มะรุม เป็นพืชพื้นบ้านที่มีประโยชน์มากมาย
รับประทานได้แทบทุกส่วน เช่น ยอดอ่อน ใบ ฝัก ดอก เมล็ด ราก
จึงไม่แปลกที่คนโบราณจะนำฝักอ่อนมาใส่ในแกงส้มเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร
บ้างก็นำมาลวกจิ้มน้ำพริกกะปิ นัยว่า เป็นการฝึกให้กินมะรุมเป็นอย่างกลายๆ
การศึกษาค้นคว้าวิจัยในปัจจุบันพบว่า
มะรุมมีตัวยาสำคัญและสารอาหารจำเป็นหลายอย่างจึงมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
และช่วยป้องกันโรค บรรเทาอาการเจ็บป่วยได้มากมาย
คุณค่าทางโภชนาการของมะรุม
ฝักมะรุมสดปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 37 กิโลแคลอรี่ อุดมไปด้วยวิตามินเอ 4 ไมโครกรัม วิตามินซี 141.0 มิลลิกรัม น้ำ 88.20 กรัม ฟอสฟอรัส 50 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 45 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต 8.53 กรัม โปรตีน 2.10 กรัม นอกจากนี้ยังมีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด ได้แก่ ไขมัน ใยอาหาร แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมงกานีส โซเดียม สังกะสี วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9
ประโยชน์ของมะรุม
1.ใช้รักษาอาการหวัด แก้ไอสำหรับผู้ที่มีอาการหวัด ไอเรื้อรัง มีอาการภูมิแพ้ เพราะมะรุมอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จึงสามารถบรรเทาและรักษาอาการไข้หวัดและอาการไอได้
2.รักษาโรคขาดสารอาหาร นำมาใช้รักษาโรคขาดสารอาหารในเด็กได้โดยจะทำให้ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น เพราะในมะรุมมีสารอาหารหลายชนิด จึงสามารถทดแทนสารอาหารที่ขาดไปได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรับประทานอาหารอื่นๆ เพื่อเสริมแร่ธาตุสารอาหารให้เพียงพอด้วย
3.รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน เพียงนำใบมะรุมมากินเป็นประจำ โดยอาจนำมากินสดๆ หรือนำมาประกอบอาหารก็ได้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเหงือกและฟัน จึงไม่ทำให้มีเลือดออกตามไรฟัน
4.รักษาโรคเบาหวาน มีสรรพคุณในการควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดและลดระดับน้ำตาลให้น้อยลง จึงช่วยบรรเทาและชะลออาการของโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี ส่วนในคนปกติ เมื่อรับประทานมะรุมเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
5.ลดระดับความดันโลหิต งานวิจัยพบว่า การสกัดสารของฝักและผลของมะรุมทดลองในสุนัขและหนูแรทจะได้สารสำคัญประเภท Glycosides ซึ่งสามารถลดความดันโลหิตและลดอาการอื่นๆ ที่เกิดจากความดันโลหิตสูงได้ เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ เป็นต้น
6.ลดระดับไขมันในเลือด การสกัดสารสำคัญจากใบมะรุมนำมาทดลองในกระต่าย 120 วัน เทียบกับยาลดไขมันโลวาสแตทินพบว่า สารในใบมะรุมมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล phospholipids Triglycerides และ LDL ได้ และยังสามารถยับยั้งและสลายเซลล์ไขมันในหนูขาวได้ในปริมาณที่แตกต่างกันไป จากข้อมูลงานวิจัยสามารถกล่าวได้ว่า การรับประทานมะรุมสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดได้ แต่หากจะรับประทานเพื่อหวังให้เป็นยาระบายเพื่อลดน้ำหนักยังไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม
7.บรรเทาอาการปวด ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดตามข้อ หรือปวดส่วนไหนของร่างกายก็ตาม มะรุมจะช่วยลดอาการปวดตามกล้ามเนื้อและกระดูกได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยลดอาการอักเสบได้ดีอีกด้วย
8.กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด จึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถใช้รักษาอาการของโรคโลหิตจางได้อีกด้วย
9.บำรุงร่างกาย การรับประทานมะรุมเป็นประจำจะช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติ ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดความผ่อนคลาย พร้อมทั้งช่วยซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอ หรือบอบช้ำ ให้ฟื้นฟูและกลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติเร็วขึ้นอีกด้วย
