“ยำ” เป็นอาหารไทยที่นิยมกันมาตั้งแต่อดีต
ปัจจุบันก็ยังเป็นเมนูยอดนิยมอยู่
แต่ยำของคนโบราณกับคนสมัยนี้จะดูแตกต่างกัน ทั้งอาหารที่นำมายำ
แม้กระทั่งน้ำปรุงที่เราเรียกกันกว่า “น้ำยำ”
ซึ่งอีกเมนูยำที่อยากจะนำเสนอ อาจเป็นเมนูที่ใครหลายคน
โดยเฉาะคนรุ่นใหม่คงจะไม่คุ้นเคยมาก่อน
ส่วนเรื่องรสชาติขอรับรองเลยว่าอร่อยไม่แพ้ยำทั่วไปที่เราเคยลิ้มลองมาแล้วอย่างแน่นอน
เมนูนี้มีชื่อว่า “ยำขโมย”
ส่วนผสม
ในหลายประเทศอาจจะมียำที่คล้ายคลึงกับประเทศเราบ้าง แต่ยำของบ้านเราจะดูเด่นชัด มีรสชาติหลากหลาย หอมกลิ่นสมุนไพรและชวนกินมากกว่า จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมรสชาติยำของบ้านเราถึงได้เป็นอาหารจานเด่นที่คนทั่วโลกรู้จัก รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำเมนูนี้ไปลองทำตามกันนะ…
ชื่อนี้… ได้มาจากไหนกัน?
ยำขโมยเป็นยำฉบับย่อของยำใหญ่ ที่มีส่วนผสมเครื่องเคราเอิกเกริกมาก มีทั้งตับลวก ปลาหมึกฉีกฝอย แต่ด้วยความที่ใช้เวลาทำนานจึงเปลี่ยนวิธีทำโดยหยิบโน่นนิดนี่หน่อยเหมือนขโมยมาเพื่อให้ทำได้ง่ายขึ้น จึงเรียกกันว่า “ยำขโมย” ซึ่งวิธีการทำก็แสนจะง่ายดาย สามารถทำได้ทุกโอกาสแถมไม่อ้วนอีกด้วย ว่าแต่จะมีส่วนผสมและขั้นตอนการทำอย่างไรมาดูกัน…ส่วนผสม
- หัวไช้เท้าฝานบาง
- แตงกวาฝานบาง
- ใบสะระแหน่
- ผักชีเด็ดเป็นช่อ
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้น
- หมูต้มหั่นชิ้นเล็ก
- ไก่ต้มฉีก
- กุ้งต้มหั่นชิ้นเล็ก
- หนังหมูหั่นฝอย
- เห็ดหูหนูหั่นชิ้นเล็ก
- ไข่ต้มจัดใส่จานให้สวยงาม
- รากผักชี 4 ต้น
- กระเทียม 4-5 กลีบ
- พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
- น้ำปลา
- น้ำตาลทราย
- น้ำส้มสายชู
- เตรียมส่วนผสมน้ำปรุง โดยตำพริกชีฟ้า กระเทียม และรากผักชีจนละเอียด
- ปรุงรสให้ได้รสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน และมีกลิ่นหอมของรากผักชี
- นำส่วนผสมราดบนจานผักที่จัดไว้ เมื่อรับประทานคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ในหลายประเทศอาจจะมียำที่คล้ายคลึงกับประเทศเราบ้าง แต่ยำของบ้านเราจะดูเด่นชัด มีรสชาติหลากหลาย หอมกลิ่นสมุนไพรและชวนกินมากกว่า จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมรสชาติยำของบ้านเราถึงได้เป็นอาหารจานเด่นที่คนทั่วโลกรู้จัก รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำเมนูนี้ไปลองทำตามกันนะ…
เครดิตจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับเดือนเมษายน 2016