กยศ. ประกาศเตรียมฟ้องร้องผู้กู้ยืมค้างชำระเกิน 4 ปี 5 งวด พร้อมเสนอแนวทางปฏิบัติขอระงับฟ้อง และขั้นตอนหากไม่ระงับฟ้อง
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 เฟซบุ๊ก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้มีการโพสต์ข่าวล่าสุดของกองทุน มีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
สำหรับผู้กู้ยืม กยศ. และ กรอ. ที่ค้างชำระเกิน 4 ปี 5 งวด นั้น ขณะนี้กองทุนฯ ได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี จึงขอแจ้งแนวปฏิบัติสำหรับผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีในปี 2560 ดังนี้
1. กรณีผู้กู้ยืมประสงค์ระงับฟ้อง
ผู้กู้ยืมได้รับหมายศาลแล้ว สามารถขอระงับฟ้องได้ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา โดยจะต้องชำระหนี้ปิดบัญชีให้เสร็จสิ้น (Pay Off) รวมทั้งชำระค่าทนายความให้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดวันนัดขึ้นศาล 2 สัปดาห์ โดยส่งหลักฐานตามรายละเอียด ดังนี้
1.1 คดีความกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชำระค่าทนายความผ่านระบบ teller payment CODE 9067 จำนวน 5,500 บาท และส่งหลักฐานใบเสร็จการชำระหนี้ปิดบัญชี กยศ. และใบเสร็จการชำระค่าทนายความ ให้แก่ บริษัท กรุงไทยกฎหมาย จำกัด (KTB LAW) หมายเลขโทรสาร 02-2613755 หมายเลขโทรศัพท์ 02-261-3739 ต่อ 8778
1.2 คดีความกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ชำระค่าทนายความผ่านระบบ teller payment CODE 92707 จำนวน 5,500 บาท และส่งหลักฐานใบเสร็จการชำระหนี้ปิดบัญชี กรอ. และใบเสร็จการชำระค่าทนายความ ให้แก่ หน่วยงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ฝ่ายคดีและบังคับคดี หมายเลขโทรสาร 02-016-4940 หมายเลขโทรศัพท์ 02-016-4888 ต่อ 550 – 587
2. กรณีผู้กู้ยืมไม่ติดต่อขอระงับฟ้อง ขั้นตอนต่อไปจะต้องเข้ากระบวนการพิพากษา ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
2.1 ผู้กู้ยืม (จำเลยที่ 1) ไปตามที่ศาลนัดหมาย และไม่สามารถเลื่อนนัดได้ เพื่อตกลงไกล่เกลี่ยและทำสัญญายอม เรียกว่า "การพิพากษาตามสัญญายอม" ความผ่อนชำระเป็นรายเดือน ประมาณ 9 ปี โดยต้องมีผู้ค้ำประกัน (จำเลยตามหมายศาล) หากผู้ค้ำประกันไม่สามารถไปได้ให้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจมาแทน มิฉะนั้น "ศาลจะสั่งพิพากษาฝ่ายเดียว" คือการชำระหนี้ทั้งจำนวน
2.2 ผู้กู้ยืมไม่ไปขึ้นศาล หรือไม่มีหนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจมาแทน "ศาลจะสั่งพิพากษาฝ่ายเดียว" คือการชำระหนี้ทั้งจำนวน
เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทุกท่านโปรดทำตามแนวปฏิบัติ ที่ให้ไว้นะคะ ^^
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 เฟซบุ๊ก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้มีการโพสต์ข่าวล่าสุดของกองทุน มีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
สำหรับผู้กู้ยืม กยศ. และ กรอ. ที่ค้างชำระเกิน 4 ปี 5 งวด นั้น ขณะนี้กองทุนฯ ได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี จึงขอแจ้งแนวปฏิบัติสำหรับผู้กู้ยืมที่ถูกดำเนินคดีในปี 2560 ดังนี้
1. กรณีผู้กู้ยืมประสงค์ระงับฟ้อง
ผู้กู้ยืมได้รับหมายศาลแล้ว สามารถขอระงับฟ้องได้ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา โดยจะต้องชำระหนี้ปิดบัญชีให้เสร็จสิ้น (Pay Off) รวมทั้งชำระค่าทนายความให้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดวันนัดขึ้นศาล 2 สัปดาห์ โดยส่งหลักฐานตามรายละเอียด ดังนี้
1.1 คดีความกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชำระค่าทนายความผ่านระบบ teller payment CODE 9067 จำนวน 5,500 บาท และส่งหลักฐานใบเสร็จการชำระหนี้ปิดบัญชี กยศ. และใบเสร็จการชำระค่าทนายความ ให้แก่ บริษัท กรุงไทยกฎหมาย จำกัด (KTB LAW) หมายเลขโทรสาร 02-2613755 หมายเลขโทรศัพท์ 02-261-3739 ต่อ 8778
1.2 คดีความกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ชำระค่าทนายความผ่านระบบ teller payment CODE 92707 จำนวน 5,500 บาท และส่งหลักฐานใบเสร็จการชำระหนี้ปิดบัญชี กรอ. และใบเสร็จการชำระค่าทนายความ ให้แก่ หน่วยงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ฝ่ายคดีและบังคับคดี หมายเลขโทรสาร 02-016-4940 หมายเลขโทรศัพท์ 02-016-4888 ต่อ 550 – 587
2. กรณีผู้กู้ยืมไม่ติดต่อขอระงับฟ้อง ขั้นตอนต่อไปจะต้องเข้ากระบวนการพิพากษา ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
2.1 ผู้กู้ยืม (จำเลยที่ 1) ไปตามที่ศาลนัดหมาย และไม่สามารถเลื่อนนัดได้ เพื่อตกลงไกล่เกลี่ยและทำสัญญายอม เรียกว่า "การพิพากษาตามสัญญายอม" ความผ่อนชำระเป็นรายเดือน ประมาณ 9 ปี โดยต้องมีผู้ค้ำประกัน (จำเลยตามหมายศาล) หากผู้ค้ำประกันไม่สามารถไปได้ให้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจมาแทน มิฉะนั้น "ศาลจะสั่งพิพากษาฝ่ายเดียว" คือการชำระหนี้ทั้งจำนวน
2.2 ผู้กู้ยืมไม่ไปขึ้นศาล หรือไม่มีหนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจมาแทน "ศาลจะสั่งพิพากษาฝ่ายเดียว" คือการชำระหนี้ทั้งจำนวน
เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทุกท่านโปรดทำตามแนวปฏิบัติ ที่ให้ไว้นะคะ ^^
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา