเรื่องสินสอดว่าเมย์เรียกไปจำนวนเท่านั้น ทั้งที่ เมย์
ไม่ได้เรียกเลย
อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้แล้วคุณแม่ของเขาได้พูดไว้ก่อนแล้วว่า
“แม่ไม่มีอะไรให้” รวมถึงที่คุณพ่อของเขาถามว่า
“พ่อเมย์จะเรียกสินสอดแพงมั้ย ถ้าเรียกแพงพ่อไม่มีให้นะ”
เมย์ยังจำวันนั้นได้ดีว่าตัวเองร้องไห้และบอกว่าเมย์ไม่ได้อยากได้เงินหรือสินสอดหรืออะไรเลย
เมย์ไม่เอาสินสอดอะไรก็ได้ แหวนที่เจให้เมย์
เมื่อวาเลนไทน์ปีที่แล้ววงนี้เมย์ ก็ใส่ได้
อีกอย่างถ้าเมย์อยากได้เงินคงไม่มาคบเขาหรอก เมย์แค่รู้สึกว่าอยู่ดีๆ
เขาสร้างฝันให้เมย์และอยู่ดีๆ เขาก็ทำลายฝันนั้น
ถ้าเขาเอ็นดูเมย์สักนิดหรือมาจับมือและพูดกับเมย์ว่า “พ่อแม่มีเงินเท่านี้
บ้านเราไม่ได้รวย เมย์อยู่ได้มั้ย” เมย์ตอบได้ทันทีเลยว่าเมย์ยินดีค่ะ
เพราะว่าเมย์รักและพร้อมที่จะลำบากกับเขาจริงๆ ค่ะ
ฉะนั้นตอนนี้ประเด็นที่มันไปไกลเรื่องสินสอด 30 ล้านบาท
ยิ่งทำให้เมย์แย่เข้าไปอีก อย่าทำแบบนี้กับเมย์เลย
และไม่อยากให้มีการสัมภาษณ์ในเรื่องที่ไม่จริงเพราะทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าความจริงคืออะไร
เขาพูดกับเมย์มาตลอดว่า “บ้านเขาไม่รวย แต่เขารวยน้ำใจ”
แต่ในวันนั้นที่ได้เปิดใจคุยกันเมย์กลับไม่เห็นว่าจะเป็นแบบนั้นเลย”
“ส่วนตัวเมย์รู้สึกได้ ถึงแม้จะบอกว่า
“แม่ไม่อะไร แต่งได้นะ แต่แม่ไม่มีอะไรให้”
คือมันเป็นความรู้สึกแล้วว่าเขาไม่ได้อยากให้แต่ง ฉะนั้น
ต่อให้บอกว่าแล้วแต่เจ เลย เมย์ก็ไม่ได้อยากแต่งแล้ว
เมย์เลือกที่จะกลับกรุงเทพฯ และให้เจ ได้เคลียร์ปัญหากับครอบครัวของเขาก่อน
เมย์คิดว่าเจ
น่าจะเป็นคนเดียวที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ของเขารักและเอ็นดูเมย์ได้
ยอมรับว่าเมย์หวังว่าหลังจากนั้นน่าจะมีอะไรที่ดีขึ้น
แต่ในใจของเมย์ก็มีเดดไลน์คือวันที่ 10 ม.ค.ที่เมย์ไปส่งเจที่แอร์พอร์ต
จริงๆ 70% เมย์ก็ทำใจไว้แล้ว แต่อีก 30% ลึกๆ ก็หวังว่าจะมีอะไรที่ดีขึ้น
สุดท้ายคือทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนไม่มีการคุยกันกับเรื่องนี้
เจเองก็ไม่พูดเรื่องนี้เลยเช่นกัน
สำหรับเมย์วันนั้นคิดว่ามันถึงที่สุดแล้ว จริงๆ
คือเมย์ไม่ได้คาดหวังแล้วว่าจะต้องแต่งเดี๋ยวนี้
แต่ความรู้สึกเป็นเรื่องของการบอกปัดที่ใช้คำพูดไม่ถนอมน้ำใจกันมากกว่า
และทำให้เมย์ไม่มีกำลังใจที่จะเดินต่อไปแล้ว”
“หลังจากที่เจ
กลับไปญี่ปุ่นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามทำตัวเหมือนเป็นแฟนปกติ
แต่ใจเมย์มันไม่ได้แล้ว จริงๆ ทุกครั้งที่ไปส่งเจที่แอร์พอร์ต
ขากลับก็จะนั่งดูคิวว่าเดือนหน้าจะบินไปหาเขาวันไหน
แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรแล้ว เมย์เองก็ทรมานใจ
รวมถึงเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่ของเขาคงไม่ชอบเมย์จริงๆ แล้วด้วย
พอรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวก็พยายามที่จะเลิก บางวันก็หายไปเลย
เขาทักอะไรก็ไม่ตอบ
แต่พอเมย์ลงรูปแล้วไม่แท็กชื่อเขาก็จะมีแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ
ที่เชียร์คู่เราอยู่เสียใจและถามไถ่ตลอดว่าทำไมไม่แท็ก
สุดท้ายเมย์ก็กับมาแท็ก
ส่วนรูปในวิดีโอคอลล์ก่อนวันที่เมย์จะลงไอจีเมื่อวาน (18ม.ค.)
