Home »
Uncategories »
ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม แนะ 17 ข้อในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษในกรุงเทพฯ
ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม แนะ 17 ข้อในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษในกรุงเทพฯ
เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศแล้วในตอนนี้
และยังหาวิธีแก้ไม่ตกจริงๆ สำหรับ ปัญหาฝุ่น PM 2.5
ปกคลุมไปในหลายแทบทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ฝุ่น PM 2.5
เริ่มส่งผลต่อสุขภาพต่อร่างกาย
ทำให้ผู้คนตื่นตัวเรื่องอันตรายจากมลพิษในอากาศมากขึ้น
ล่าสุด ทางด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ได้ออกมาโพสต์ผ่านทางเฟสบุ๊ก Piti Srisangnam โดยระบุว่า...
ถ้าผมเป็น #ลุงตู่ ผมจะแก้ฝุ่นพิษดังนี้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
1. ผมจะไปตั้ง #Warroom แล้วดึงคนจากทุกกรม ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมลพิษทางอากาศ ไปนั่งทำงานด้วยกัน
2. War room ของผมจะตั้งอยู่ที่
#กรมควบคุมมลพิษ และผมจะไปนั่งทำงานอยู่ที่นั่นทุกวัน ให้มันรู้กันไปว่า
ผู้ใหญ่ไปนั่งอยู่ตรงนั้น แล้วผู้น้อยจะไม่กล้าทำงานเต็มที่
2.1 (เพิ่มเติม) #คาดโทษ
อธิบดีกรมที่เกี่ยวข้อง เพราะปีที่แล้วก็เจอเหตุการณ์นี้
และทุกภาคส่วนได้เสนอแนะ ให้คำแนะนำ ให้งบประมาณไปดำเนินการแล้ว
แต่ปีนี้ฝุ่นพิษกับยิ่งเลวร้าย แปลว่า หนึ่งปีที่ผ่านมา
ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ จากนั้นต้อง #มอบอำนาจ ให้อธิบดีกรมที่เกี่ยวข้อง
สามารถสั่งงานข้ามกระทรวง ข้ามกรม และบังคับใช้กฎหมายได้เต็มที่
เพื่อให้เขาสามารถแก้ปัญหาได้แบบบูรณาการ ต่อมาคือ #ชี้แจงบทลงโทษ
ว่าถ้าปีนี้ผมให้อำนาจคุณสั้งการได้แบบ CEO แต่ถ้าปีหน้า
สถานการณ์ยังไม่ขึ้น (ไม่ต้องถึงขนาดไม่มีฝุ้นพิษก็ได้) ผมมีบทลงโทษ
ออกจากราชการ และในทางตรงกันข้าม ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ผมจะ #โปรโมท
จากอธิบดีเป็นปลัดกระทรวง ต้องมีประสิทธิภาพ มีผลงาน วัดผลได้ และมีรางวัล
มีบทลงโทษชัดเจน เราต้องการ #ผู้บริหารภาครัฐมืออาชีพ
3. ผมขอให้ #กองทัพ ส่งกำลังพลลงพื้นที่ไปช่วยชาวบ้านตัดอ้อย
3.1 (เพิ่มเติม)
ให้กำลังพลมาช่วยตัดอ้อยคือมาตรการระยะสั้น ระยะกลางต้องคิดถึง #รถตัดอ้อย
รถตัดอ้อยราคาคันละประมาณ 10-12 ล้านบาท เกษตรกรรายย่อยไม่มีเงินพอครับ
เราต้องสร้างรถตัดอ้อยให้ได้เองภายในประเทศ
เข้าใจว่าเทคโนโลยีไม่น่าจะซับซ้อน
เราน่าจะให้อาจารย์ทางด้านวิศวะช่วยกันออกแบบ
แล้วส่งมอบแบบให้อาขีวะทั่วประเทศ ทุกจังหวัด เอาไปทดลองสร้าง ทดลองใช้
อาจใช้เงินทุนของ อบต. อบจฝ แล้วให้รถตัดอ้อยประจำอำเภอ ใช้งานร่วมกัน
4. ผมจะสั่งให้ #ตำรวจ อาสา และ
#หน่วยงานปกครองท้องถิ่น จับกุมและดำเนินคดีกับคนที่เผาในพื้นที่เปิด
โดยผมจะ print out พิกัดละติจูด และลองติจูดของจุด hot spot จาก website
http://www.asmc.asean.org แล้วผมจะทาบเลยว่าเป็นพื้นที่ของใคร
5. ผมจะ #ไม่พูด อะไรๆ ที่เป็นการเติมเชื้อไฟ เช่น ทนเอา ปัญหาเกิดจากประชาชน หรือ ห้ามใช้รถดีเซล เพราะมันปฏิบัติจริงไม่ได้
6. ผมจะเร่งทบทวนให้ #น้ำมันดีเซล
ที่ขายในไทยต้องได้มาตรฐาน #Euro6 ส่วนใครที่ยังใช้เครื่องยนต์ที่รับ
Euro-6 ไม่ได้ โดยเฉพาะรถยนต์ของรัฐ ต้องมีการปรับปรุงยกเครื่อง
หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่
6.1 (เพิ่มเติม)
เข้าในว่าอันนี้จะมีการริเริ่มไปแล้ว นั่นคือ ต้องปรับราคาน้ำมันดีเซลเกรด
Premium ลง น้ำมันพวกนี้ได้มาตรฐาน เทียบเท่า Euro-5 แล้ว แต่ปัจจุบันราคา
31+ บาท/ลิตร ซึ่งสูงกว่า ดีเซลธรรมดา ที่ราคา 27+ บาท/ลิตร มากๆ
ทำให้ยังไม่มีแรงจูงใจมากพอจะให้เติม
ต้องปรับลดราคาน้ำมันคุณภาพสูงเหล่านี้ให้ได้
7. ผมจะเร่งเปิดห้อง #CleanRoom
ในหน่วยงานรัฐทุกแห่ง และขอให้เอกชนจัดทำในอาคารของตนเอง เพื่อให้เด็ก
คนป่วย และคนชรา เข้าไปทำงาน ไปใช้ชีวิต
8. ผมจะสร้าง #DreamTeam
ที่มาจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน NGOs และนักวิชาการ
มาวางแผนรับมือปรากฏการณ์ #ฝุ่นพิษ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
(ระยะยาวอาจต้องพิจารณาเรื่อง ผังเมือง หรือแม้กระทั้งการย้ายเมืองหลวง)
9. ผมจะ #งดเว้นการจัดเก็บภาษี
การนำเข้าหน้ากากป้องกันพิษ เครื่องฟอกอากาศ และอุปกรณ์กำจัดฝุ่นทุกประเภท
รวมทั้งให้เงินสนับสนุนกับผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องมือเหล่านี้ภายในประเทศ
9.1 (เพิ่มเติม)
ผมจะเร่งศึกษาผลกระทบดรื่องการยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า
EV แน่นอนส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายเก่า แต่ต้องสร้าง
อุตสาหกรรม EV ในไทยให้ได้เพราะนอกจากจะไม่สร้างมลพิษแล้ว EV คือ
แนวโน้มแห่งอนาคตครับ
10. ผมจะสั่งให้ทุกท้องที่รัดกุม #ควบคุมดูแลโรงงาน และ #เขตก่อสร้าง ให้ต้องควบคุมการฟุ้งละอองของฝุ่น
11. ผมจะสั่งให้กระทรวงสาธารณสุข
สั่งโรงพยาบาลทุกแห่งให้เปิดบริการคลินิกดูแลระบบทางเดินหายใจ
รวมทั้งออกหน่วยแพทย์และอาสาไปในทุกโรงเรียนและทุกชุมชนเพื่อให้ความรู้
ตรวจสุขภาพ แจกหน้ากากอนามัย เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่าประเทศนี้
#เราดูแลคนของเรา
12. ผมจะออกสำรวจ ดูข้อมูล และให้เงินทุนสนับสนุน ว่าช่วงนี้เรามีโอกาสสร้าง #ฝนเทียม ได้มากหรือน้อยแค่ไหนในพื้นที่ใด
13.
ผมจะโชว์บทบาทการเป็นผู้นำอาเซียนและเป็นมหาอำนาจระดับกลาง
โดยการทำมาตรการหลายๆอย่างเพื่อช่วยเหลือดูแลไม่ใช่เฉพาะคนไทย แต่
#เผื่อแผ่ไปถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย
เพราะฝุ่นพิษฝุ่นละอองหมอกควันเป็นเรื่องข้ามพรมแดน
14.
ผมจะให้ผู้บริหารทุกกรมกระทรวงสำรวจดูว่า
งานส่วนไหนบ้างที่สามารถทำจากที่บ้านได้
น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะเริ่มต้นทดลองโครงการ #WorkFromHome
แล้วทำจริงๆเลยดูซิว่าเราจะสามารถใช้เทคโนโลยีได้ไหม
ในการทำงานของระบบราชการ
15. ผมจะสั่งให้ข้าราชการทุกคน #ปลูกต้นไม้ อย่างน้อยคนละ 1 ต้นทุกเดือน เป็น KPI ของหน่วยงานนั้นด้วย
16.
ผมจะเริ่มต้นศึกษาเพื่อจัดตั้งระบบและตลาดซื้อขาย Emission Quotas and
Emission Credit เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนลดมลพิษ โดยใช้ #กลไกตลาด
ซึ่งน่าจะได้ผลมากกว่าระบบคำสั่ง ควบคุมและการจัดเก็บภาษี/ค่าปรับ
17. ผมจะ #จัดระบบรถเมล์ใหม่
ก่อนครับ ให้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และเรือเป็นแกนหลักของระบบ
ทำหน้าที่วิ่งข้ามเมือง จากนั้นรถเมล์ค่อยมาวิ่งจากแต่ละสถานี/ท่า
เข้าไปในชุมชนใกล้ๆ ไม่ใช่รถเมล์วิ่งข้ามเมือง ซึ่งรถติด
และทำให้คาดการณ์เวลาเดินทางไม่ได้ รวมทั้ง
ตั๋วโดยสารทุกระบบต้องใข้เชื่อมร่วมกัน จ่ายครั้งเดียว ใช้ได้ทุกระบบ
ช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอครับ #อย่าเอาแต่ด่า
ก็เป็นข้อแนะนำจากทางด้านของ ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม
ในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษที่เรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
ต่อไปทางรัฐจะมีวิธีการแก้ปัญหายังไงต้องรอดูกันต่อไป
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Piti Srisangnam