10.บำรุงสายตา มีวิตามินเอสูงมาก จึงสามารถใช้รักษาอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับดวงตาได้ ทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง ป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา รวมถึงโรคต้อในตา โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานจ้องหน้าจอคอมเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ดวงตามีอาการเหนื่อยล้า ตาแห้ง และพร่ามัวได้
บำรุงผิวให้สวยใส มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มกระจ่างใส ผิวเนียนดูอ่อนเยาว์และปราศจากริ้วรอย ซึ่งก็เป็นการบำรุงผิวพรรณตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก เพราะฉะนั้นใครที่อยากมีผิวสวย มีสุขภาพผิวที่ดี มะรุมก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน
11.ต่อต้านมะเร็ง ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในมะรุม จึงสามารถต่อต้านการเกิดมะเร็ง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม
การใช้มะรุมเพื่อสุขภาพ
1.ต่อต้านมะเร็ง นำมะรุมมาต้มกับน้ำแล้วดื่มเป็นประจำช่วยปกป้องคุณจากโรคมะเร็งร้าย ส่วนผู้ป่วยโรคมะเร็ง การดื่มน้ำมะรุมควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูเร็วขึ้น และชะลอการแพร่กระจายของโรคได้ดี
2.แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย นำเปลือกต้นมะรุมมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาทำเป็นลูกประคบโดยการนึ่งให้ร้อน จากนั้นนำมาประคบให้ทั่วตามบริเวณที่มีอาการปวด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้แล้ว
3.ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น นำดอกมะรุมมาต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่มเป็นประจำ สังเกตได้ว่า อาการนอนไม่หลับจะค่อยๆ หายไป นอนหลับได้สนิทมากกว่าเดิม
4.แก้โรคผิวหนัง สกัดน้ำมันจากเมล็ดมะรุมนำมาใช้ทาบริเวณผิวหนังที่มีอาการ จะช่วยแก้ผิวแห้งและรักษาโรคเชื้อราบนผิวหนังได้ดี นอกจากนี้ยังทำให้ผิวพรรณมีความนุ่ม ชุ่มชื้น และมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นด้วย
5.ขับลม นำเปลือกต้นมะรุมมาต้มกับน้ำสะอาด แล้วนำมาดื่มเป็นประจำเช้าเย็น เพื่อช่วยให้ขับลม ทำให้เรอ และช่วยคุมธาตุอ่อนได้
6.ช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น นำเมล็ดมะรุมมาทานวันละเม็ดก่อนนอน จะช่วยแก้อาการท้องผูก และทำให้ขับถ่ายในตอนเช้าได้อย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติแล้ว ก็ให้หยุดทานทันที
7.รักษาโรคหูน้ำหนวก นำน้ำมันมะรุมมาหยอดหู จะช่วยบรรเทาและรักษาอาการให้ทุเลาลงจนหายเป็นปกติในที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยฆ่าพยาธิในหู และรักษาอาการเยื่อบุหูอักเสบได้เช่นกัน
8.แก้อาการผมร่วง นำน้ำมันมะรุม มานวดให้ทั่วศีรษะเป็นประจำ จะทำให้อาการผมร่วงลดน้อยลง พร้อมกับบำรุงรากผมให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เป็นผลให้เส้นผมแข็งแรงมากกว่าเดิม และไม่หลุดร่วงได้ง่าย
9.รักษาแผลสดที่แผลไม่ใหญ่มาก นำใบมะรุมมายี หรือโขลกจนละเอียด แล้วนำมาโปะไว้ที่แผลซึ่งจะช่วยรักษาแผลสดให้หายเร็วขึ้น และยังช่วยป้องกันการติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย ส่วนใครที่มีน้ำมันมะรุมก็อาจใช้มาทาแผลแทนได้เหมือนกัน
10.ลดความดันโลหิต นำใบมะรุมสดๆ มาตำคั้นน้ำผสมน้ำผึ้งกิน หรือนำยอดและรากมาต้มน้ำ ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น สามารถช่วยลดความดันโลหิตลงได้
ข้อควรระวัง
1.มะรุมมีพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคเลือดเพราะทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย
2.หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้สูง
3.ผู้ป่วยโรคเกาต์ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียได้
4.สำหรับผู้ที่รับประทานมะรุมต่อเนื่องเป็นเวลาควรตรวจการทำงานของตับ เนื่องจากผู้ป่วยบางรายที่ใช้มะรุมติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพบเอนไซม์เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นควรใส่ใจกับข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณด้วย
5.ควรเลือกใบที่ไม่แก่หรือไม่อ่อนเกินไป รับประทานสดๆ และไม่ถูกความร้อนมากเกินไปเพื่อให้ได้ประโยชน์จากสารอาหารเต็มที่
ขอบคุณข้อมูลจาก
1.คณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. มะรุม พืชที่ทุกคนอยากรู้
2.อธิกา จารุโชติกลม และคณะ. ฤทธิ์ของสารสกัดใบมะรุมต่อการสลายไขมันในเซลล์ไขมันจากหนูขาว
คุณค่าทางโภชนาการของมะรุม
ฝักมะรุมสดปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 37 กิโลแคลอรี่ อุดมไปด้วยวิตามินเอ 4 ไมโครกรัม วิตามินซี 141.0 มิลลิกรัม น้ำ 88.20 กรัม ฟอสฟอรัส 50 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 45 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต 8.53 กรัม โปรตีน 2.10 กรัม นอกจากนี้ยังมีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด ได้แก่ ไขมัน ใยอาหาร แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมงกานีส โซเดียม สังกะสี วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9
ประโยชน์ของมะรุม
1.ใช้รักษาอาการหวัด แก้ไอสำหรับผู้ที่มีอาการหวัด ไอเรื้อรัง มีอาการภูมิแพ้ เพราะมะรุมอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จึงสามารถบรรเทาและรักษาอาการไข้หวัดและอาการไอได้
2.รักษาโรคขาดสารอาหาร นำมาใช้รักษาโรคขาดสารอาหารในเด็กได้โดยจะทำให้ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น เพราะในมะรุมมีสารอาหารหลายชนิด จึงสามารถทดแทนสารอาหารที่ขาดไปได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรับประทานอาหารอื่นๆ เพื่อเสริมแร่ธาตุสารอาหารให้เพียงพอด้วย
3.รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน เพียงนำใบมะรุมมากินเป็นประจำ โดยอาจนำมากินสดๆ หรือนำมาประกอบอาหารก็ได้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเหงือกและฟัน จึงไม่ทำให้มีเลือดออกตามไรฟัน
4.รักษาโรคเบาหวาน มีสรรพคุณในการควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดและลดระดับน้ำตาลให้น้อยลง จึงช่วยบรรเทาและชะลออาการของโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี ส่วนในคนปกติ เมื่อรับประทานมะรุมเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
5.ลดระดับความดันโลหิต งานวิจัยพบว่า การสกัดสารของฝักและผลของมะรุมทดลองในสุนัขและหนูแรทจะได้สารสำคัญประเภท Glycosides ซึ่งสามารถลดความดันโลหิตและลดอาการอื่นๆ ที่เกิดจากความดันโลหิตสูงได้ เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ เป็นต้น
6.ลดระดับไขมันในเลือด การสกัดสารสำคัญจากใบมะรุมนำมาทดลองในกระต่าย 120 วัน เทียบกับยาลดไขมันโลวาสแตทินพบว่า สารในใบมะรุมมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล phospholipids Triglycerides และ LDL ได้ และยังสามารถยับยั้งและสลายเซลล์ไขมันในหนูขาวได้ในปริมาณที่แตกต่างกันไป จากข้อมูลงานวิจัยสามารถกล่าวได้ว่า การรับประทานมะรุมสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดได้ แต่หากจะรับประทานเพื่อหวังให้เป็นยาระบายเพื่อลดน้ำหนักยังไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม
7.บรรเทาอาการปวด ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดตามข้อ หรือปวดส่วนไหนของร่างกายก็ตาม มะรุมจะช่วยลดอาการปวดตามกล้ามเนื้อและกระดูกได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยลดอาการอักเสบได้ดีอีกด้วย
8.กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด จึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถใช้รักษาอาการของโรคโลหิตจางได้อีกด้วย
9.บำรุงร่างกาย การรับประทานมะรุมเป็นประจำจะช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติ ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เกิดความผ่อนคลาย พร้อมทั้งช่วยซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอ หรือบอบช้ำ ให้ฟื้นฟูและกลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติเร็วขึ้นอีกด้วย
10.บำรุงสายตา มีวิตามินเอสูงมาก จึงสามารถใช้รักษาอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับดวงตาได้ ทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง ป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา รวมถึงโรคต้อในตา โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานจ้องหน้าจอคอมเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ดวงตามีอาการเหนื่อยล้า ตาแห้ง และพร่ามัวได้
