Home »
Uncategories »
สัญญาณเตือน เพื่อนแบบนี้ เลิกคบเหอะ
สัญญาณเตือน เพื่อนแบบนี้ เลิกคบเหอะ
สัญญาณเตือน เพื่อนแบบนี้ เลิกคบเหอะ
ในชีวิตปัจจุบันคุณต้องพบกับผู้คนหลากหลายรูปแบบเหลือเกิน
บางคนที่คุณกำลังคบกำลังสนิทด้วย
แน่นอนว่าบนโลกใบนี้อาจไม่มีคนเพอร์เฟ็กซ์ไปซะทุกด้าน
แต่ถึงเวลาที่ตัวคุณต้องพิจารณาคนรอบข้างของคุณแล้วว่าเขากำลังมีนิสัยที่ไม่น่าคบดังต่อไปนี้หรือไม่
1. สนใจแต่เฉพาะเรื่องตัวเอง มักจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่ต้องการให้คนช่วยเสร็จแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ
คนประเภทนี้เอาคำว่า เพื่อน หรือความสัมพันธ์ต่างๆ มาบังหน้าไว้เท่านั้น
คุณสมบัติของคนเหล่านี้
ร้อยวันพันปีหากไม่มีเรื่องอะไรที่ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ
เขาจะไม่โผล่ตัวมาหาคุณเลย ยกตัวอย่างเล็กๆ เช่น เขาจะ Line จะ Facebook
ทักคุณมาก็ต่อเมื่อเขากำลังมีเรื่องให้คุณช่วยเท่านั้น
กลุ่มบุคคลนี้มักเป็นผู้เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียวซะด้วยสิ
และพอเขาใช้งานคุณเสร็จแล้วก็หายตัวเข้ากลีบเมฆไปอย่างรวดเร็ว
บุคคลเหล่านี้ขัดกับตำราเพื่อนที่ดีที่ได้กล่าวไว้ว่าคนช่วยต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
คนประเภทนี้หากคุณสังเกตดีๆ
ว่าเวลาคุณต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาบ้างบางครั้งเขาอาจจะไม่ปรากฏตัวเลยก็เป็นได้นะ
2. ทำตัวเป็น งูเห่า เลี้ยงไม่เชื่อง
สมัยเด็กคุณคงเคยได้ยินนิทานก่อนนอนเรื่อง ชาวนากับงูเห่า มาบ้างแล้ว
บางทีคุณไม่ได้โง่หรอกที่เมื่อเพิ่งรู้จักกันระยะแรกคุณมองไม่ออกว่าคนรอบตัวคุณใครคือ
งูเห่า ด้วยความที่คุณเป็นคนดีคุณก็เมตตาคนประเภทนี้ไปเรื่อยๆ
แต่คนประเภทนี้นอกจากเขาอาจจะไม่ได้ตอบแทนคุณด้วยการขอบคุณหือความรู้สึกที่ดีต่อคุณ
เขายังไปฉกกัดคุณ มีความริษย าในดวงใจ จ้องจะทำร้ ายคุณเป็นผลตอบแทน
3. ทำตัวเป็น นกสองหัว ปากอย่างใจอย่างหรือต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง
สำหรับบุคคลเหล่านี้แล้ว ต่อหน้าเขาคุณจะเปรียบเป็นเทพบุตรผู้ไร้ราคี
เขาจะไม่มีวันเอาข้อเสียหรือสิ่งที่เขาไม่พอใจมาพูดให้คุณได้ฟังต่อหน้าเป็นแน่
แต่อย่าได้เผลอเลยคนคนเดียวกันนี่เองลับหลังคุณเขาได้เอาคุณไปพูดไปนินทาไปพูดกระแนะกระแหนไปกุเรื่องเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง
จนกลายเป็นอีกเรื่องที่คุณอาจไม่คิดมาก่อนก็ได้
4. กอบโกยผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว จ้องเอารัดเอาเปรียบไม่มีที่สิ้นสุด
บุคคลประเภทนี้มักจะแอบแฝงมาในรูปแบบเพื่อนหรือคนสนิทต่างๆ เข้ามาหาคุณ
ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่เขาเข้าหาคุณนั้นเพียงเพื่อจะมาเอาผลประโยชน์จากคุณเท่านั้นซึ่งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่
อาจจะเป็นแรงกาย
หรือทรัพย์สินทางสติปัญญาของคุณเพื่อโอนเข้าทางประโยชน์ของเขา
มันเป็นเรื่องปกติมากที่คนเราทุกคนเกิดมาอย่าง น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
ความหมายคือคนเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน ย้ำอีกที ซึ่งกันและกัน
แต่บุคคลนี้กลับใช้คตินี้ตีความผิดไปหรือไม่ก็ตีความไม่ครบ
เขากลับเห็นแต่ประโยชน์ที่คุณจะสามารถให้เขาได้
ใช้เล่ห์กลเพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณสารพัดรูปแบบ
สำคัญแต่ตัวจะรับไม่คำนึงถึงการให้
โดยเบื้องลึกของจิตใจคนเหล่านี้บางคนไม่ได้คิดแม้แต่จะหาทางตอบแทนคุณอย่างใด
5. ไม่มีความ เสมอภาค ในมิตรภาพ ไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่าย
คุณอาจสงสัยว่าหมายถึงบุคคลประเภทนี้ใดกัน
บุคคลประเภทนี้ก็หมายถึงบุคคลที่ชอบทำอะไรที่ไม่เป็นธรรม
ตัวอย่างก็เช่นเวลาใดที่บุคคลเหล่านี้มีเรื่องทุกข์ใจอย ากแ
ชร์ก็ไปหาคุณได้ตลอดเวลา
แต่พอคุณมีเรื่องต้องการคนปรับทุกข์บ้างคุณกลับไม่สามารถไปหาคนคนนี้ได้เนื่องจากเขากลับไม่ได้รับฟัง
หรือ เขาอาจเรียกร้องน้ำใจของคุณอยู่ฝ่ายเดียว
เช่น ช่วยงานให้เขาหรือให้คุณช่วยอะไรเขาจิปาถะ
แต่เมื่อถึงทีของคุณบ้างคุณกลับไม่ได้รับน้ำใจนั้นกลับคืนมา
เรื่องนี้ดูเผินๆ อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย
แต่มันมีความหมายว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้มองเห็นความสำคัญในตัวคุณมากที่คุณคิด
6. เป็นนักกุเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความเป็นจริง
บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ
ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองได้ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงต่อผู้อื่นไปแล้วฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองเช่นไร
บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดจาบิดเบือนความจริง
จนบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง
7. เป็นมิจจาชีพในรูปแบบคนรู้จัก
บุคคลประเภทนี้อาจเข้ามาทำความรู้จักกับคุณเพราะเขาต้องการบางอย่างจากคุณแบบไม่สุจริต
เขาอาจเป็นมือขโมยในคราบของเพื่อน ไม่ว่าเป็นทรัพย์สินทางตัวหรือทางปัญหา
หรือไม่ก็หลอกหาผลประโยชน์ด้วยวิธีแบบเดียวกับที่มิจฉาชีพเขาทำกัน
สำหรับคนประเภทนี้แล้วเมื่อคุณต้องระวังตัวเมื่อเริ่มรู้ตัวว่ามีคนประเภทนี้เข้ามาในชีวิตทางที่ดีแนะนำให้ตีตัวออกห่างไปยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
หากคนรอบข้างของคุณหรือขอให้ถือโอกาสนี้รวมไปให้ตัวคุณเองได้พิจารณาตัวเองมีลักษณะนิสัยข้อใดที่เป็นอยู่จงรู้ไว้ว่าเป็นนิสัยที่ไม่น่าคบหา
หากเปลี่ยนได้ควรตั้งใจเปลี่ยนให้ดีตั้งแต่วันนี้ดีกว่า
คุณต้องอย่าลืมว่าคนที่มีนิสัยดังกล่าวเหล่านี้นั้นจงเชื่อว่าล้วนจะไม่เป็นผลดีต่อตัวของบุคคลคนนั้นเอง
บุคคลอื่นอาจจะรู้ไม่ถึงในครั้งแรกๆ แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มี Common sense
เป็นของตนเองที่จะรับรู้และพิจารณานิสัย
ชีวิตของบุคคลเหล่านี้จะแสแสร้งหรือทำนิสัยด้านลบเหล่านี้ต่อคนอื่นได้กี่ครั้งกันเชียว
ที่มา ข่าวน่ารู้