ทุกคนก็คิดว่าเห็นยังรักกันดีอยู่นี่
เมย์อยากบอกว่านั่นคือการร้องไห้ด้วยกันทั้งคู่
สถานการณ์มันทรมานทั้งสองฝ่าย
โดยที่เมย์ไม่เต็มที่กับเขาแล้วเพราะใจมันเสียไปแล้ว
พอเมย์จะไปเขาก็มาแท็กว่า
“เดี๋ยวมาแต่งกันนะ” ครั้นเมย์บอกอีกว่าเป็นเพื่อนกันนะ เขาก็บอกว่า “ไม่ยะ
ไม่ยอมเลิก เราจะแต่งงานกัน” แต่พอเรากลับมาคบกัน
ถามถึงเรื่องนี้เขาก็เงียบเฉยไม่พูดถึงเรื่องนี้และเฉไฉไปเรื่องอื่น
มันวนอยู่แบบนี้ คือเขาไม่มีบทสรุปใดๆ ให้ ซึ่งเมย์ก็รู้สึกว่า
เมย์ไม่ได้อยากให้เขาอกตัญญูกับพ่อแม่
แต่เขาควรที่จะเป็นคนเชื่อมเมย์กับพ่อแม่มากกว่า ซึ่งเขาไม่ได้ทำตรงนั้น
เลยตัดสินใจแล้วว่า
ขอไม่ไปต่อแล้วดีกว่าเพราะไม่อยากให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายไม่สบายใจ
เมย์รับรู้ในความรักของเจ สุดท้ายก็ไม่มีใครอยากให้มาถึงวันนี้
ไม่มีใครอยากเลิกกัน คนที่โดนให้ความหวังว่าจะแต่งแล้วคือมันหวังมาก
แต่สุดท้ายคุณแม่ของเขากลับพูดว่าไม่มีฤกษ์
ความรู้สึกเหมือนคนเดินข้ามถนนแล้วอยู่ดีๆ รถก็เข้ามาชน
สำหรับเมย์ตอนนี้ไม่ได้แต่งก็ไม่เป็นไร เมย์แค่อยากได้คำพูดดีๆ
หรือน้ำใจมากกว่าค่ะ”
“ตอนนี้เจเลือกที่ออกจากกรุ๊ปไลน์ที่เป็นแฟมิลี่ของเพื่อนๆ
เมย์ รวมถึงก็ไม่มีการโทร.หรือไลน์มา ลบแฮชแท็กที่เขียนไว้ในไลน์ออก
ลบโปรไฟล์ออก แบบนี้คือเมย์ก็เคลียร์แล้ว จริงๆ
เมย์ไม่ได้อยากให้ใครว่าเขาว่าทำไมเขาถึงไม่ต่อสู้หรืออะไรเลย
อยากให้ย้อนกลับไปว่าที่เมย์มารักเขา
หนึ่งอย่างที่เมย์รักในตัวเขาคือความกตัญญู
ถ้าพ่อแม่เมย์ไม่ชอบเขาหรือพูดตั้งแต่วันแรกว่าอย่าคบเลยลูก
เมย์ก็จะไม่คบเพราะเมย์เลือกพ่อแม่
แต่ตอนนี้สิ่งที่เมย์เสียใจคือคุณพ่อคุณแม่ของเขาไม่ได้เอ็นดูเมย์
แต่เขาไม่บอกลูกเขา เลยทำให้ลูกเขาและเมย์คิดไปว่าคุณพ่อคุณแม่เอ็นดูมาตลอด
จนถึงวันนี้เมย์เลยเจ็บหนัก แต่ตอนนี้เมย์อยากจบแล้ว อยากจบดีๆ ค่ะ”
“สิ่งที่เมย์พูดคือความจริงทั้งหมด
ส่วนตัวไม่ได้คิดจะกลับไปแล้ว
และทุกอย่างเมย์ตัดสินใจดีแล้วค่ะ หลายคนถามว่าทำไมไม่เลิกกันเงียบๆ
ออกมาพูดทำไม คือ ถ้าเมย์ไม่ทำแบบนี้มันจะไม่จบค่ะ
เมย์ลำบากใจในการที่จะลงรูปตัวเองโดยไม่แท็กเขา
เพราะแฟนคลับก็จะเข้ามาถามเยอะๆ จนเมย์ร้องไห้ทุกวัน
ตอนนั้นจะเลิกก็เลิกไม่ได้ เจก็ไม่ยอมเลิกกับเมย์ด้วย
ซึ่งมันก็จะทรมานกันไปเรื่อยๆ
ฉะนั้นมันถึงเวลาที่ต้องชัดเจนกับอะไรสักอย่างเพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้เดินต่อไป
เมย์เลยเลือกที่จะหักดิบด้วยการทำแบบนี้ดีกว่า
เจเองก็จะได้ตัดใจและเดินต่อไปเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาซ้อมหนักก่อนจะเปิดฤดูกาล
ส่วนเมย์เองก็เริ่มไม่ไหว อีกนิดนึงก็จะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว
อย่างน้อยจะได้มีพอยต์กับชีวิตว่าจากนี้ตัวเราต้องเดินต่อแล้วนะ”
โอ้โห….เป็นใครก็เจ็บนะถ้าเจอแบบนี้ แต่ก็นะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าการที่รักเค้าแล้วครอบครัวเค้าไม่รักเรา มันจะเจ็บยิ่งกว่า ยังไงตอนนี้ต้องให้เวลาทั้งสองคนค่ะ ถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันแน่นอน