บำรุงผิวให้สวยใส มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มกระจ่างใส ผิวเนียนดูอ่อนเยาว์และปราศจากริ้วรอย ซึ่งก็เป็นการบำรุงผิวพรรณตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก เพราะฉะนั้นใครที่อยากมีผิวสวย มีสุขภาพผิวที่ดี มะรุมก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน
11.ต่อต้านมะเร็ง ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในมะรุม จึงสามารถต่อต้านการเกิดมะเร็ง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม
การใช้มะรุมเพื่อสุขภาพ
1.ต่อต้านมะเร็ง นำมะรุมมาต้มกับน้ำแล้วดื่มเป็นประจำช่วยปกป้องคุณจากโรคมะเร็งร้าย ส่วนผู้ป่วยโรคมะเร็ง การดื่มน้ำมะรุมควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูเร็วขึ้น และชะลอการแพร่กระจายของโรคได้ดี
2.แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย นำเปลือกต้นมะรุมมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาทำเป็นลูกประคบโดยการนึ่งให้ร้อน จากนั้นนำมาประคบให้ทั่วตามบริเวณที่มีอาการปวด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้แล้ว
3.ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น นำดอกมะรุมมาต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่มเป็นประจำ สังเกตได้ว่า อาการนอนไม่หลับจะค่อยๆ หายไป นอนหลับได้สนิทมากกว่าเดิม
4.แก้โรคผิวหนัง สกัดน้ำมันจากเมล็ดมะรุมนำมาใช้ทาบริเวณผิวหนังที่มีอาการ จะช่วยแก้ผิวแห้งและรักษาโรคเชื้อราบนผิวหนังได้ดี นอกจากนี้ยังทำให้ผิวพรรณมีความนุ่ม ชุ่มชื้น และมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นด้วย
5.ขับลม นำเปลือกต้นมะรุมมาต้มกับน้ำสะอาด แล้วนำมาดื่มเป็นประจำเช้าเย็น เพื่อช่วยให้ขับลม ทำให้เรอ และช่วยคุมธาตุอ่อนได้
6.ช่วยให้ขับถ่ายดีขึ้น นำเมล็ดมะรุมมาทานวันละเม็ดก่อนนอน จะช่วยแก้อาการท้องผูก และทำให้ขับถ่ายในตอนเช้าได้อย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติแล้ว ก็ให้หยุดทานทันที
7.รักษาโรคหูน้ำหนวก นำน้ำมันมะรุมมาหยอดหู จะช่วยบรรเทาและรักษาอาการให้ทุเลาลงจนหายเป็นปกติในที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยฆ่าพยาธิในหู และรักษาอาการเยื่อบุหูอักเสบได้เช่นกัน
8.แก้อาการผมร่วง นำน้ำมันมะรุม มานวดให้ทั่วศีรษะเป็นประจำ จะทำให้อาการผมร่วงลดน้อยลง พร้อมกับบำรุงรากผมให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เป็นผลให้เส้นผมแข็งแรงมากกว่าเดิม และไม่หลุดร่วงได้ง่าย
9.รักษาแผลสดที่แผลไม่ใหญ่มาก นำใบมะรุมมายี หรือโขลกจนละเอียด แล้วนำมาโปะไว้ที่แผลซึ่งจะช่วยรักษาแผลสดให้หายเร็วขึ้น และยังช่วยป้องกันการติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย ส่วนใครที่มีน้ำมันมะรุมก็อาจใช้มาทาแผลแทนได้เหมือนกัน
10.ลดความดันโลหิต นำใบมะรุมสดๆ มาตำคั้นน้ำผสมน้ำผึ้งกิน หรือนำยอดและรากมาต้มน้ำ ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น สามารถช่วยลดความดันโลหิตลงได้
ข้อควรระวัง
1.มะรุมมีพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคเลือดเพราะทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย
2.หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้สูง
3.ผู้ป่วยโรคเกาต์ไม่ควรรับประทานมากเกินไปเพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียได้
4.สำหรับผู้ที่รับประทานมะรุมต่อเนื่องเป็นเวลาควรตรวจการทำงานของตับ เนื่องจากผู้ป่วยบางรายที่ใช้มะรุมติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพบเอนไซม์เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นควรใส่ใจกับข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณด้วย
5.ควรเลือกใบที่ไม่แก่หรือไม่อ่อนเกินไป รับประทานสดๆ และไม่ถูกความร้อนมากเกินไปเพื่อให้ได้ประโยชน์จากสารอาหารเต็มที่
ขอบคุณข้อมูลจาก
1.คณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. มะรุม พืชที่ทุกคนอยากรู้
2.อธิกา จารุโชติกลม และคณะ. ฤทธิ์ของสารสกัดใบมะรุมต่อการสลายไขมันในเซลล์ไขมันจากหนูขาว