Home »
Uncategories »
เงิน 5 บาท ซื้อข้าวเหนียวไม่ได้อีกแล้ว! หลังข้าวกระสอบราคาพุ่งไม่หยุด
เงิน 5 บาท ซื้อข้าวเหนียวไม่ได้อีกแล้ว! หลังข้าวกระสอบราคาพุ่งไม่หยุด
ปัจจุบันเศรษฐกิจเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ข้าวของเครื่องอุปโภคบริโภคแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างกรณีที่ก่อนหน้านี้ร้าน ข้าวเหนียวหมู ก็ได้ปรับราคาขึ้น ทำเอาผู้ซื้อต่างก็ต้องทำใจเพราะถ้าไม่ซื้อก็ต้องอด
ล่าสุด
สื่อได้เผยว่าขณะนี้ชาวเชียงใหม่และชาวภาคเหนือที่บริโภคข้าวนึ่ง
หรือข้าวเหนียวนึ่งเป็นอาหารหลักมากกว่าข้าวสวย
ต้องประสบปัญหาอย่างหนักหลังพบว่า ช่วงเพียง 2
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาข้าวเหนียวนึ่งพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว
จากที่เคยจำหน่ายกิโกรัมละ
20-25 บาทตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40-50 บ.แล้ว ตามตลาดสดหลายแห่ง
ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองเชียงใหม่หรือตามตลาดชุมชน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 17
ส.ค. ราคาข้าวเหนียวนึ่งที่ตลาดประตูเชียงใหม่
ยังมีราคาสูงสุดที่กิโลกรัมละ 50 จากที่เคยขาย 35
ส่วนที่ตลาดชุมชนท่าเดื่อ
ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นตลาดชุมชนที่ขยับออกมาจากตัวเมือง
พบว่ามีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นเช่นกันจากกิโลกรัมละ 30 บ. เป็นกิโลกรัมละ
40 บ. โดยมีการขึ้นป้ายเพิ่มราคามาสองครั้งแล้วในรอบสัปดาห์
และยังมีแนวโน้มว่าอาจจะต้องขยับราคาเพิ่มสูงขึ้นอีก
นอกจากนี้แล้วยังต้องปรับราคาขายขั้นต่ำอยู่ที่
10 บ. จากที่ 5 บ.ก็สามารถขายได้พอกินสำหรับ 1 มื้อ
แต่ตอนนี้ไม่สามารถจำหน่ายในราคา 5
บ.ได้แล้วเพราะนอกจากจะได้น้อยแล้วยังต้องแบกภาระเรื่องของค่าถุง ค่าน้ำ
ค่าแก๊สสำหรับนึ่งจึงต้องขอขยับราคาขายขั้นต่ำขึ้นมาที่ 10 บ.
นางบัว
ศรีวิชัย แม่ค้า ข้าวนึ่งร้านใบบัว ตลาดชุมชนท่าเดื่อเปิดเผยว่า
ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมราคาข้าวของยี่ปั๊วเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2
สัปดาห์ ข้าวเหนียวสันป่าตองจากกระสอบ 45 กิโลกรัมจำหน่ายกระสอบละ 800
ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 1700 บ.ข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากกระสอบละ 1,200
บ.ปรับขึ้นมาเป็น 2,000 บ.
ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว
จึงต้องมีการขยับราคาขึ้นต่อเนื่องจนวันนี้มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บ.
และราคายังไม่นิ่งอาจจะเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ที่ 50
บ.ได้หากราคาข้าวสารข้าวเหนียวยังไม่ลดลง แม้จะสงสารลูกค้าก็ต้องจำยอม
ลูกค้าบอกว่า
เลือกที่จะกินข้าวนึ่ง เนื่องจากเป็นอาหารหลัก
และเหมาะสำหรับอาหารพื้นเมืองของชาวเหนือ
โดยข้าวเหนียวนึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเนื่องจากจะมีความหอมเหนียวนุ่ม
ปั้นแล้วไม่ติดมือ
ไม่เละเเฉะจึงจะแพงกว่าข้าวเหนียวสันป่าตองที่ค่อนข้างจะนึ่งยากเเฉะง่าย
ทั้งนี้
ลูกค้าส่วนใหญ่ก็วอนให้ภาครัฐเข้ามาควคุมคุมราคาข้าวเหนียวอย่างเร่งด่วนเนื่องจากกระทบโดยตรงกับปากท้องของชาวบ้าน
เงินประชารัฐแม้จะได้มาก็คงไม่พอแบกภาระค่าอาหารอย่างข้าวเหนียวที่ต้องกินกันทุกวัน
บางคนจากที่เคยซื้อ 5 บ. กินได้ 1-2 มื้อมาวันนี้ต้องซื้อ 10 บ.
สำหรับกินคนเดียว
และอาจจะไม่อิ่มด้วย ครั้นจะนึ่งเองสำหรับครอบครัวเล็กๆ
ก็ยากเนื่องจากการนึ่งต้องมีขั้นตอนใช้เวลา และนึ่งทีละมากๆ
ถึงจะคุ้มค่าแก๊ส
ทางออกหลักจึงเลือกที่จะซื้อข้าวเหนียวนึ่งเป็นกิโลมากกว่านึ่งเอง
จากการปรับราคาข้าวเหนียวขึ้นเพราะประสบปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตั้งแต่กระบวนการปลูก
ส่งผลให้ได้รับผลกระทบจนถึงผู้บริโภคอย่างเราๆในยุคที่ข้าวยากหมากแพง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: Mgronline